บทที่ 15 ผลัดเปลี่ยน
เหมยลี่กวาดตามองไปรอบห้องอย่างตื่นตะลึง สัมผัสได้ถึงความหรูหราที่ไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต กลิ่นอโรม่าที่อบอวลอยู่ในอากาศช่วยให้จิตใจของเธอสงบลง แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกแยกจากความคุ้นชินเดิม ๆ
เตียงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องเหมือนเป็นจุดเด่นดึงดูดสายตา เสาเตียงสี่มุมประดับด้วยผ้าม่านโปร่งที่ถูกดึงเปิดออกเผยให้เห็นผ้าปูเตียงสีขาวสะอาดตา โต๊ะข้างเตียงทั้งสองข้างดูเหมือนถูกจัดแต่งมาอย่างพิถีพิถัน ด้านขวาของเตียงวางโคมไฟที่มีลวดลายลูกไม้ระบาย ดูหรูหราและให้ความรู้สึกอ่อนหวาน ส่วนอีกด้านมีแจกันแก้วใสที่บรรจุดอกกุหลาบสีแดงสดจำนวนห้าดอก ให้ความรู้สึกโรแมนติกแต่เรียบง่าย
ปลายเตียงวางสตูลยาวบุด้วยกำมะหยี่สีขาวที่เงางาม นุ่มละมุนราวกับเชิญชวนให้สัมผัส ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนี้ดูเหมือนถูกออกแบบมาเพื่อเน้นความสง่างามในสไตล์ยุโรป
เหมยลี่อดเปรียบเทียบไม่ได้ว่าห้องนี้ดูใหญ่โตและสะดวกสบายกว่าห้องเช่าของเธอที่คับแคบเหมือนกับรูหนูไปเลย
เหมยลี่นึกย้อนไปถึงทางเดินที่เธอผ่านเข้ามา ทั้งโถงทางเดินกว้างขวางที่ปูด้วยพรมเนื้อนุ่มลายหรูหรา โคมไฟแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่ระยิบระยับด้วยคริสตัลที่แขวนอยู่บนเพดานสูง ทำให้ทุกย่างก้าวของเธอเหมือนอยู่ในฉากภาพยนตร์
เฟอร์นิเจอร์ที่วางประดับในแต่ละมุมของคฤหาสน์ล้วนแต่เป็นของชั้นเลิศ โต๊ะไม้แกะสลักลวดลายประณีต ตู้โชว์ที่บรรจุเครื่องแก้วใสและพอร์ซเลนล้ำค่า ผ้าม่านหนาสีทองที่ปิดหน้าต่างบานใหญ่ดูเหมือนจะมีไว้ทั้งเพื่อความงดงามและเพื่อกั้นลมหนาวจากภายนอก
แม้แต่เพดานยังถูกตกแต่งด้วยภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังอันวิจิตร ฝีมือช่างชั้นครู ทุกซอกทุกมุมของคฤหาสน์แห่งนี้สะท้อนความมั่งคั่งอย่างไม่ปิดบัง และสิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจที่สุดก็คือ... ความอบอุ่นที่กระจายอยู่ทั่วทั้งคฤหาสน์
เพราะว่ามีฮีตเตอร์ที่ติดตั้งในทุกห้อง ทุกทางเดิน ทำให้เหมยลี่รู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ แม้ว่าอากาศภายนอกจะหนาวเหน็บเพราะฝนตกอย่างหนักก็ตามที เธออดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดว่าหยวนเฉิน เจ้าของคฤหาสน์ผู้ร่ำรวย ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนละเท่าไหร่ถึงจะสามารถรักษาระดับความสะดวกสบายนี้ไว้ได้
เธอถอนหายใจเบา ๆ พร้อมกับคิดว่าโลกของหยวนเฉินนั้นแตกต่างจากโลกของเธออย่างสุดขั้ว ราวกับว่าเขาอยู่ในอีกมิติหนึ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน
“เสื้อผ้าผลัดเปลี่ยนอยู่ในห้องน้ำแล้วนะคะ ส่วนยาแก้ไข้อยู่บนโต๊ะข้างๆ โซฟานะคะ” เหนียงเหนียงเอ่ยบอกเหมยลี่ด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร เหมยลี่เผยรอยยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรด้วยเช่นกัน
“ขอบคุณค่ะ” เหมยลี่เอ่ยบอกเช่นนี้ เหนียงเหนียงเดินไปที่หัวเตียงเปิดลิ้นชักตรงโต๊ะฝั่งโคมไฟ และหยิบรีโหมด เหนียงเหนียงเดินกลับมาหาเธอ
“ถ้าต้องการสิ่งใด ให้กดที่ปุ่มสีแดงนะคะ จะมีสาวใช้ขึ้นมาหาคุณค่ะ” เหนียงเหนียงเอ่ยบอกเหมยลี่ เหมยลี่มองปุ่มสีขาวและสีแดง เหมยลี่เผยรอยยิ้มไม่ได้ถามสิ่งใด
“ขอบคุณมากค่ะ” เหมยลี่เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ” เหนียงเหนียงเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม เหมยลี่พยักหน้าเบาๆ เหนียงเหนียงจึงก้าวเดินไปที่ประตูออกไปจากห้องนี้ เธอยังไม่ลืมที่จะปิดประตูอย่างเบามือ เหมยลี่คิดว่าทำไมหยวนเฉินถึงดีกับเธอถึงเพียงนี้ หรือเป็นเพราะเขาสำนึกผิดเรื่องที่ขืนใจเธอกันแน่ จะว่าหยวนเฉินผิดคนเดียวก็ไม่ได้ ต้องโทษว่าใครกันเป็นคนมอมยาเธอ ตอนนี้เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าใครกันเป็นคนมอมยาทำให้เธอทำเรื่องน่าอายกับผู้ชายที่เธอไม่รู้จัก
