๑ รองรับอารมณ์ (๑)
๑
รองรับอารมณ์
พิธีฌาปนกิจศพของนางสาววรางคนาง สิทธิกรถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่วัดใกล้บ้าน โดยมีเจ้าภาพในพิธีเป็นเจ้าของบริษัทอย่าง นายภูวิศ สุวิชาวรนันท์ เขาเป็นแฟนหนุ่มของผู้ตายที่เอาแต่มองรูปคนรักด้วยความอาลัยอาวรณ์
เพิ่งกลับมาไทยได้ไม่นานเพราะต้องจัดการธุรกิจส่งออกอาหารแช่แข็งของมารดา ชายหนุ่มไม่ได้บริหารงานโดยตรงเพราะจ้างคนมีความรู้มาจัดการให้ได้ผลกำไร ส่วนตนเองก็อยู่ในตำแหน่งประธานและวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์มาช่วงประชุมเท่านั้น
ชายหนุ่มมาดูแลเกี่ยวกับเครือข่ายโรงแรมที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนเอง งานเหล่านั้นถูกมอบหมายให้เขา เนื่องจากบิดาเชื่อใจว่าลูกชายจะทำมันออกมาได้ดี แล้วค่อยกลับนิวยอร์กหลังเรื่องทุกอย่างเสร็จสิ้น
ทว่าเพียงแค่ถึงไทยก็ได้รับข่าวร้ายทันทีจนต้องรีบบึ่งไปโรงพยาบาลยืนยันตัวผู้ตายว่าใช่คนรักหรือไม่ หล่อนตัดสินใจจบชีวิตด้วยการกระโดดตึกจากดาดฟ้าคอนโดที่อาศัยอยู่ สร้างความหวาดผวาให้แก่ผู้พักอาศัย
เหตุผลที่เธอเลือกจบชีวิตนั้นเขายังไม่ทราบแน่ชัดว่ามันคืออะไร แต่ไม่นานหรอก จะต้องรู้ถึงสาเหตุให้ได้ว่าทำไมวรางคนางถึงตัดสินใจทำเช่นนี้ทั้งที่ชีวิตกำลังไปได้ด้วยดี
และหล่อนยังตั้งท้องลูกให้เขาอีก...
ลูกที่เขาไม่เคยรู้ว่ามี และเป็นลูกที่เขาอยากรู้เหลือเกินว่าใครคือพ่อของเด็ก ในเมื่อเขาไม่ได้แตะต้องหล่อนมาหลายปีแล้ว!
หลังจากผู้พิพากษาตัดสินยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ทั้งไม่มีพยานวัตถุที่บ่งชี้ถึงตัวคนร้าย ไร้ซึ่งพยานบุคคล จำเลยจึงรอดพ้นสร้างความเคียดแค้นให้แก่คนมองดูด้วยแววตาวาวโรจน์ ตลอดระยะเวลากว่าสามเดือนที่พยายามหาหลักฐานและวิ่งเต้นใช้เส้นสายเพื่อจับฆาตกรที่ฆ่าคนรักไม่ใช่เรื่องง่าย
ในเมื่ออีกฝ่ายก็เป็นตำรวจมียศเช่นเดียวกัน และที่เจ็บมากกว่านั้นคือมันหันมามองเขาด้วยความเยาะเย้ยจนเกือบพุ่งเข้าไปชกหน้าให้หายแค้น
ภูวิศทราบหลังจากเสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจไม่นานว่ามันมีเงื่อนงำบางอย่าง เขาค้นพบวีดีโอที่แฟนสาวถูกข่มขู่ให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย ทั้งยังข้อความอีกมากมายในแอพลิเคชั่นสีฟ้า เนื้อหาส่วนใหญ่ก็ขู่ไม่ให้บอกใครเรื่องนี้ ทั้งยังบอกจะพาเพื่อนมารุมโทรมอีกด้วย
แค่อ่านเขาก็แทบอาเจียนไปหลายรอบ สงสารหญิงสาวต้องมาเจอเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ ร่างสูงพยายามหาข้อมูลคนทำจนกระทั่งนำวีดีโอไปให้ผู้เชี่ยวชาญเทียบเสียงถึงได้รู้ว่าเป็นชายคนนั้น
เดชธรรม กรกนกรัตน์
อดีตคู่แค้นซึ่งไม่ชอบหน้ากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เขาเกลียดมันจนอยากจะฆ่าให้ตายด้วยซ้ำ ทว่ามันคือพี่ชายของอดีตคนรักที่เขายังไม่อาจลบเลือนออกจากหัวใจไปได้หมด ยังมีร่องรอยของผู้หญิงคนนั้นเต็มดวงใจ
ชายหนุ่มตัดสินใจนำหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งตำรวจ แต่วีดีโอที่มีเพียงเสียงไม่ถูกยอมรับให้เป็นหลักฐาน และเฟซบุ๊กของผู้ส่งข้อความข่มขู่ก็เป็นการทำขึ้นเพื่อใช้ติดต่อเฉพาะเรื่อง หาที่อยู่หรือข้อมูลเจ้าของบัญชีรายชื่อไม่พบ ทุกอย่างมืดแปดด้าน ดูเหมือนคนร้ายจะทำงานได้ดีเกินไป
ภูวิศจึงตัดสินใจจะใช้เส้นสายที่ตนเองมีจับมันเข้าคุก และเรื่องก็ถึงศาลชั้นต้นกระทั่งถูกยกฟ้องจนได้
“ไม่เจอกันนานมึงก็ยังอารมณ์ร้อนเหมือนเดิมเลยนะ ไอ้ภู” ร่างสูงเดินลงมาจากอาคารที่ใช้ตัดสินความผิดของประชาชนด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ทว่าดวงตาแดงก่ำเพราะอารมณ์โกรธจนอยากร้องไห้ในความไม่ยุติธรรมที่กำลังเผชิญ
“มึงก็ยังเลวไม่เปลี่ยน” ตอบกลับเสียงเข้มพร้อมท่าทีหาเรื่องเต็มที่ อยากชกสักหมัดให้หายแค้นแต่ก็กำมือตัวเองไว้แน่น
“พอดีกูคงเส้นคงวา แต่ก็ยินดีต้อนรับกลับไทย ของขวัญจากกูมึงชอบไหมล่ะ” ยักคิ้วพลางยกยิ้มมุมปาก เขารู้ดีว่าของขวัญนั้นคืออะไร มองตากันก็เห็นไปถึงไส้ถึงพุง
ความบาดหมางระหว่างภูวิศและคนตรงหน้ามันคงเริ่มมาจากการที่เดชธรรมยกพวกมาตีเพื่อนสนิทของเขาจนเข้าโรงพยาบาล จากนั้นมาก็กลายเป็นคู่อริตลอดกาล เจอหน้ากันที่ไหนเป็นต้องพุ่งเข้าใส่ไม่คิดชีวิต
ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเจอมันอีกในสภาพแบบนี้
ที่เขาแพ้ราบคาบและมันคือคนที่ฆ่าวรางคนางให้ตายทั้งเป็นจนหล่อนเลือกจบชีวิตตนเองจะได้พ้นจากสภาพไก่รองบ่อนเสียที
“พี่ป้องเป็นยังไงบ้าง” เสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วก่อนหญิงสาวผู้เป็นบุคคลที่สามจะมาหยุดยืนข้างพี่ชายแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
หล่อนเพิ่งรู้ข่าวทั้งที่ความจริงผ่านมาหลายเดือนแล้ว ชายหนุ่มปิดบังเอาไว้ไม่ต้องการให้น้องสาวรู้จะได้ไม่เป็นห่วง แต่ทำไมเธอถึงได้ทราบข่าวทั้งยังวิ่งหน้าตั้งมาหาอีกต่างหาก ใครมันปากสว่างไปบอกต้องจัดการเสียแล้ว
ร่างสูงของหนุ่มลูกครึ่งยืนนิ่งเมื่อมองคนมาใหม่ ใบหน้าสวยหวานที่ชายหลายคนต่างหมายปอง เธอมีฉายาว่าสวยพิฆาตเพราะทำเอาคนตกหลุมรักจนใช้กำลังแย่งชิงมานักต่อนักแล้ว ความงามเป็นที่เลื่องลือจนแม้แต่เขาเองผู้ไม่เคยตกหลุมรักใครก็ตกบ่วงของเธอ
ผิวขาวกายนวลราวกับจะเปล่งแสงออกมาได้ทุกเมื่อ ทั้งรูปร่างงดงามที่ติดตรึงในใจไม่เคยจางหายแม้จะได้ร่วมรักกับใครก็ไม่เหมือนหล่อนสักคน
เวลาผ่านมาแล้วห้าปีแต่ใจเขาไม่เคยลืมคนตรงหน้าได้เลย ถึงจะมีแฟนหรือคู่นอนเข้ามาก็ไม่อาจทำให้ภาพของหญิงสาวหายไป
ดมิสา ตุลากุล เธอผู้ซึ่งประทับในดวงใจตลอดมา...
“มิมาได้ยังไง” หล่อนยังไม่รับรู้ถึงใครอีกคน สายตาเอาแต่มองคนเป็นพี่ด้วยความห่วง
“ขับรถมาน่ะสิ ทำไมไม่บอกว่ามีเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พี่เก็บเงียบทำไม” เอ็ดเสียงเข้มพลางทำหน้าบึ้งอยากจะหยิกสักทีสองทีแต่ไม่ได้อยู่ในที่รโหฐานถึงได้ระงับอารมณ์เอาไว้
กำลังจะพูดขึ้นอีกแต่ก็มีเสียงขัดก่อน และเป็นเสียงที่ได้ยินครั้งเดียวก็จำขึ้นใจ ถึงไม่ได้พบหน้ากันหลายปีก็ตาม
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ร่างบางตัวแข็งทื่อราวโดนแช่เอาไว้ในช่องฟรีช ริมฝีปากสั่นไหวขณะที่ดวงตาก็หลุกหลิกไปมา เดชธรรมเห็นทุกอย่างค่อยกำมือแน่นทั้งที่ในใจอยากลากน้องสาวออกมาจากที่ตรงนี้
เขารู้แก่ใจว่าหล่อนไม่เคยลืมรักแรกเลย แม้จะมีพี่ชายที่คิดไม่ซื่ออยู่ข้างกายตลอดเวลาก็ตาม ทว่าไม่อาจสู้ชายที่ยังยึดครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในใจของเธอได้
ดมิสาไม่อยากหันไปเพราะรู้ว่าตนไม่อาจควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้แน่ คอยแอบติดตามข่าวสารของชายหนุ่มตลอด ถึงพยายามหักห้ามใจแต่มันก็เป็นไปได้ยากในเมื่อความทรงจำระหว่างเรามันยังไม่เคยเลือนหายไปจากใจของหล่อนเช่นกัน
เขาคือรักครั้งแรก ผู้ชายคนแรก และอาจจะเป็นคนเดียวในชีวิตนี้
“กลับกันเถอะค่ะ” เลือกจะไม่หันหลังไปมองใบหน้าคมที่สร้างความเจ็บปวดแก่ตนเองแล้วจูงมือพี่ชายออกจากสถานที่แห่งนี้
เดชธรรมตามใจน้องสาวต่างสายเลือดด้วยการจับมือเล็กแล้วจูงกึ่งลากออกไปทันที ภูวิศไม่ได้ห้ามปรามหรือวิ่งเข้าไปหาเพราะเขาเห็นบางอย่างที่จะทำให้มันเจ็บเหมือนที่ตนเจ็บ ทั้งยังได้แก้แค้นผู้หญิงที่ทรยศตนเองไปหาชายอื่น
มุมปากที่เคยราบเรียบยกยิ้มขึ้นมาทันที เห็นหนทางบางอย่างเสียแล้ว ในเมื่อกฎหมายทำอะไรมันไม่ได้แล้วทำไมเขาไม่ตั้งตัวเป็นศาลเตี้ยตัดสินโทษไปเลยล่ะ กฎของโลกนี้คือใครมีอำนาจน้อยกว่าก็ย่อมเป็นผู้แพ้เสมอ
ถึงเดชธรรมจะมีหัวหน้าในกรมตำรวจช่วยเหลือแต่ถ้าลูกน้องกลายเป็นหนามแหลมคอยทิ่มตำก็ควรกำจัดไม่ใช่หรืออย่างไร มือหนาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดโทรออกอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีครับผู้กำกับ ผมภูวิศมีเรื่องจะคุยกับท่านพอจะมีเวลาว่างหรือเปล่าครับ” การที่มันรอดคดีไปได้เขาเชื่อว่าต้องได้รับการช่วยเหลือจากคนมียศในสถานีตำรวจนครบาลเป็นแน่ แต่อีกฝ่ายคงคาดไม่ถึงว่าเขามีไผ่เด็ดกว่านั้น
“ถ้าเป็นวันนี้พอจะได้หรือเปล่าครับ ครับ ขอบคุณนะครับ” กดวางสายไปทันทีเมื่อได้รับคำตอบที่พึงพอใจ จากนี้ชีวิตของเดชธรรมจะไม่มีความสุขอีกต่อไป
มันกล้ามากที่มากระตุกหนวดเสือ เมื่อก่อนเขายังเป็นแค่เด็กมีเพียงกำลังในการต่อสู้ แต่ในเวลานี้ที่เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ ใช้สมองและเส้นสายเล่นงานมันได้
แค่ยศร้อยตำรวจตรีมีหรือจะสู้ระดับพันตำรวจโทที่ดำรงตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจ คิดอย่างหมายมาดค่อยขึ้นรถยนต์ของตนเองแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว จุดหมายคือบ้านชานเมืองซึ่งห่างไกลจากผู้คน รายล้อมไปด้วยต้นไม้และคูคลอง ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเหมาะจะเป็นสถานที่ตัดสินโทษแก่นักโทษที่หนีความผิดเป็นที่สุด!
“เดี๋ยวก่อนมิ” มาถึงบ้านหญิงสาวก็เดินขึ้นไปบนห้องของตัวเองแต่ถูกพี่ชายคว้าแขนไว้เสียก่อน หล่อนสะดุ้งเหมือนคนที่ตื่นจากภวังค์แล้วค่อยจ้องดวงตาคมที่มองมาก่อนหน้าแล้ว เขาไม่ใคร่ชอบใจกับท่าทีของน้องนอกไส้สักเท่าไหร่
มันทำให้เขากลายเป็นคนขี้แพ้ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาชนะใจหล่อนได้เลย พยายามเท่าไหร่ก็ยังย่ำอยู่จุดเดิม
“คนที่ฟ้องพี่ป้องจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล คือเขาเหรอคะ” ถามเสียงสั่นไหวพลางเม้มปากแน่นภาวนาให้ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น หล่อนไม่ได้มองหน้าชายหนุ่มที่ไม่เจอกันนานหลายปี กลัวว่าจะแสดงกิริยาให้ฝ่ายนั้นรู้ว่าความรู้สึกที่มีต่อเขายังเหมือนเดิม
มันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
“ใช่ มันหาว่าพี่ข่มขืนแฟนมันจนฆ่าตัวตาย แต่พี่ไม่ได้ทำ หลักฐานอะไรก็ไม่มี มันก็แค่ต้องการเล่นงานพี่เท่านั้น” พอจะรับรู้ว่าภูวิศมีแฟนที่รักมากจนถึงขั้นจะแต่งงาน
เขามีคนอื่นทันทีหลังจากเลิกกับหล่อน ช่างน่าขำเสียเหลือเกินที่โดนทำร้ายจิตใจขนาดนี้ยังไม่ลืมสักที เธอคงเป็นบ้าไปแล้วที่ภักดีกับคนที่ทรยศความรัก
“พี่ป้องไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เขาส่ายหน้าแล้วก้าวเข้าไปใกล้เธอมากกว่าเดิม จับสองมือเล็กมากุมเอาไว้พลางฉีกยิ้มกว้าง
“พี่ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วงนะ” หล่อนพยักหน้าขึ้นลงก่อนปลดมือเขาออกแล้วเดินเข้าห้องของตนเองราวต้องการใช้ความคิด วันนี้ลางานเพื่อไปหาพี่ชายโดยเฉพาะแต่ใครจะคาดคิดว่าจะเจอเรื่องที่น่าตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อตัว
คนที่ไม่เจอหน้าห้าปีกลับมาพบกันในสถานการณ์แบบนี้ ช่างน่าขันสิ้นดี...
ห้องกว้างมีเตียงอยู่ติดหน้าต่างตามความชอบของเธอ ตรงข้ามเตียงเป็นโต๊ะอ่านหนังสือและตู้เสื้อผ้า ทั้งยังมีโต๊ะเย็บผ้าอีกด้วย บางครั้งเธอก็ไปซื้อม้วนผ้ามาตัดชุดใส่เอง ความฝันอีกอย่างคือเป็นดีไซเนอร์แต่ช่างไกลตัวเหลือเกิน
ตอนนี้จึงต้องเลือกงานตามสายที่ตนเองจบมา นั่นคือการโรงแรม...
ถึงงานจะหนัก เงินเดือนได้ตามค่าแรงของนักศึกษาปริญญาตรีแต่เงินพิเศษที่ได้จากการดูลูกค้าก็พอจะทำให้หายใจหายคอคล่องบ้าง เธอเรียนจบออกมาก็มีงานทำทันทีเป็นโรงแรมสี่ดาวแห่งหนึ่ง อยู่แผนกต้อนรับ เจอผู้คนมากมายที่เข้ามาหวังสานสัมพันธ์แต่เธอก็ปฏิเสธ
ไม่ต้องการหาใครเข้ามาทำให้ชีวิตวุ่นวาย
อีกทั้งยังลืมชายคนแรกของตนเองไม่ได้ถึงเรื่องมันจะผ่านมาห้าปีแล้วก็ตาม... ความทรงจำมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน อยากจำกลับลืม สิ่งที่อยากลืมกลับจำได้ขึ้นใจ
ร่างบางเดินไปยังโต๊ะอ่านหนังสือ เลื่อนลิ้นชักแล้วหยิบรูปถ่ายที่ซุกไว้ด้านในสุดออกมา มองมันอย่างโหยหาก่อนจะรีบปาดน้ำตาที่ไหลเปื้อนแก้มให้หายไปจากใบหน้า