ตอนที่9 ตำราชุนชิว
ห้องหนังสืออันใหญ่โตและกว้างขวาง ล้อมรอบไปด้วยหนังสือหนาแน่นเต็มทุกชั้น
หนังสือแต่ละเล่มล้วนแล้วแต่เป็นหนังสือหายากและน่าอ่าน บางเล่มจิวซินอยากอ่านแต่ไม่มีปัญญาหาซื้อหรือหามาอ่านได้
วันนี้จึงนับเป็นวันดีในรอบร้อยปีมีครั้ง จิวซินย่อมยิ้มแย้มแก้มปริ ทำความสะอาดหนังสือเล่มนั้นทีเล่มนี้ทีอย่างมีความสุขเป็นที่สุด
นางกำลังรู้สึกว่าตัวเองได้มาอยู่ท่ามกลางขุมทรัพย์อันล้ำค่า และทรงคุณค่ามากมายมหาศาลกระนั้น
ด้วยเพราะว่าที่บ้านของนางไม่มีห้องหนังสือยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ตู้หนังสือมิได้เรียงรายเยอะแยะปานนี้ จำนวนหนังสือยิ่งมิใช่เกินนับได้เหมือนดั่งเช่นที่นี่
อา...นางอยากอยู่ท่ามกลางขุมทรัพย์เยี่ยงนี้ไปนานๆ
คุณชายหนิงช่างเป็นบุรุษที่น่าเลื่อมใสเสียจริง มีหนังสือดีปานนี้ แต่ไม่คิดจะหวงแหน ทั้งยังให้นางที่เป็นเพียงบ่าวไพร่ชั้นต่ำได้เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด อืม...เขาคงเป็นผู้รู้ผู้ทรงภูมิจุติมาเกิดเป็นแน่
จิวซินคิดได้อย่างนั้นจึงยิ่งคลี่ยิ้มสดใสยามทำความสะอาดหนังสืออยู่อย่างนั้น หญิงสาวเป็นคนที่รักการอ่านการเขียนเป็นชีวิตจิตใจ
การได้มาอยู่ในสถานที่ซึ่งคล้ายกับจรรโลงจิตใจอย่างเช่นที่นี่ นับได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อจิตใจสาวน้อยเช่นนางยิ่งนัก
เมื่อหันไปเพ่งพิศคุณชายผู้เป็นนายของตนก็ยิ่งสร้างความเคารพนับถือเพิ่มขึ้นมาอีกหลายส่วน นางจึงแอบมองเขาอย่างปลื้มปริ่ม
เขาเป็นบุรุษที่น่าชื่นชมเสียจริง ดูท่านั่งอ่านหนังสือนั่นประไร ช่างงดงามผ่าเผยยิ่ง ตัวตรงหลังตั้ง องอาจน่าเคารพกราบไหว้มากๆ
จิวซินแอบมองจ้าวหนิงหลงไม่วางตา ขณะกำลังยกหนังสือขึ้นมาบดบังใบหน้าเหลือเพียงดวงตากลมโตเอาไว้
นางหัวเราะคิกคักชอบใจอยู่คนเดียวตรงมุมหนังสือ
จ้าวหนิงหลงที่เดิมทีเพียงนั่งอ่านหนังสืออยู่ห่างๆ ด้วยท่าทางสงบนิ่งสุขุมนุ่มลึกแลดูงามสง่าเหนือใครให้รู้สึกนึกห่วงใยในสวัสดิภาพของใครบางคนขึ้นมาแล้ว
มิรู้ได้ว่านางเป็นอันใดมากหรือไม่ หรือว่านางแอบอ่านหนังสือผิดประเภทหรือไร เขาอาจเผลอไผลสั่งเข้ามาโดยมิได้ตรวจสอบออกดู บางทีเล่มที่นางถืออยู่ในมืออาจเป็นนิทานประโลมโลกล่อลวงสาวน้อย
เมื่อคิดสงสัยเยี่ยงนั้นจึงต้องลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามามองสตรีในอาภรณ์บุรุษใกล้ๆ
เขาอยากหาเรื่องให้นางลำบากก็จริง!
เขาไม่ชอบเห็นนางยิ้มก็ใช่!
รอยยิ้มของนางมันช่างทิ่มตาแทงใจ ขัดอารมณ์ของเขายิ่งนัก แต่ทว่า...
ดูนางทำ...
เอาหนังสือปิดบังใบหน้าอย่างนั้น เกิดคิดอะไรลึกล้ำขึ้นมา แล้วกระโดดเข้าขืนใจเขา งานแต่งคงมีขึ้นในวันพรุ่งเลยกระมัง
เมื่อคิดได้ก็เร่งฝีเท้าเข้ามาดึงหนังสือออกจากมือจิวซินอย่างรวดเร็ว ทำเอาหญิงสาวถึงกับตกอกตกใจที่จู่ๆ หนังสือพลันหลุดมือ นางจึงทำได้เพียงยืนงงงวยมองฝ่ามือของตนตาปริบๆ
“อ่ะ! คุณชาย” จิวซินถามขึ้นด้วยน้ำเสียงปรับให้เข้มเยี่ยงบุรุษ “ท่านอยากอ่านเล่มนี้ไยไม่บอก บ่าวจะได้เดินเอาไปมอบให้ถึงที่เลย”
“ข้ากำลังสงสัยว่ามันเป็นหนังสือชนิดใด ไยเจ้าต้องก้มหน้าอ่านจนใบหน้ามุดเข้าไปอย่างนั้น” จ้าวหนิงหลงถามเสียงเย็นพลางปรายตามองหนังสือเล่มที่กล่าวถึงอย่างมิค่อยไว้วางใจ
จิวซินมองตามสายตาของเขาอย่างงุนงง นางก็มิรู้เช่นกันว่ากระดาษเล่มหนาสีหม่นในมือเป็นหนังสือชนิดใด เนื่องจากมิได้อ่าน แค่ยกขึ้นมาบดบังใบหน้าเอาไว้เพื่อแอบมองนายเหนือหัวของตนเท่านั้น
และเมื่อทั้งสองได้มองหนังสือเล่มนี้จนเห็นเต็มลูกนัยน์ตาทั้งคู่ พวกเขาถึงกับผวาก่อนจะพากันจ้องมองเขม็ง
เนื่องจากทั้งสองค้นพบว่าเป็นหนังสือที่เสมือนบทเรียนสำหรับกลเม็ดในการเผด็จศึกพิฆาตศัตรู ทั้งยังมีภาพประกอบที่วาดเอาไว้ได้อย่างสวยงามแลสมจริงเกินหนังสือภาพทั่วไป ทำให้พวกเขาถึงกับพากันก้มหน้าลงมาเพ่งพิศพินิจแน่นิ่งเสียใกล้ชิด จนไหล่เบียด เสียดสีชนกัน
นิสัยที่ช่างสงสัยและใคร่รู้ได้ทุกสถานการณ์คล้ายกันจนน่าตกใจ
วิสัยการชมชอบเรื่องหลากหลายในใต้หล้า โดยเฉพาะกลเม็ดเผด็จศึกรวมถึงหลักการบริหารบ้านเมือง กลหมากการปกครอง แผนผังที่เขียนเล่าจากประสบการณ์จริงยิ่งยากจะถอนสายตา
หนังสือชุนชิวเล่มนี้จึงถูกใจคนทั้งสองอย่างยิ่ง
“อา...คุณชาย ท่านสนใจเรื่องการเมืองการปกครองเยี่ยงนี้ คงจะได้เป็นใหญ่เป็นโตในภายภาคหน้าขอรับ” จิวซินเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตเห็นบุรุษข้างกายยืนอ่านหนังสือตรงหน้าอย่างตั้งใจ
จ้าวหนิงหลงที่มิใคร่ชมชอบเรื่องวุ่นวายภายในพระราชวัง ไม่ชอบยุ่งเรื่องการเมืองการปกครองของวังหลวงก็จริงอยู่ แต่การรู้เอาไว้จึงทำให้เขาหลบหลีกได้ง่ายและอยู่รอดมาจนทุกวันนี้
เช่นนั้นการศึกษาเอาไว้จนแตกฉานย่อมเป็นเรื่องที่จำเป็น
“ข้าแค่ต้องรู้เอาไว้ มิใคร่อยากเป็นใหญ่เป็นโต” เขากล่าวคำเสียงเรียบตามจริงในขณะที่กำลังสนใจยิ่งกับหนังสือในมือ
“คุณชาย” จิวซินเอ่ยคำขึ้นกับบุรุษด้านข้างถึงแม้สายตาของนางจะยังจ้องมองหนังสือในมือของเขา “นี่มิใช่หนังสือธรรมดานะขอรับ แต่ทว่าเป็นคัมภีร์”
“อืม...” หนิงหลงตอบรับคำ “จริงหรือ?”
“คุณชายท่านดูหน้านี้” จิวซินว่าพลางยกเรียวนิ้วจรดลงในเล่ม
“หืม...” หนิงหลงมองตามเรียวนิ้วนวลเสลางดงามอย่างเชื่อฟัง
“ท่านลองอ่านตรงนี้ขอรับ แล้วจะกระจ่างถ่องแท้”
“อืม...”
แล้วทั้งสองก็ยืนอ่านหนังสือด้วยกันอย่างตั้งอกตั้งใจจนใบหน้าของพวกเขาชิดใกล้ ศีรษะชนกันและกัน กระทั่งเวลาล่วงเลย...