ตอนที่ 8 มงคลคู่
ตอนที่ 8
มงคลคู่
หลิงฉงหลงในฐานะเจ้าสาวแน่นอนว่าย่อมถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสางเพื่อมาแต่งตัวเตรียมให้พร้อมสำหรับงานพิธีมงคลในวันนี้
หญิงสาวให้ความร่วมมือกับอาจินและเหล่าสาวใช้น้อยใหญ่ที่ในวันนี้ต่างก็เข้ามารุมล้อมรอบกายของนางเต็มไปหมดเรียกได้ว่าทุกคนช่วยกันจัดแจงนางอย่างพร้อมเพรียงเป็นงานอย่างยิ่งคนละไม้คนละมืออย่างมีระบบ
ใบหน้างามถูกแต่งแต้มอย่างประณีตด้วยฝีมือของสาวใช้ผู้หนึ่งที่ท่านป้ากู้ตั้งใจส่งมาเพื่อบรรจงปั้นความงามให้หญิงสาวเป็นพิเศษในวันนี้ ฝีมือนางนับได้ว่าไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะยามนี้ในบานกระจกเงาสะท้อนกับปรากฏใบหน้าที่ชวนมองมากกว่าในทุกๆ วันกว่าห้าเท่าในตอนนี้
“ราวกับไม่ใช่ข้าเลย…ฝีมือเจ้าช่างเหนือชั้นนัก”
“คุณหนูกล่าวเกินไปแล้วบ่าวไม่กล้ารับหรอกเจ้าค่ะ บ่าวแค่ทำให้ความงามของคุณหนูปรากฏออกมาให้ชัดเจนขึ้นเพียงเท่านั้น” นางไม่ได้พูดเพื่อเอาใจ เดิมที่คุณหนูหลิงผู้นี้นั้นมีรูปโฉมน่ารักชวนมองอยู่แล้วเพียงแต่โดยปกติแล้วนางไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการแต่งหน้านักอีกทั้งไม่รู้โทนสีที่เหมาะกับตน มาวันนี้เพียงนางแต่งหน้าให้อย่างคำนึงความเหมาะสมและจุดเด่นของใบหน้าให้คุณหนูหลิงแล้วรูปโฉมของนางในยามนี้จึงนับได้ว่าเป็นโฉมงามผู้หนึ่งเลยก็ว่าได้
“รูปวาดกลางหน้าผากนี้ข้าก็ยิ่งชอบใจนัก อาจินเจ้าดูสิข้ามี ดอกบัวอยู่กลางหน้าผากด้วย” นางเรียกให้สาวใช้คนสนิทซึ่งอยู่ข้างๆ ดูที่ หน้าผากของนาง
“หากคุณหนูชอบวันอื่นบ่าวจะช่วยเขียนฮวาเตี้ยน ให้ท่านบ่อยๆนะเจ้าคะ แต่ตอนนี้ให้พวกบ่าวช่วยใส่มงกุฏหงส์ให้ท่านก่อนเถิดเจ้าค่ะเวลาใกล้ๆ เข้ามาทุกทีแล้ว”
ฉงหลงพยักหน้ารับ หลังจากนั้นอาจินและคนอื่นๆ ก็ช่วยกันแต่งกายให้นางจนในที่สุดก็เสร็จสิ้น
หญิงสาวในชุดเจ้าสาวครบชุดซึ่งขาดแค่เพียงสวมผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวเท่านั้นก็สามารถก้าวออกไปขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวได้ในทันที ยามนี้นางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อในขณะนี้นางกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานแล้วจริงๆ ในช่วงจังหวะหลายเดือนที่ผ่านมานี้หลังจากที่ท่านปู่จากไปนางก็ตัวคนเดียวไร้ครอบครัว แต่อีกไม่ถึงวันเท่านั้นนางก็จะมีครอบครัวอีกครั้งอีกทั้งนางยังถูกต้อนรับเป็นอย่างดีจากทุกคนในสกุลกู้
ท่านป้าและท่านลุงกู้ดีต่อนาง ไม่เคยรังเกียจซ้ำยังเอ็นดูนางมอบสิ่งของดีๆ ให้นางอย่างไม่คิดตระหนี่
กู้ซืออันที่แม้เขาจะเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ แต่ก็ไม่เคยรังเกียจนาง หลิงฉงหลงเองจึงอยากจะแต่งเป็นภรรยาของเขาให้ดีอย่างน้อยๆ ก็จะไม่ให้เขาโดนตราหน้าว่าร้ายจากผู้อื่นอีก หากเขามีชายคนรักนางก็ยินดีกับเขาไม่คิดขัดขวางหรือทำร้ายความรักของเขาแน่ อีกทั้งนางจะส่งเสริมพวกเขาเต็มที่เท่าที่นางจะทำได้
“คุณหนูนี่ก็ใกล้จะถึงฤกษ์รับเจ้าสาวแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววของขบวนรับเจ้าสาวเลยนะเจ้าคะ บ่าวว่าเราส่งคนไปดูที่สกุลกู้หน่อยดีหรือไม่” อาจินเริ่มร้อนใจแล้ว
ก็จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไร ก็ในเมื่อนางไม่ได้ยินข่าวว่าคุณชายใหญ่กลับมาแล้วแต่อย่างไรทั้งๆ ที่คุณชายใหญ่ควรกลับมาถึงก่อนงานแต่งสามวันแต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น นางกังวลแต่แรกแล้วว่ากลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นในวันงานแต่ทั้งฮูหยินใหญ่และคุณหนูกลับไม่ร้อนรนกังวลใดๆ เอ่ยว่าให้งานมงคลไปตามวันกำหนดเดินไม่เปลี่ยนแปลง
“คุณหนูหากคุณชายใหญ่กู้ยังไม่กลับมาจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ” ผู้เป็นสาวใช้เอ่ยถามคุณหนูของนางอีกครั้ง
ด้านฉงหลงนั้นยังคงนั่งมองตนเองผ่านกระจกและเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม
“เขาจะต้องมาแน่ข้ามั่นใจ”
กู้ซืออันบุตรชายคนโตของพวกเขาสกุลกู้ถึงวันมงคลแล้วแต่กับยังกลับมาไม่ถึงสกุลกู้ทำเอาคนทั้งจวนต่างร้อนใจไปกันหมด
“ฮูหยินใหญ่งานมงคลนี้ต้องยกเลิกไปก่อนหรือไม่ขอรับ” พ่อบ้านสกุลกู้เอ่ยถามผู้เป็นนายหญิงของบ้านอย่างต้องการคำสั่ง
“งานแต่งนี้อย่างไรก็ไม่อาจยกเลิกได้” กู้ฮูหยินเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่น หากยกเลิกไปก็ถือว่าเป็นการตอกย้ำข่าวลือตลอดมาว่าบุตรชายของนางเป็นพวกตัดแขนเสื้อชมชอบบุรุษไม่ชอบสตรี วันนี้หากงานมงคลไม่ลุล่วงคาดว่าพรุ่งนี้ทั่วทั้งเมืองคงลือกันให้สนุกปากอีกแน่นอน
“ท่านแม่...พี่ใหญ่ไม่อยู่งานแต่งนี้ไร้เจ้าบ่าวแล้วจะให้จัดงานต่อไปได้อย่างไร” กู้ซือเฉิน เป็นผู้ที่เอ่ยถามมารดาของตนขึ้น เขาหรืออุตส่าห์เดินทางมาร่วมงานแต่งของพี่ชายแต่กลับเหมือนจะมาเสียเที่ยวซะแล้ว
“ยังจัดต่อไปได้ ข้าจะจัดต่อให้เสร็จพิธี” ฮูหยินกู้กล่าว
“เจ้าคิดจะทำอย่างไรหรือฮูหยิน” นายท่านกู้เอ่ยถามภรรยาตน เขาไม่คิดจะห้ามนางเพราะรู้ว่าอย่างไรก็ห้ามไม่ได้
“ข้าจะให้ใช้สัตว์มงคลเข้าพิธีแทนเจ้าบ่าว...ผู้ใดถามก็ให้ประกาศออกไปว่าเป็นการแก้เคล็ดของสกุลเรา”
“เช่นนั้นฮูหยินเห็นควรใช้สัตว์ชนิดใดดีขอรับ”
กู้ฮูหยินนิ่งอย่างใช้ความคิดไปครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยออกมา “ใช้เต่า ก็แล้วกันเมื่อสองวันก่อนมีเต่าหลงเข้ามาในจวนมิใช่หรือ ยังเลี้ยงเอาไว้ในจวนหรือไม่”
“ข้าน้อยยังเห็นอยู่เมื่อเช้าขอรับ” พ่อบ้านสกุลกู้เอ่ยตอบกลับ
“อย่างนั้นก็ดี ใช้เต่าตัวนี้นี่แหละพ่อบ้านให้คนไปจับมา ส่วนเจ้ากู้ ซือเฉินรีบขี่ม้าไปรับเจ้าสาวแทนพี่ชายของเจ้าเถิดจะให้เสียเวลาอีกไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะไม่ทันฤกษ์ดีแล้วจริงๆ”
“ขอรับท่านแม่” ชายหนุ่มรับคำมารดา เขาจากที่จะมาร่วมงานมงคลดูความครึกครื้นกลับต้องมาลงแรงด้วยเสียอย่างนั้น
เขาเห็นแก่ว่าพี่ชายของเขารับปากแต่งงานในครั้งนี้ด้วยความสมัคร ใจจริงๆ มิเช่นนั้นชายหนุ่มก็ไม่คิดที่จะทำตามที่ท่านแม่สั่งเด็ดขาด
ด้วยเหตุนี้ขบวนรับเจ้าสาวจึงตรงไปที่บ้านเลขที่สิบสามโดยมี คุณชายรองสกุลกู้เป็นผู้นำขบวนทำหน้าที่ไปรับเจ้าสาวแทนเจ้าบ่าว
ด้านหลิงฉงหลงเมื่อได้ยินว่าคุณชายรองสกุลกู้เป็นผู้มารับตัวเจ้าสาวแทนผู้เป็นพี่ชายก็ยอมขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแต่โดยดี
สกุลกู้ให้น้อยชายมารับเจ้าสาวไม่ได้เอ่ยว่าต้องการเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวฉงหลงจึงไม่มีเหตุให้ต้องไม่ยอมตามขบวนรับเจ้าสาวไปเพราะอย่างไรผู้ที่นางแต่งด้วยก็คือกู้ซืออันอยู่ดี
ขบวนรับตัวเจ้าสาวในที่สุดก็มาถึงหน้าจวนสกุลกู้ซึ่งยามนี้มีผู้คนมามายอยู่ทั่วบริเวณ บ้างก็เป็นแขกที่ถูกเชิญมาร่วมงานบ้างก็เป็นคนที่มาเพื่อร่วมดูเรื่องสนุก
สกุลกู้แต่งสะใภ้ใหญ่เข้าจวนสักครั้งพิธีย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว อีกทั้งย่อมมีการแจกเงินมงคล ผู้ใดบ้างจะไม่ชอบเงินแน่นอนว่าเหล่าชาวบ้านใกล้เคียงล้วนมามุงดูเตรียมรอรับโชคกันอยู่ถ้วนหน้า
“เชิญเจ้าสาวลงจากเกี้ยว” เสียงแม่สื่อดังขึ้นเมื่อเกี้ยวเจ้าสาวมาถึงหน้าจวนสกุลกู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผ้าม่านทั้งสองด้านของเกี้ยวจับให้เปิดออกกว้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าสาวในการออกจากเกี้ยว
หลิงฉงหลงซึ่งในยามนี้ถูกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงมงคลปกปิดการมองเห็นเบื้องหน้าจึงไม่อาจก้าวเดินได้อย่างสะดวกนางจึงต้องให้อาจินค่อยประคองแขนเอาไว้ทุกขณะที่ก้าวเดิน
นางเดินมาถึงหน้าประตูจวนสกุลกู้ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มต่ำของบุรุษที่ตนไม่คุ้นหูเอ่ยขึ้น
“พี่สะใภ้เชิญทางนี้”
บุรุษที่จะสามารถเรียกนางว่าพี่สะใภ้ได้มีเพียงคุณชายรองกู้ที่เป็นผู้นำขบวนรับเจ้าสาวไปรับนางมาแทนผู้เป็นพี่ชาย
เขาเอ่ยเรียกนางทำไมกัน มิใช่ว่าควรหมดหน้าที่ของเขาแล้วมิใช่หรือ
ยังไม่ทันที่นางจะคิดอะไรได้ก็ถูกอาจินพาเดินไปอีกครั้ง เหมือนว่านางจะถูกพาไปอยู่ข้างๆ คุณชายรองกู้
“พี่สะใภ้คงต้องให้ท่านเสียเปรียบแล้ว”
เสียงของชายหนุ่มข้างกายหน้าเอ่ยออกมาเบาๆ เหมือนต้องการให้นางได้ยินเพียงคนเดียว
เสียเปรียบหรือนางจะเสียเปรียบอันใดกัน?
วินาทีต่อมานางจึงได้รู้ว่าเสียเปรียบที่ว่าคืออันใดกันเมื่ออาจินจับมือของนางให้ไปสัมผัสกับสิ่งหนึ่งซึ่งอยู่ด้านข้างตำแหน่งเหมือนอยู่เสมอกับที่นางยืนอยู่
ทว่าสิ่งที่นางสัมผัสเมื่อครู่มิใช่ผิวหนังมนุษย์แต่เหมือนกับกระดองเต่าเสียมากกว่า...
ตำแหน่งของเจ้าบ่าวถูกแทนที่ด้วยเต่าตัวหนึ่งซึ่งถูกอุ้มเอาไว้ด้วยน้อยชายของเจ้าบ่าวอีกทั้งยังมีผ้ามงคลสีแดงผู้ติดตัวเจ้าเต่าตัวนี้เอาไว้อีกด้วย
“สกุลกู้จะใช้เต่าเข้าพิธีแทนหรือ”
“เจ้าบ่าวไม่ย่อมมาเข้าพิธีกระมัง”
“คุณชายใหญ่กู้โดนบังคับแต่งจริงๆ ด้วย”
หลายคนที่เห็นว่าจะมีการใช้เต่าเข้าพิธีแทนต่างก็พากันพูดไปต่างๆนานา
นี่ข้าต้องเข้าทำพิธีแต่งงานกับเต่าตัวหนึ่งจริงๆ หรือนี่ แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วนางก็ต้องย่อมเสียเปรียบแล้วจริงๆ
“เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าจวนไปทำพิธี” เสียงแม่สื่อที่ดังขึ้นอีกครั้ง เรียกสติให้หญิงสาวต้องเร่งยอมรับตามน้ำไปก่อนอย่างเสียไม่ได้
ให้ตายเถอะข้าไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ กู้ซืออันค่อยดูเอาเถิดเจ้ากลับมาแล้วข้าจะล้างแค้นนี้อย่างไร!!!
