บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 ข่าวลือหรือเรื่องจริง

ตอนที่ 7

ข่าวลือหรือเรื่องจริง

“อาจินนอกจากเจ้า ข้าก็ไม่มีผู้ใดให้ถามได้อีกแล้ว” นางเอ่ยขึ้น ทันทีเมื่อกลับมาถึงเรือนพักเรียกร้อยแล้วและทำการบอกให้สาวใช้คนอื่นๆ แยกย้ายกันไปพักผ่อนได้ไม่ต้องอยู่รอเรียกใช้อีก “คุณชายใหญ่กู้กับคุณชาย เฉาหมิงพวกเขาสองคนเป็นคู่รักกันใช่หรือไม่ นี่ข้ากำลังเป็นมือที่สามของพวกเขาอยู่ใช่หรือไม่”

“บ่าวเองก็ไม่แน่ใจเจ้าค่ะ บ่าวเข้ามาทำงานกับสกุลกู้สามปีมาแล้วก็เห็นว่าคุณชายใหญ่กับคุณชายเฉาหมิงคบหาเป็นสหายกันมานานก่อนหน้าที่บ่าวจะเข้าจวนสกุลกู้เสียอีก”

“เมื่อครู่ที่หอลุ่ยเหยียนเจ้าเองก็เห็นเช่นเดียวกับข้ามิใช่หรือ พวกเขาใกล้ชิดกันเช่นนั้นจะมีความสัมพันธ์แค่สหายกันได้อย่างไรโอบกอดแนบชิดประคองอย่างเอาใจใส่ ที่ผ่านมาไม่มีข่าวลือระหว่างพวกขาเลยหรืออย่างไร”

“ข่าวลือระหว่างคุณชายทั้งสองก็มีอยู่เรื่อยๆ นะเจ้าคะ มีครั้งหนึ่งฮูหยินถึงกับเป็นลมไปเลยเมื่อได้ยินข่าว”

“ข่าวลือนั้นลือว่าอะไรหรือถึงขั้นทำให้ท่านป้าถึงขั้นเป็นลมไปได้” ฉงหลงเอ่ยถามอย่างสนใจ

“ลือกันว่ามีคนเห็นว่าคุณชายทั้งสองขี่ม้าออกไปนอกเมืองเพียงลำพัง กลับเข้าเมืองในรุ่งเช้าอีกวันพร้อมกับเสื้อผ้าหลุดลุ่ย บ่ายวันนั้นคุณชายเฉาหมิงก็ถอนหมั้นกับคู่หมั้นที่หมั้นหมายกันมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา”

ฟังที่อาจินเล่าในฟังนางก็อดที่จะจินตนาการถึงเรื่องราวในขั้นตอนต่างๆ ตามที่อาจินเอ่ยมา “แล้วเจ้าว่าพรุ่งนี้ข้าก็จะถูกยกเลิกการแต่งงานหรือไม่” เป็นไปได้หรือไม่ว่าคุณชายเฉากลับมาทวงคนรักกลับคืน

“ฮูหยินใหญ่ไม่ยอมแน่เจ้าค่ะคุณหนูอย่างกังวลไปเลย” ผู้เป็นสาวใช้เอ่ยปลอบเมื่อนางเห็นว่าคุณหนูหลิงของนางในยามนี้มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด

หลิงฉงหลงกำลังกังวลอยู่ในใจจริงๆ “อาจินหากข้าไม่ได้แต่งเข้าสกุลกู้แล้วข้าจะขอเจ้ากับท่านป้ากู้พวกเราไปจากที่นี่ด้วยกันดีหรือไม่”

“บ่าวยินดีติดตามคุณหนูเจ้าค่ะ” อาจินเอ่ยตอบกลับโดยไม่ต้องคิด

“แต่ว่านะอาจินสินเดิมข้าจะโดนเก็บกลับไปทั้งหมดหรือไม่” นี่คือ สิ่งที่นางกังวล หากโดนเอาสินเดิมกลับไปนางก็จะกลายไปเป็นสาวบ้านป่าที่ ไม่มีเงินเหมือนเดิมทุกมื้อก็ไม่สามารถมีอาหารเลิศรสให้กินได้ตามต้องการอีก “ท่านป้ากู้คงไม่ปล่อยให้ข้าตัวคนเดียวแทบไม่มีเงินหรอกนะ”

“อาจินหากข้าต้องกัดก้อนเกลือกินเจ้าก็กลับไปที่สกุลกู้เถอะ อย่าได้ไปลำบากกับข้าเลย” นางเอ่ยออกมาเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ที่ย้ำแย่ที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในวันพรุ่งนี้

“คุณหนูท่านให้ข้าติดตามไปด้วยเถอะเจ้าค่ะ บ่าวกินไม่เยอะนะ เจ้าคะ”

“แต่ข้ากินเยอะน่ะสิ”

เป็นเพราะเมื่อคืนนางคิดเรื่องนี้ไปมาจนถึงดึกดื่นทำให้สายมาก แล้วฉงหลงถึงตื่นขึ้นมา

มื้อเช้าวันนี้ถูกส่งมาโดยคุณชายใหญ่กู้เช่นเดียวกับเมื่อวาน อาหารที่ส่งมาคือโจ๊กธัญพืชห้าเซียนที่เลิศรสเป็นอย่างยิ่ง นางกระซิบถามอาจินว่านอกจากอาหารเช้าแล้วยังมีสิ่งใดอย่างส่งมาอีกหรือไม่ ก็ปรากฏว่าไม่มีสิ่งใด ส่งมาอีกนอกจากฝากคำพูดมาไม่กี่คำ

“คุณชายส่งให้คนมาบอกว่าพรุ่งนี้ฮูหยินเรียกให้คุณหนูไปพบที่ จวนเจ้าค่ะ พรุ่งนี้เช้าคุณชายใหญ่จะมารับท่านไปที่จวนสกุลกู้ด้วยตัวเอง”

“ข้ารู้แล้ว พรุ่งนี้เจ้าก็เตรียมตัวไปที่จวนสกุลกู้กับข้า นำน้ำหอม อาบน้ำที่ข้าทำไปด้วยข้าจะนำไปให้ท่านป้าลองใช้ดู”

“เจ้าค่ะคุณหนู”

น้ำหอมอาบน้ำที่นางจะนำไปมอบให้ท่านป้าเป็นสิ่งที่นางทำด้วย ตัวเองโดยใช้ดอกไม้ตากแห้งที่นำมาจากห้องเก็บของร้านค้าและใส่สมุนไพรที่มีสรรพคุณดีช่วยบำรุงผิวกายลงไปอีกด้วย น้ำหอมอาบน้ำดอกไม้แห้งที่ นางทำจึงทั้งหอมและมีประโยชน์อีกด้วย

“ตอนบ่ายพวกเราช่วยกันทำน้ำหอมอาบน้ำเพิ่มกันดีหรือไม่ สมุนไพรแห้งที่ให้คนไปสั่งเอาไว้ส่งมาหรือยัง”

“สมุนไพรแห้งถูกส่งมาตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นก็ดี พวกเราช่วยกันทำเอาไว้เสียหลายสิบขวดแล้วค่อยนำไปขายดูดีหรือไม่ บางทีอาจได้เงินกลับมาเล็กน้อยก็ถือว่าดีแล้ว” ดอกไม้แห้งเหล่านั้นมีมากมายทิ้งเอาไว้ก็เสียเปล่า ต่อให้ขายได้ไม่กี่บาทแค่พอได้กำไรหลังหลักค่าสมุนไพรกับค่าจ้างเล็กน้อยให้อาจินกับสาวใช้ในเรือนที่ช่วยกันออกแรงทำน้ำหอมดอกไม้แห้งก็พอ

“ขอแค่เป็นสิ่งที่คุณหนูสั่งบ่าวและคนอื่นๆ ยินดีช่วยเหลือคุณหนูเต็มที่อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นประเดี๋ยวเจ้าให้บ่าวชายไปนำดอกไม้แห้งออกมาอีกลังก็แล้วกัน”

ร้านเครื่องประดับกู้จี้เป็นอีกหนึ่งกิจการของสกุลกู้ที่มีสาขาทั้งหมดกว่าห้าแห่งตามเมืองใหญ่ๆ ภายในแคว้น

วันนี้ชายหนุ่มมาที่ร้านกู้จี้เพื่อดูสินค้าที่เพิ่งออกใหม่ซึ่งเป็นประเภทปิ่นปักผมของสตรี สายตาของเขามองไปที่ถาดเครื่องประดับตรงหน้าที่มีมากกว่าห้าถาดอีกทั้งปิ่นปักผมทั้งหมดทุกชิ้นบนถาดทั้งห้านี้ล้วนถูกทำขึ้นเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นจึงมักจะเป็นสินค้าที่มีราคาแพงซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะหยิบซื้อได้อย่างง่ายดายหากไม่ได้ร่ำรวยจริงๆ

ปิ่นหยกแกะสลักทั้งด้ามเป็นต้นไผ่และใบไผ่ดูประณีตและล้ำค่ายิ่งอีกทั้งกู้ซืออันรู้สึกว่าเมื่อเห็นปิ่นอันนี้แล้วนึกถึงว่าที่ฮูหยินของตนขึ้นมา

เหมือนว่าเขาจะเคยได้ยินว่านางมาจากเรือนป่าไผ่

“ข้าจะเก็บปิ่นอันนี้เอาไว้ หากล่องที่ดีสำหรับใส่มันแล้วนำมาให้ข้า”

“เจ้าค่ะ คุณชายยังจะเก็บปิ่นอันไหนเอาไว้อีกหรือไม่เจ้าคะ” ฝูหรงซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่ดูแลการค้าของร้านกู้จี้เป็นผู้เอ่ยถามขึ้น เพราะโดยปกติแล้วคุณชายใหญ่ก็มักจะให้ส่งเครื่องประดับบางชิ้นไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ผู้เป็นมารดาของเขา

“ไม่แล้ว มงกุฎหงส์ที่ทำตามแบบที่บ้านเลขที่สิบสามต้องการไปถึงไหนแล้ว” เขาเอ่ยถามต่อ

“ช่างฝีมือทำไปได้กว่าครึ่งแล้วเจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบ โชคดีที่นางเพิ่งลงไปดูความคืบหน้าของงานชิ้นนี้ด้วยตัวเองเพราะเห็นว่าดูเหมือนฮูหยินใหญ่จะให้ความสำคัญต่องานชิ้นนี้มากถึงขั้นสั่งให้คนออกแบบหลายสิบแบบเพื่อที่จะให้ว่าที่เจ้าสาวที่คงเป็นญาติสตรีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของสกุลกู้เลือกแบบที่ชอบที่สุด

“คุณชายใหญ่ถามแทนฮูหยินหรือเจ้าคะ จะให้ข้าน้อยเข้าไปรายงานฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเองดีหรือไม่”

“ไม่จำเป็น” กู้ซืออันเอ่ยเสียงเย็น

ฝูหรงรู้ดีว่าคุณชายไม่ชอบให้คนถามมาก นางจึงไม่ได้ถามสิ่งใดอีก “เช่นนั้นคุณชายมีสิ่งใดจะสั่งการอีกหรือไม่เจ้าคะ”

“เจ้าออกไปเถอะ”

ฝูหรงเดินออกไปจากห้องทำงานส่วนตัวของผู้เป็นนายทันที พร้อม กับสาวใช้อีกห้าคนที่ถือเครื่องประดับห้าถาดตามออกมา

นางจัดการหากล่องแกะสลักชั้นดีใส่ปิ่นหยกแกะสลัก ก่อนจะนำไป มอบให้ผู้เป็นนายอีกครั้ง

รถม้ามุ่งหน้าสู่จวนสกุลกู้ ภายในรถม้ามีนางและกู้ซืออันนั่งอยู่ ด้วยกันสองคนแน่นอนว่านางไม่พูดกู้ซืออันเองก็ไม่พูดในรถม้ายามนี้จึงมีแต่ความเงียบปกคลุมแต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่คิดที่จะเอ่ยทำลายความเงียบ เป็นคนแรก

“ข้ามีกำหนดการต้องเดินทางไปต่างเมืองประมาณสิบวัน”

“จะกลับมาทันงานแต่งงานหรือไม่” นางเอ่ยถามกลับไปในทันที หรือเขาต้องการเลื่อนงานแต่งออกไปไม่ก็ต้องการยกเลิกงานแต่งไปเลยใช่หรือเปล่า

“ข้าน่าจะกลับมาถึงก่อนงานแต่งประมาณสองถึงสามวัน” ชายหนุ่มเอ่ยตอบ

“อ่อ...เช่นนั้นคุณชายใหญ่กู้ก็เดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ”

“ขอบคุณคำอวยพรของเจ้า...ระหว่างที่ข้าไม่อยู่หากมีสิ่งใดก็เร่งให้คนไปแจ้งท่านแม่ที่สกุลกู้...อาหารเช้ายังจะส่งให้เจ้าทุกวันหากวันใดอยากไปทานที่หอลุ่ยเหยียนก็ให้คนถือป้ายของข้าไปได้เลย”

ป้ายหยกสีขาวที่สลักคำว่ากู้เอาไว้ถูกยื่นมาเบื้องหน้านาง หญิงสาวมองนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือไปรับมาจับพลิกไปมาสำรวจ “มีป้ายนี้กินแล้วไม่ต้องจ่ายใช่หรือไม่”

“ใช่” เขาเอ่ยบอกต่อ “อีกทั้งใช้ได้ที่ร้านค้าของสกุลกู้ทุกร้าน”

“ดีถึงเพียงนี้เชียวข้าต้องเก็บเอาไว้ให้ดี” นางเอ่ยตาวาวก่อนจะเก็บป้ายหยกเข้าไปในอกเสื้ออย่างมิดชิด

“สิ่งนี้ก็มอบให้เจ้า” กล่องไม้แกะสลักถูกนำออกมายื่นไปให้นางอีกครั้งหนึ่ง

“อันใดหรือ” แม้จะเอ่ยถามออกไปแต่มือเล็กกลับคว้าเอามาอย่างรวดเร็วแม้จะยังไม่ได้คำตอบ “แค่กล่องก็ยังงดงามประณีตถึงเพียงนี้”

“เจ้าเปิดดูเอง”

“ปิ่นหยกแกะสลัก...ให้ข้าหรือ”ถามแล้วฉงหลงก็มองไปที่ชายหนุ่ม “แพงหรือไม่หากนำไปขายจะราคาดีหรือไม่”

คงมีเพียงนางที่กล้าแสดงท่าทีว่าเช่นนี้ต่อหน้าคงที่เพิ่งมอบของราคาแพงให้ ท่าทีที่พร้อมจะขายของแลกเงินในทันทีนี้ช่างหน้าจดจำไม่น้อย

“ปิ่นหยกมอบให้เจ้าเอาไว้ใช้...ห้ามนำไปขายได้ยินหรือไม่” เขากลัวว่ากลับมาอีกทีเมื่อเจอกันอีกครั้งนางจะบอกว่าขายปิ่นที่เขาตั้งใจมอบให้ไปแล้วจริงๆ

“ได้ยินแล้วๆ ขอบคุณคุณชายใหญ่ที่มอบของล้ำค่านี้ให้ข้าเจ้าค่ะ ข้าไม่นำไปขายแน่นอนท่านวางใจได้” นางเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

ข้าไม่ขายตอนนี้ แต่หากร้อนเงินเมื่อไหร่ก็ค่อยตัดสินใจอีกทีหน้าโรงรับจำนำก็แล้วกัน

“เจ้าไว้ใจได้จริงหรือ”

“แน่นอนเจ้าค่ะ คุณชายใหญ่วางใจได้” นางตกปากรับคำเสียดิบดีอีกทั้งนั่งรถม้าไปยังสกุลกู้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง

มาถึงสกุลกู้นางก็ยังถูกท่านป้าต้อนรับเป็นอย่างดี และที่ให้นางมา ในวันนี้ก็เพราะว่าอยากให้นางลองสวมใส่ชุดแต่งงานที่เพิ่งตัดเย็บเสร็จดูว่า ต้องปรับแก้หรือเพิ่มเติมตรงไหนหรือไม่

กู้ซืออันเองก็ถูกรั้งตัวเองไว้กว่าครึ่งวันด้วยเหตุผลเดียวกันก็คือลอง ชุดแต่งงาน แต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่อาจอยู่ที่จวนทั้งวันได้เพราะยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ หนึ่งในเรื่องที่เพิ่งได้รับมอบหมายเพิ่มเติมจากผู้เป็นมารดาอย่างเรื่องการตรวจสอบรายชื่อเทียบเชิญวันมงคลของเขากับหลิงฉงหลงว่ารายชื่อแขกที่จะเชิญครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งหลังจากที่ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วยังต้องเรียกคนให้นำไปแจกจ่ายอีกด้วย

เช้าวันต่อมาทั่วทั้งเมืองต้าไห่จึงโจษจันเล่าลือกันไปทั่วว่าคุณชายใหญ่แห่งสกุลกู้กู้ซืออันกำลังจะแต่งงาน แน่นอนว่าคนกว่าครึ่งที่ได้ยินล้วนแล้วแต่ไม่เชื่อ แต่เทียบเชิญที่ถูกส่งมาให้ก็เป็นหลักฐานยืนยันได้ดีว่าเป็นเรื่องจริง

“คุณชายใหญ่สกุลกู้กำลังจะแต่งภรรยาจริงๆ”

“ข่าวลือเท่านั้น คุณชายใหญ่กู้เป็นบุรุษตัดแขนเสื้อไม่ใช่หรือจะแต่งภรรยาได้อย่างไร”

“แต่สกุลกู้เริ่มเตรียมงานเงียบๆ มานานแล้วนะ เทียบเชิญก็แจกแล้วด้วยที่จวนสกุลกู้ก็เริ่มเตรียมงานจริงจังแล้ว”

“เช่นนั้นเจ้าสาวเป็นใคร มาจากไหนระดับสกุลกู้หมั้นหมายแต่งงานข้าว่าไม่ใช่สตรีสกุลธรรมดาแน่”

“คุณชายกู้ถูกมารดาบังคับแต่งหรือไม่นะ”

“ฮูหยินกู้กีดกันบุตรชายกับคุณชายเฉากระมัง”

“มีรักแต่ไม่อาจสมหวังได้ช่างหน้าสงสารนัก คุณชายใหญ่กู้รูปโฉมงามเป็นที่เลื่องลือ คุณชายเฉาก็หล่อเหล่าเหมาะสมกันจะตายไป เป็นพวกตัดแขนเสื้อที่เหมาะสมกันที่สุด”

“พวกเจ้าก็พูดกันไปเรื่อย ข้าได้ยินว่าคุณชายกู้ออกจากเมืองไปตั้งแต่เช้าไปทำการค้าที่เมืองอื่น ข่าวการแต่งงานคงเป็นข่าวปลอมกระมัง”

“หรือจะไม่ใช่ไปทำการค้าแต่เป็นการหนีตามกันไปของคุณชายกู้กับคุณชายเฉา”

ผู้คนต่างลือกันไปต่างๆ นานาจนเรื่องใดปลอมเรื่องใดจริงต่างก็ไม่มีผู้รู้ได้อย่างชัดเจนจริงๆ

งานมงคลที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สิบวันคงจะเป็นคำตอบให้ทุกคนได้อย่างชัดเจนที่สุด เพราะฉะนั้นงานแต่งของคุณชายกู้จึงเป็นที่จับตาและสนใจของเหล่าผู้คนเป็นอย่างมาก

ในที่สุดการรอคอยของทุกคนก็มาถึง ขบวนรับตัวเจ้าสาวเบื้องหน้าจวนสกุลตั้งอยู่นานก็ยังไม่เคลื่อนตัวไปรับเจ้าสาวเสียที เพราะไร้เงาเจ้าบ่าวที่ต้องเป็นผู้ขี่ม้านำขบวนไปรับเจ้าสาวด้วยตนเองตามประเพณี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel