บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 มีวาสนาต่อกัน

ตอนที่ 2

มีวาสนาต่อกัน

มื้อเย็นวันนี้นางถูกเชิญให้ไปร่วมโต๊ะกับท่านป้าและท่านลุงกู้ซึ่งเพิ่งกับมากจากข้างนอก ท่านลุงกู้เมื่อได้พบนางก็เอ่ยต้อนรับเป็นอย่างดีไม่ได้มีท่าทีรังเกียจหรือไม่ต้อนรับแต่อย่างไร แม้ภายนอกท่านลุงจะดูนิ่งเงียบเข้าถึงยากแต่ก็เอ่ยกับนางอย่างใจดีเช่นเดียวกันกับท่านป้า

ท่านป้าเล่าว่านางมีบุตรชายสองคน คนโตที่จะให้แต่งกับนางมีนามว่า กู้ซืออัน ซึ่งในเวลานี้รับหน้าที่ดูแลการค้าแทบจะทั้งหมดแทนท่านลุงผู้เป็นบิดา ส่วนบุตรชายอีกคนหนึ่งอายุเท่ากันกับนางตอนนี้ศึกษาอยู่ที่สำนักศึกษาจึงไม่ค่อยจะกลับมาที่จวนนัก

วันนี้กู้ซืออันออกไปทำงานที่ต่างเมืองพอดีนางกับเขาจึงยังไม่ได้พบกันเสียที ท่านป้าบอกว่าหากกู้ซืออันกลับมาแล้วก็จะเร่งให้ทั้งคู่ได้พบกันในทันที เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉงหลงเองก็ได้แต่ยิ้มรับ อย่างไรนางก็ต้องปล่อยให้ท่านป้าจัดการเรื่องทั้งหมดอยู่ดี

ฟ้าเริ่มมืดแล้วนางถึงได้ขอตัวกลับเรือนพักชั่วคราวของตน โดยมีสาวใช้ผู้หนึ่งคอยติดตามอยู่ไม่ห่างกาย

อาจินคือสาวใช้ที่ท่านป้ามอบให้คอยติดตามนางนับตั้งแต่วันนี้ ท่านป้ากล่าวว่าอย่างไรนางก็ต้องมีสาวใช้ติดตามดูแลสักคนอย่างน้อยๆ ก็สามารถช่วยเหลือนางได้ในเวลาจำเป็นหรือต้องการเรียกใช้คนจะได้มีคนของตนเองในเรือนให้สามารถเรียกใช้ได้สะดวก

นางไม่อาจปฏิเสธความหวังดีจึงได้รับคนเอาไว้ข้างกายก่อน แล้วก็เป็นอย่างที่ท่านป้าว่าอาจินจัดแจงความเรียบร้อยในเรือนพักให้นางได้จริง ไม่ว่าฉงหลงขยับตัวไปไหนหรือแค่ปรายตามองสิ่งใดอาจินราวกับรู้ใจไปเสียหมด

“คุณหนูอยากได้ของว่างมื้อดึกหรือไม่ บ่าวจะไปนำมาให้เจ้าค่ะ”

“ดีนัก ข้าหิวอยู่นิดหน่อยจริงๆนั่นแหละ”

“เช่นนั้นคุณหนูรอสักครู่นะเจ้าคะ บ่าวจะรีบไปนำของว่างมาให้”

อาจินเอ่ยจบก็ออกจากห้องไปด้วยฝีเท้าเบาราวกับเดินอยู่บนอากาศจนฉงหลงอดที่จะนึกชมนางในใจไม่ได้ สาวใช้ผู้นี้ถูกฝึกฝนมาอย่างดีจริงๆ สมแล้วที่เป็นคนของสกุลกู้ผู้มั่งคั่งร่ำรวยไม่ธรรมดาแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าสกุลกู้ร่ำรวยถึงขั้นไหน ทว่าดูจากพื้นที่ของจวนและการตกแต่งที่หรูหราประณีตก็พอจะรู้ได้ว่าสกุลกู้นั้นย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

แต่งเข้าสกุลกู้ในภายหน้าอย่างน้อยก็วางใจได้ว่านางจะได้กินอิ่มนอนอุ่นทุกคืนล่ะนะ

คืนแรกในสกุลกู้ผ่านไปได้ด้วยดีแถมนางยังฝันอีกด้วยว่าท่านปู่มาส่งนางที่หน้าจวนสกุลกู้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเปี่ยมสุข

สามวันมาแล้วที่นางมาพักอยู่ที่สกุลกู้แต้ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของกู้ซืออันหรือคุณชายใหญ่สกุลกู้ซึ่งนางจะต้องแต่งงานด้วย ท่านป้ากล่าวว่าเขาไปทำงานยังไม่กลับเมืองทว่านางกับคิดว่าอาจเป็นเพราเขาล่วงรู้ว่ามีคู่หมั้นบ้านนอกมาทวงสัญญาแต่งงานรออยู่ที่จวนจึงตั้งใจไม่กลับมาเสียมากกว่า

หรือว่านางควรตามหาตัวเขาแล้วทำข้อตกลงกันดี เงินแลกกับสัญญาหมั้นหมายแต่งงานฉงหลงเองก็ถือว่านางไม่ขัดข้อง หากในที่สุดได้พบกันนางก็มีแอบคิดเอาไว้ว่าอาจจะยื่นของเสนอนนี้แก่เขาดูสักครั้ง แต่ก็ต้องรอดูสถานะการณ์ก่อนว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด

ช่วงสายของวันนางให้อาจินพาไปเดินชมความครึกครื้นของถนนในเมือง ประจวบเหมาะกับพบร้านบะหมี่ข้างทางเมื่อเดินเที่ยวได้พอประมาณแล้วนางจึงแวะพักขากินบะหมี่สักถ้วย

“เถ้าแถ่ขอบะหมี่หมูตุ๋นสองชาม” ฉงหลงเอ่ยสั่ง

“ได้เลยแม่นางนั่งรอก่อน”

หลังจากสั่งบะหมี่แล้วหญิงสาวก็นั่งลงที่โต๊ะที่ว่างอยู่รอให้เถ้าแก่นำบะหมี่ที่สั่งมาให้

“คุณหนูใกล้ๆ มีร้านผลไม้เชื่อมชื่อดัง ท่านอยากซื้อมาชิมหน่อยหรือไม่เจ้าคะ”

“ซื้อกลับไปฝากท่านป้าด้วยก็น่าจะดี” อย่างน้อยนางก็น่าจะซื้อของฝากติดมือกลับไปให้ท่านป้าเสียสักหน่อยเพื่อเป็นการขอบคุณที่มอบเงินให้นางได้ออกมาเดินเล่นถุงใหญ่

“เช่นนั้นข้าน้อยจะไปซื้อมาให้คุณหนูรออยู่ที่นี่นะเจ้าคะ บ่าวไปไม่นานเท่านั้น”

“อยู่กินบะหมี่ก่อนค่อยไปดีหรือไม่”

“บ่าวไปซื้อแล้วค่อยกลับมากินจะดีกว่าเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นของอาจจะขายหมดก่อน”

“เอาอย่างนั้นก็ได้”

“บ่าวไปครู่เดียวจะรีบกลับมาเจ้าค่ะ คุณหนูรอบ่าวที่นี่นะเจ้าคะ”

“อาจินไปเถอะ ข้าจะรออยู่ที่นี่ไม่ไปไหนหรอก”

“เถ้าแก่บะหมี่โต๊ะข้าทำมาชามเดียวก่อนนะ” นางเอ่ยกับเถ้าแก่ร้านบะหมี่

“ได้เลยแม่นาง”

คล้อยหลังอาจินไปไม่นานจู่ๆ ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีกครั้ง โชคดีที่ก่อนหน้านี้ลูกค้ากลุ่มใหญ่พากันออกไปแล้วแล้วในร้านเวลานี้จึงเหลือเพียงนางและลูกค้าอื่นๆ อีกไม่กี่คน

เถ้าแก่ร้านบะหมี่ถือโอกาสนำบะหมี่มาส่งและเอ่ยสนทนากับลูกค้าของเขาด้วย “แม่นางเจ้าคนต่างถิ่นใช่หรือไม่ ข้าเปิดร้านบะหมี่ที่นี่มานานเพิ่งเคยเห็นแม่นาง”

“ข้าเพิ่งมาจากนอกเมือง” นางเอ่บตอบพร้อมกับก้มลงจัดการบะหมี่ในชามของตน

“มาเยี่ยมญาติกระมัง” เถ้าแก่ร้านถามต่อ ยามนี้ฝนตกลูกค้าในร้านก็ได้รับบะหมี่ครบหมดตามที่สั่งแล้ว เถ้าแก่ร้านเช่นเขาจึงมีเวลาว่างสนทนากับลูกค้าใหม่ของตน

“มาแต่งงานต่างหาก”

“ที่แท้แม่นางก็กำลังจะมีเรื่องมงคล...ยินดีด้วยๆ” เถ้าแก่ร้านเอ่ยประจวบเหมาะกับที่เพิ่งมีลูกค้าลุยฝนเข้ามาใหม่เถ้าแก่จึงหันไปต้อนรับอย่างกระตือรือร้น

ผู้มาใหม่เดินผ่านนางซึ่งนั่งหันหลังอยู่ นางยังไม่ทันมองให้ดีว่าผู้มาใหม่เป็นใครแต่กับถูกกลิ่นกายของเขาดึงดูดอีกครั้ง เพียงได้กลิ่นหอมนี้ฉงหลงก็รู้ได้ทันทีเลยว่าผู้ที่เพิ่งเดินผ่านไปเมื่อครู่ย่อมเป็นผู้เดียวกับที่นางพบที่เพิงน้ำชานอกเมืองอย่างแน่นอน

“พี่สาวที่แท้เป็นท่านจริงด้วย” เสียงหวานดังขึ้นอย่างดีใจ เป็นพี่สาวคนเดิมไม่ผิดแน่ ไม่ว่าหมวกผ้าคลุมหรือเสื้อคลุมตัวใหญ่ยังคงเหมือนเดิมต่างแค่สีผ้าเพียงเท่านั้น

นางหันมองสำรวจไปด้านนอกก็ไม่เห็นว่าผู้ติดตามของพี่สาวจะตามมาด้วย จึงได้ตัดสินใจย้ายตัวเองไปนั่งฝั่งตรงข้ามของพี่สาวคนงามอย่างถือวิสาสะ “ข้าว่าแล้วพวกเราสองคนต้องมีวาสนาต่อกัน”

“พวกเราบังเอิญเจอกันเป็นครั้งที่สองแล้ว ข้าเพิ่งจะเข้าเมืองมายังไม่มีสหายสักคนไม่สู้พวกเราคบหากันเป็นสหายดีหรือไม่” นางเสนออย่างไม่ขาดปาก “พี่สาวเหตุใดเจอท่านฝนต้องตกลงมาตลอดท่านเองก็มักจะเปียกไปทั้งตัว โชคดีที่วันนี้ข้ามีผ้าเช็ดหน้าผืนใหม่ติดมาด้วยพี่สาวท่านใช้เช็ดเนื้อตัวก่อนเถอะ”

“ทุกครั้งที่พบกันเจ้าก็มักยื่นผ้าให้ข้าเสมอ แม่นางมีน้ำใจแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยตอบกลับไปในที่สุด ก่อนจะยื่นมือไปรับผ้าเช็ดหน้าของหญิงสาวเอาไว้ด้วยมือเรียวของตน

ด้านหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงของเขาก็ชะงักนิ่งไปในทันที เสียงทุ่มต่ำราวกับเสียงของบุรุษดังขึ้นจากฝั่งของพี่สาวคนงามอย่างแน่นอน พลั้นฉงหลงเกิดความสงสารพี่สาวตรงหน้าขึ้นมาในทันที หรือเป็นเพราะนางมีเสียงทุ้มต่ำคล้ายบุรุษจึงได้ไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าผู้อื่นนัก

นี่เรียกได้ว่าสวรรค์อิจฉาหญิงงามหรือไม่จึงดลบันดาลให้เกิดเรื่องเช่นนี้ได้ นางเกือบจะเอ่ยปลอบใจออกไปแล้วแต่กับต้องกลืนถ้อยคำปลอบโยนทั้งหมดที่คิดจะเอ่ยลงท้องไปให้หมด เมื่อต่อมาจู่ๆ พี่สาวก็ถอดหมวกคลุมใบหน้าออก

รูปโฉมงดงามชวนตื่นตะลึงปรากฏตรงหน้าของนางในเวลาต่อมา

“ให้ตายเถอะพี่สาวท่านคือโฉมสะคราญผู้งดงามที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาในชีวิต” ชื่นชมใบหน้างามได้อย่างเคลิบเคลิ้มได้ไม่เท่าไหร่ก็เป็นอันต้องขมวดคิ้วยุ่งอีกครั้งหนึ่ง เพราะเมื่อนางกวาดสายตามองลงมาถึงช่วงลำคอระหงแล้วกับพบเจอสิ่งแปลกปลอมหนึ่งอีกทั้งยังเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง

ลูกกระเดือกงั้นเหรอ...พี่สาวคนงามจะมีลูกกระเดือกเด่นชัดที่ช่วงลำคอระหงได้อย่างไร มิใช่มีเพียงบุรุษหรอกหรือที่จะเป็นเช่นนั้น

“พี่สาวหรือว่าท่านไม่ใช่พี่สาว?”

ยังไม่ทันทีนางจะได้คำตอบจากผู้ที่อยู่เบื้องหน้าซึ่งนางเรียกขานแทนตัวตนว่าพี่สาวอยู่บ่อยครั้ง อาจินก็กลับมาถึงร้านพอดีพร้อมกับในมือยังถือร่มคันใหญ่มาด้วย

“คารวะคุณชายใหญ่เจ้าค่ะ” กลายเป็นว่าสาวใช้อาจินเป็นผู้ไขข้อสงสัยทั้งหมดของนางลงในทันทีที่มาถึงด้วยการเอ่ยเพียงประโยคเดียวเท่านั้น

ที่แท้เขาตั้งแต่แรกไม่ใช่พี่สาวคนงามอะไรทั้งสิ้น อีกทั้งเขายังเป็นคุณชายใหญ่สกุลกู้ซึ่งจะกลายเป็นสามีของนางในอนาคตหากไม่มีอันใดผิดพลาดอีกด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel