บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 14 สหายหรือคนรักที่แท้จริง?

ตอนที่ 14

สหายหรือคนรักที่แท้จริง?

“สหายเจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่...ข้าได้ยินมาว่าเจ้าบาดเจ็บหนักจนเกือบจะเข้าพิธีแต่งงานไม่ได้” เฉาหมิงเอ่ยถามผู้เป็นสหายสนิทอย่างเป็นห่วง ไม่เท่านั้นชายหนุ่มยังตรงมาจับที่ตัวของสหายตนเป็นเชิงสำรวจอีกด้วย

“หลายวันก่อนก็ถือว่าบาดเจ็บหนักกระมัง...แต่ยามนี้แผลข้าหายดีเกือบหมดแล้ว” กู้ซืออันเอ่ยขึ้นอย่างสบายๆ พร้อมกับสบัดแขนหลบไม่ยอมให้อีกฝ่ายสำรวจตรวจดูร่างกายตน

“สหายกู้นี้เจ้าหลบอะไร...รังเกียจข้า?” ผู้ถูกหลบเลี่ยงอย่างเห็นได้ชัดเอ่ยถามขึ้นในทันทีแต่ก็ยอมหยุดมือแล้วหันไปนั่งที่เก้าอี้ใกล้ๆแต่โดยดี

“สายตาของท่านแม่ข้าคอยสอดส่องอยู่ทั่วไปหมด...เจ้าใกล้ข้าเป็นการสร้างข่าวลือสร้างปัญหาให้ข้า” ชายหนุ่มยังคงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจนัก

“แต่ก่อนไม่เห็นเจ้าสนใจท่านป้าหรือข่าวลือใดๆ ระหว่างพวกเราเลย...กู้ซืออันหรือว่าพอเจ้าแต่งภรรยาแล้วก็เปลี่ยนไป”

“แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?” เขาถามกลับสหายสนิท

“กู้ซืออันนี่เจ้ากับฮูหยินความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาเลยสินะ”

กู้ซืออันเงียบไม่ตอบอะไรอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่าในแววตากับแฝงความร้อนแรงบางอย่างเอาไว้ “ระหว่างสามีภรรยาจะเป็นความสัมพันธ์ที่ธรรมดาได้อย่างไร”

“ข้าอยากพบฮูหยินของเจ้านานแล้วแต่คลาดกันทุกที...วันนี้นางอยู่ที่จวนหรือไม่อย่างไรไม่สู้เจ้าให้คนไปเชิญนางมาพบข้าสักหน่อยแนะนำสหายของเจ้ากับภรรยาเจ้าให้รู้จักกันสักวันนี้เลยเป็นอย่างไร”

ที่หอลุ่ยเหยียนครั้งนั้นเขาตั้งใจไปพบนางแต่ก็ไม่ได้พบ ในวันแต่งงานก็ถูกท่านพ่อสั่งให้คนจับเขาส่งไปเยี่ยมญาติที่เมืองอื่น ซึ่งเยี่ยมญาตินั้นก็เป็นเพียงข้ออ้างที่แท้ท่านพ่อท่านแม่ของเขากับท่านลุงท่านป้ากู้ต่างก็สมรู้ร่วมคิดกันไม่ให้เขาอยู่ร่วมงานเพราะต่างพากันคิดไปว่าเขาจะมาล่มงานมงคลของสหายทั้งๆ ที่เขาเองก็ยืนยันชัดเจนแล้วว่าจะมาร่วมแสดงความยินดีกับสหายแต่ก็ไม่มีผู้ใดยอมเชื่อ...

“เวลานี้ยังเช้าอยู่มากฮูหยินข้านางคงยังไม่ตื่น”

“แต่งเป็นฮูหยินน้อยสกุลกู้ไม่ตื่นแต่เช้ามาปรนนิบัติสามีกับคารวะพ่อแม่สามีหรือ...มิใช่เป็นเรื่องที่สะใภ้ควรทำเมื่อแต่งเข้าสกุลใหญ่อย่างสกุล กู้ของเจ้า?”

“สกุลอื่นแต่งสะใภ้เข้าจวนแล้วต้องเป็นอย่างไรเกี่ยวอันใดกับสกุล กู้ข้ารับสะใภ้ด้วย...ท่านแม่ข้านางเอ่ยชัดเจนตั้งแต่วันยกน้ำชาคารวะแม่สามีแล้วว่าสกุลกู้ข้าแต่งสะใภ้มาเพื่อเอาใจดูแลให้นางกินดื่มอย่างสบายชั่วชีวิต”

“ข้าได้ยินแล้วยังนึกอิจฉา...เอาใจดูแลให้นางกินดื่มอย่างสบายชั่วชีวิต”

“เจ้าอิจฉาก็แต่งเข้ามาเป็นสะใภ้สกุลกู้ได้...กู้ซือเฉินน้องชายข้าก็ ยังไม่แต่งงานมิใช่หรือไม่สู้เจ้าลองแต่งกับเขาดู”

“สหายกู้เจ้าอย่าได้เอ่ยเช่นนั้นออกมา...หากฟ้าผ่าลงมาจะเป็นเช่นไร อีกอย่างหากท่านป้ากู้บังเอิญได้ยินเข้ามีหวังข้าต้องถูกอุ้มฆ่าตัดตอนเพื่อตัดปัญหาแน่” เฉาหมิงเอ่ยไปก็ขนลุกไป เขานั้นชมชอบสตรีไม่ได้มีความชอบประหลาดๆ หรือเบี่ยงเบนแต่อย่างไรอีกทั้งเข้าออกหอนางโลมอย่างเปิดเผยแต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเมื่อไหร่ที่เขาอยู่กับสหายอย่างกู้ซืออันก็เป็นต้องถูกผู้คนพากันลือไปต่างๆนานาว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่รัก เป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ จะบอกว่าเพราะเขาหล่อเหลาเกินไปเมื่ออยู่กับกู้ซืออันที่มีรูปโฉมงดงามเกินไปคนถึงได้พากันลือไปเพราะคิดว่าพวกเราสองคนเหมาะสมกันหากจะกล่าวว่าเพราะเหตุนี้ก็คงจะเป็นไปได้อยู่

สรุปก็เป็นเพราะเราสองคนผู้เป็นสหายมีหน้าตาดีเกินไปจนทำให้เป็นทุกข์

“เอาเป็นว่าต่อให้ต้องรอให้ฮูหยินของเจ้าตื่นก่อนแล้วถึงจะได้พบ...อย่างไรข้าเฉาหมิงก็ตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่รอจนกว่าจะได้พบนาง”

หนึ่งชั่วยาม ผ่านไปดูเหมือนในที่สุดการรอของเฉาหมิงก็สามารถสิ้นสุดลงได้สักทีเมื่อมองออกไปไกล้ๆ ก็เห็นว่ามีสตรีสองคนกำลังเดินมาทางศาลารับลมแห่งนี้และหนึ่งในสตรีที่เดินนำหน้าสาวใช้อยู่นั้นดูมีท่าทีไม่ธรรมดาแค่ดูจากสีสันของเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ใส่ก็ทำให้พอจะคาดเดาได้ว่าผู้ที่กำลังตรงมาทางนี้คือผู้ใด

“นั้นคงเป็นฮูหยินของสหายกู้”

“ใช่...คือนาง” กู้ซืออันเอ่ยยืนยันเมื่อมองไปตามทางที่สหายตนมองอยู่แล้วก็พบว่าเป็นสตรีตัวน้อยของเขาที่กำลังเดินตรงมาทางที่เขาอยู่จริงๆ

มุมปากของกู้ซืออันเผยรอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เฉาหมิงเองก็สังเกตเห็นรอยยิ้มนี้ของสหายตนเขาพอดีจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ย แหย่ขึ้น

“หลายวันที่เจ้าบาดเจ็บฮูหยินของเจ้าคงแอบใส่ยาเสน่ห์ลงไปให้ เจ้าดื่มด้วยเป็นแน่"

“ก็อาจจะเป็นไปได้”

หลิงฉงหลงเดินมาถึงศาลารับพร้อมด้วยรอยยิ้มที่พยายามคงเอาไว้ให้อยู่บนใบหน้าเล็กเพื่อแสดงถึงความเป็นมิตร

ใช่แล้วเวลานี้นางอยากให้ตัวเองดูเป็นมิตรต่อคุณชายเฉาหมิงผู้นี้ให้มากๆ เขาจะได้ไม่มองนางเป็นศัตรูจนเกินไป

“เจ้าคือฮูหยินที่สหายกู้เพิ่งตบแต่งเข้าจวนมาใช่หรือไม่”

“คารวะคุณชายกู้...ข้าน้อยหลิงฉงหลงเจ้าค่ะ” นางเอ่ยแนะนำตัวเอง แต่ก็ตั้งใจเลี่ยงที่จะรับคำว่าตนคือฮูหยินของกู้ซืออันเพราะกลัวว่าจะทำให้คุณชายเฉาผู้นี้เกิดฉุนเฉียวขึ้นมาเพราะหึงหวง

ทว่าจากที่สังเกตดูแลคุณชายเฉาก็ไม่ได้มีท่าทีหึงหวงใดๆ ตั้งแต่ที่ นางปรากฏกายขึ้นต่อหน้าเขาชายหนุ่มแซ่เฉาผู้นี้ก็พูดคุยทักทายเป็นอย่างดี อีกทั้งไม่ได้ดูเสแสร้งแต่อย่างใด

“ท่านพี่...คุณชายเฉาหมิงต้องขออภัยที่ข้ามารบกวนการสนทนา ของพวกท่านนะเจ้าคะเพียงแต่ท่านแม่สั่งให้ข้านำของว่างมาให้พวกท่านทั้ง สองเจ้าค่ะ” นางเอ่ยจบอาจินเองก็รู้หน้าที่ของว่างหลายอย่างถูกนำออกมาว่างบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

“ท่านป้ากู้กับฮูหยินน้อยกู้ไม่เห็นต้องลำบากเช่นนี้ ข้ากับกู้ซืออัน เป็นสหายกันมานานระหว่างพวกเรานับได้ว่าเป็นคนกันเอง”

คุณชายเฉาผู้นี้ดูเหมือนจะใจกว้าง หญิงสาวเมื่อได้เห็นคุณชายเฉา เป็นเช่นนี้ก็เบาใจไปมาก

“คุณชายเฉากับท่านพี่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานาน แม้จะมีข้า เพิ่มเข้ามาอีกคนก็ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกท่านแน่...ข้ารู้ดีว่าตนควรอยู่แบบใดเจ้าค่ะ”

“ความสัมพันธ์แบบสหายของพวกเราดีจริงๆ ถือเป็นสหายที่ร่วม ทุกข์ร่วมสุขกันได้ แต่ก็ไม่อาจเทียบกับฮูหยินน้อยผู้เป็นภรรยาร่วมผูกผมได้หรอก ในใจสหายกู้ยามนี้ฮูหยินน้อยคือที่หนึ่ง”

“ข้าไม่กล้าเป็นที่หนึ่งอะไรนั้นหรอกเจ้าค่ะ” นางรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ก็อย่างที่ข้าเอ่ยไปเมื่อครู่ว่ารู้ว่าควรอยู่อย่างไรเจ้าค่ะ”

“เจ้าเป็นฮูหยินของข้าย่อมต้องอยู่อย่างสุขสสบาย...และที่สำคัญต้องอยู่เคียงข้างข้า” กู้ซืออันที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น

“คุณชายเฉาอยู่เคียงข้างท่านแค่คนเดียวก็พอแล้วเจ้าค่ะ” ส่วนข้าจะรับหน้าที่กินดื่มอยู่อย่างสุขสบายเอง

“เฉาหมิงมีสิทธิอันใดมาอยู่ข้างกายข้า”

“ก็สิทธิที่...คุณชายเฉาเป็นคนรักที่แท้จริงของท่านอย่างไรเจ้าค่ะ” นางตั้งใจเอ่ยแทบไม่ออกเสียงเมื่อตอบกลับไป

“ดูเหมือนฮูหยินน้อยจะเข้าใจอันใดผิดไป...มาก” เป็นเฉาหมิงที่เอ่ยขึ้น เขาเริ่มจะเข้าใจอะไรบ้างอย่างแล้ว

เขานึกสงสัยอยู่แต่แรกแล้วว่าคำพูดบางประโยคที่ฮูหยินของสหายเอ่ยขึ้นมีจุดที่แปลกๆ อยู่

“เฉาหมิงเจ้ากลับไปก่อน...ข้ากับฮูหยินมีเรื่องต้องทำความเข้าใจกันใหม่ให้รู้เรื่องเสียที” เจ้าของเสียงทุ้มต่ำเอ่ยไล่สหายตน

แน่นอนว่าผู้ที่ถูกไล่แทบจะวิ่งออกไปจากศาลารับลมเสียในทันที หากมิใช่ว่าชายหนุ่มต้องรักษามารยาทอันพึงมีเอาไว้ “เช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวก่อน...เอาไว้ครั้งหน้าจะมาเยี่ยมสหายกู้ และฮูหยินน้อยอีก”

“คุณชายเฉากลับดีๆเจ้าค่ะ” ฉงหลงเอ่ยพร้อมกับสั่งให้อาจินตามไปส่งคุณชายเฉาด้วย

คล้อยหลังคุณชายเฉาและอาจินไปจนลับสายตาแล้วนั้นหลิงฉงหลงถึงได้เดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้าบุรุษซึ่งได้ชื่อว่าคือสามีของนาง

“ท่านพี่...เมื่อครู่ข้าเอ่ยสิ่งใดผิดไปหรือไม่เจ้าค่ะ เหตุใดท่านต้องรีบไล่แขกกลับไปด้วย”

“สิ่งที่เจ้าเอ่ยเมื่อครู่ผิด...ผิดทั้งหมด”

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร...ว้าย!” หญิงสาวที่กำลังไม่เข้าใจว่านางผิดอะไรจู่ๆ ก็ถูกชายหนุ่มผู้เป็นสามีดึงลงไปนั่งที่ตักแกร่งอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ท่านพี่...ที่นี่คือศาลาริมน้ำกลางจวนทำเช่นนี้ผู้อื่นอาจเห็นเข้าได้” ฉงหลงรีบเอ่ยขึ้นอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยให้นางลุกขึ้นจากตักแกร่งของเขาซ้ำยังใช้แขนแข็งแรงโอบกระชับเอวเล็กของนางเอาไว้จนหญิงสาวแนบชิดไปกับอกแกร่งของเขาอย่างทำอันใดไม่ได้นอกจากยอมให้เขากักตัวเอาไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel