บท
ตั้งค่า

CHAPTER 2

“อลัน วันหยุดนี้เราไปฟิตเนสกันดีไหมคะ”

ถึงแม้จะเข้าหาเขาเพราะเป้าหมายบางอย่าง แต่ฉันก็เริ่มรู้สึกว่าอลันเหนื่อยเร็วเกินไปจริง ๆ แค่ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อยหอบเสียแล้ว ฉันจึงตั้งใจว่าต่อไปจะชวนเขากินเฉพาะอาหารที่มีประโยชน์ และชวนเขาเริ่มออกกำลังกายเท่าที่เขาจะทำได้

ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ ก่อนเสียงทุ้มจะดังมาตามสาย

[มีนาอายเหรอครับ ที่ต้องเดินกับผม]

คิ้วของฉันกระตุกทันทีที่ได้ยิน ฉันก็เดินกับเขาหลายต่อหลายครั้ง มีครั้งไหนที่เคยทำให้เขารู้สึกว่าอายเวลาเดินด้วยกันบ้าง ดังนั้นน้ำเสียงที่ตอบกลับไปปลายสายจึงฉุนเฉียวขึ้น

“มีนาทำให้คุณคิดแบบนั้นเหรอ”

เมื่อคำว่าอลัน เปลี่ยนเป็นคุณ เขาก็คงรู้ว่าทำให้ฉันโกรธเสียแล้ว น้ำเสียงของเขาจึงเปลี่ยนเป็นออดอ้อน

[ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ…มีนาอย่าเพิ่งโกรธ]

เมื่อเห็นปลายสายมีน้ำเสียงอ่อนลงอย่างต้องการง้อ ฉันก็พูดต่ออย่างไม่คิดมาก

“มีนาแค่อยากให้อลันแข็งแรง คุณเพิ่งอายุสามสิบสี่ปีเองนะคะ”

วันเสาร์

ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือใครต่อใครมาบอกให้เขาเข้าฟิตเนส อลันไม่เคยสนใจจะฟัง และเนื่องจากเขาเป็นหลานรักของคุณปู่คุณย่า คนอื่น ๆ จึงไม่กล้าขัดใจ จนในที่สุดจากเด็กอ้วนก็กลายเป็นผู้ใหญ่ตัวอ้วน แต่ตอนนี้หลังเลิกงาน เขากลับไปเดินห้างกับมีนาเพื่อซื้อชุดออกกำลังกาย เธอดึงมือเขาเข้าไปในร้านนั้นออกร้านนี้ อลันรู้สึกว่าเสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกายแบบไหนก็เหมือน ๆ กันหมด แต่มีนากลับตั้งใจเลือกเสื้อผ้าอย่างเอาใจใส่

“ขอแบบที่ระบายความร้อนได้ดี” เธอหันไปบอกพนักงานที่เข้ามาดูแล ก่อนจะหันมาถามเขา

“อลันชอบสีอะไรคะ”

“อะไรก็ได้ครับ แล้วแต่มีนา”

เมื่อเขาตอบแบบนั้น มีนาจึงเลือกเสื้อและกางเกงออกกำลังกายให้เขาหลายชุด ขณะรอพนักงานไปนำสินค้ามาให้ อลันก็เหลือบมองหญิงสาวซึ่งนั่งอยู่บนโซฟา พลิกดูนิตยสารออกกำลังกาย เห็นเธอมุ่งมั่นที่จะดูแลสุขภาพเขาแบบนี้ใจของเขามันก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเขา แต่อลันก็ปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยในแต่ละวันหากออกกำลังกายด้วยกัน เขาก็จะได้ใช้เวลาอยู่กับเธอมากขึ้น ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ผู้หญิงคนนี้กลับทำลายกำแพงของเขาที่พยายามป้องกันตัวเองจากคนอื่นลงได้อย่างง่ายดาย

มีนาเงยหน้าขึ้นจากนิตยสาร เพื่อพบว่าอลันจ้องเธออยู่ก่อนแล้ว

“คิดอะไรอยู่คะ”

อลันเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งพร้อมกับยิ้มให้เธอ “คิดว่าคุณซื้อชุดกีฬาให้ผมแล้ว ก็ต้องยอมให้ผมซื้ออะไรให้คุณบ้าง”

มีนาหัวเราะ แววตากลมโตที่สบกับเขามีแววซุกซนขี้เล่น “ใครบอกว่ามีนาซื้อให้คะ อลันต้องจ่ายเองทั้งนั้น” เพราะเธอไม่มีเงินจ่ายให้เขาอยู่แล้ว

“แต่ถ้ามีนาไม่มาช่วยเลือกให้ ผมก็ไม่มีทางคิดจะออกกำลังกายแน่นอนครับ แล้วถ้ามีนาไม่ยอมรับความขอบคุณจากผม ผมก็จะไม่ยอมใช้ของพวกนี้ด้วย” เขาบอกอย่างเอาแต่ใจ จนทำให้หญิงสาวอยากถามเขาว่าความจริงเขาอายุสามสิบสี่ขวบหรืออายุสี่ขวบกันแน่

“เอาล่ะ...ถ้ามีนายอมรับคำขอบคุณแล้วอลันต้องไปออกกำลังกายกับมีนาตามที่มีนาวางแผนไว้ให้นะคะ”

เพียงแค่เธอยอมรับปาก ก็ได้เห็นรอยยิ้มของผู้ชายตัวโตอีกครั้ง

อลันเดินนำมีนาไปที่ร้านหรูในห้างนั้น เขาไม่เคยมาที่นี่แต่ร้านไหนหรูหราที่สุดเขาก็เดินเข้าไปที่นั่น ดวงตาของมีนาเบิกกว้าง เมื่อเห็นกระเป๋าแบรนด์เนมหรูหราและเสื้อผ้าจากดีไซเนอร์ชื่อดังมาวางอยู่ตรงหน้า หญิงสาวเริ่มลังเล เพราะการหลงระเริงไปกับสิ่งของฟุ่มเฟือยเช่นนี้ไม่ใช่นิสัยของเธอเลย

“รับไว้เถอะครับมีนา” อลันเกลี้ยกล่อม ดวงตาของเขาเปล่งประกายขณะพูด “ให้ผมได้ทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการตอบแทนมีนาบ้างนะครับ”

มีนากัดริมฝีปากถึงเธอจะอยากเป็นหนูตกถังข้าวสาร แต่เปย์กันหนักขนาดนี้ ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานมันเกินไปหรือเปล่า หรือเขากำลังทดสอบเธออยู่เหมือนในละครที่เคยดู

“อลันคะ แต่นี่มันมากเกินไป ฉันรับของแพง ๆ พวกนี้ไม่ได้

อลันยิ้มอ่อนโยน เขาไม่เคยเห็นเธอใช้ของแบรนด์เนมเลยสักครั้ง ในสายตาเขาเธอจึงเป็นสาวสวยที่เรียบง่ายและใจดี

“ผมรู้ว่ามีนาไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย…แต่อย่าปฏิเสธความตั้งใจของผมเลยนะครับ”

มีนามองเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่ม เธอเห็นเพียงความจริงใจของผู้ชายคนหนึ่งในดวงตาใสซื่อคู่นั้น หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึก เอาเถอะของพวกนี้คงไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของเขาร่วง เธอจะคิดเสียว่าเป็นค่าตอบแทนที่เธอเป็นโค้ชลดน้ำหนักของเขาแล้วกัน

“ก็ได้ค่ะ ครั้งนี้มีนาจะยอมรับไว้ แต่ครั้งหน้าอลันห้ามให้ของแบบนี้กับมีนาอีกนะ" ถ้าให้เงินเธอจะไม่ว่าอะไรเลย

เมื่อเธอยอมรับไว้ ก็ได้เห็นรอยยิ้มกว้างขวางด้วยความยินดีจากคนตรงหน้า หลังจากทั้งคู่ซื้อของกันเรียบร้อยแล้ว อลันอยากขับรถไปส่งเธอ จะได้มั่นใจว่ามีนาถึงที่พักอย่างปลอดภัย แต่เธอพักหอพักของพนักงาน เขาจึงจำต้องเรียกแท็กซี่ให้หญิงสาว

“ถึงห้องแล้วโทรหาผมด้วยนะครับ” เขาบอกหลังจากเปิดประตูรถแท็กซี่ให้เธอ

“รับทราบค่าเจ้านาย” เสียงหวานรับปากเขาพร้อมกับยกมือขึ้นตะเบ๊ะเหมือนทหารรับคำสั่งผู้บังคับบัญชา เพียงเท่านั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากเขา

อลันปิดประตูรถแท็กซี่ลง เขามองตามหลังแท็กซี่ไปจนลับสายตา เขาเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบสุงสิงกับคนอื่น และไม่เข้าใจว่าความสุขในชีวิตคืออะไร แต่เมื่อได้รู้จักกับมีนา เธอกลับทำให้เขายิ้มได้ มากกว่าที่เขาเคยยิ้มมาทั้งชีวิตเสียอีก

ในขณะที่คนอยู่บนรถแท็กซี่ก็มองเสื้อผ้าและกระเป๋าแบรนด์เนมด้วยความรู้สึกหนักใจ แม้ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนอย่างง่ายดาย แต่เมื่อสบกับตาเรียวที่แสนจริงใจคู่นั้น เธอก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ มีนาพยายามปลอบใจตัวเองว่า ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้ขโมยเขามาเสียหน่อย อย่าคิดอะไรมากเลย แต่ปัญหาคือเธอไม่เคยใช้ของแบรนด์เนม ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนของพวกนี้เป็นเงินได้อย่างไร หากเอาไปคืนร้านแล้วขอเป็นเงินสดออกมาแทนจะได้ไหมนะ

ขณะที่หัวสมองเล็ก ๆ ของเธอคิดด้วยความสับสน โทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าจากแพรพลอยเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอ ซึ่งแพรพลอยเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวเก่ง แม้เงินเดือนจะน้อยแต่เพื่อนของเธอจะไม่ใช้จ่ายกับของจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ เธอจะเก็บเงินไว้ซื้อกระเป๋าหรือไม่ก็เสื้อผ้าราคาแพงที่เธอชอบ มีนาตัดสินใจกดรับสาย

“แพร มีนากำลังจะกลับพอดี เดี๋ยวจะไปหาแพรที่ห้องนะ”

ฉันหิ้วของเต็มสองมือลงจากรถแท็กซี่ โชคดีที่ฉันยืนยันกับอลันว่าจะซื้อเท่าที่ตัวเองถือกลับไหวเท่านั้น เขาจึงลดจำนวนของที่ต้องการซื้อให้ฉันลง ฉันไม่ได้กลับห้องของตัวเองในทันที แต่หิ้วถุงกระดาษทั้งหมดตรงไปยังห้องของแพรพลอย เจ้าของห้องเปิดประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้อง

“อะไรเนี่ยมีนา ถูกหวยมาเหรอ” เธอถามเมื่อเห็นว่าในมือของฉันมีของพะรุงพะรังเต็มไปหมด

ฉันไม่ตอบ แต่รอให้แพรพลอยเปิดประตูออกกว้าง จากนั้นก็เดินไปทิ้งของทั้งหมดลงกลางห้อง ฉันและแพรพลอยพักห้องพักของพนักงาน เป็นห้องเดี่ยว มีโซนครัว ห้องนอน และห้องน้ำภายในห้อง

แพรพลอยผู้คลั่งไคล้ในแฟชั่นเดินเข้ามาเปิดถุงที่วางอยู่บนพื้นอย่างกระตือรือร้น ดวงตาเรียวเล็กอย่างสาวหมวยเบิกกว้างมากขึ้นเมื่อเห็นของที่ฉันหิ้วมา

“มีนาซื้อของพวกนี้เองหมดเลยเหรอ?”

“แพรช่วยมีนาขายของทั้งหมดนี่หน่อยได้ไหม” ฉันพูดสวนขึ้นโดยไม่รอให้เจ้าตัวพูดจบ

แพรพลอยมีกระเป๋าแบรนด์เนมหลายใบ ซึ่งเพื่อนเล่าให้ฉันฟังว่าบางชิ้นก็เป็นสินค้ามือสอง ฉันจึงเชื่อว่าเพื่อนน่าจะรู้แหล่งซื้อขายของพวกนี้เป็นอย่างดี เพื่อนของฉันตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้โอกาสสัมผัสกระเป๋า หลายใบที่เธอได้แต่เปิดเว็บชื่นชม

“มีนาไปได้ของพวกนี้มาจากไหน”

ฉันทิ้งตัวลงนอนเหยียดยาวบนโซฟาเพราะเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ก่อนจะตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย

“ผู้ชายซื้อให้”

“โห…มีนามีแฟนแล้วเหรอ”

คราวนี้ฉันลืมตาขึ้นก่อนจะอ้อมแอ้มตอบเพื่อน

“ก็…ยังไม่ได้เป็นแฟนกันหรอก” ชาตินี้จะได้เป็นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้

แพรพลอยคงสังเกตเห็นสีหน้าลำบากใจของฉัน จึงไม่ได้ซักถามเรื่องนี้อีก

“ของพวกนี้ยังใหม่อยู่เลย” แพรพลอยหยิบกระเป๋าใบหนึ่งขึ้นมาลูบคลำ

ใหม่สิก็ของพวกนี้เพิ่งออกจากร้านวันนี้

“ทำไมมีนาจะขายเสียแล้วล่ะ”

ฉันชั่งใจชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องหนี้ของพ่อให้เพื่อนฟัง และเหตุผลที่ฉันต้องใช้เงินมหาศาล ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเมื่อแพรพลอยเลิกสนใจเรื่องที่มาของกระเป๋า แล้วให้ความสนใจเรื่องหนี้สินของพ่อฉันแทน

“แย่มาก ทำไมลุงของมีนาทำแบบนี้ อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลนะ”

ฉันพยักหน้าตอบเพื่อน ถ้ามีโอกาสเอาคืน ฉันจะไม่ปล่อยให้คนที่โกงพ่อได้มีชีวิตดี ๆ แน่ แต่ตอนนี้ฉันต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน

“แพรช่วยขายของพวกนี้ให้มีนาได้หรือเปล่า”

“ได้สิ” แพรพลอยให้ความมั่นใจกับฉันเสียงหนักแน่น

“สินค้าพวกนี้ยังใหม่ ถ้าขายราคาต่ำกว่าช็อปหน่อยก็เป็นที่ต้องการของตลาด”

ฉันฟังแพรพลอยพูด พลางคิดว่าเลือกไม่ผิดจริง ๆ ที่เอาเรื่องนี้มาปรึกษาเพื่อน

“ว่าแต่ถ้าขายของพวกนี้ไปคนที่ให้มีนามาจะไม่เสียใจเหรอ”

ดวงตากลมโตของฉันไหววูบ เมื่อคิดถึงผู้ชายตัวโต ๆ นั่งเปิดนิตยสารเลือกของพวกนี้อย่างตั้งใจ แต่แล้วก็รีบสลัดความรู้สึกผิดในใจทิ้ง

“ไม่หรอกมั้ง” ก็เขาให้ฉันมาแล้ว ฉันจะทำอะไรกับมันก็ได้สิ ฉันคิดอย่างเข้าข้างตัวเอง

ฉันทิ้งของทั้งหมดไว้ห้องของแพรพลอย เดินกลับห้องของตัวเองด้วยความเหน็ดเหนื่อย หลังจากอาบน้ำเสร็จและกำลังจะล้มตัวลงนอนเสียงข้อความแจ้งเตือนในโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นข้อความจากอลันนั่นเอง

ถึงบ้านหรือยังครับ

เมื่อได้อ่านทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าก่อนจากกันเขาบอกให้เธอส่งข้อความหาหลังกลับมาถึงห้อง มือเรียวยาวจึงจัดการพิมพ์ข้อความตอบกลับเขาไป จากนั้นก็ทิ้งโทรศัพท์เครื่องเล็กไว้บนที่นอนแล้วล้มตัวลงนอนหงาย การออกไปข้างนอกทั้งวันกับเขาทำให้ฉันต้องใช้พลังงานเยอะมาก แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่ก็รู้สึกว่าสนุก เวลาอยู่กับอลันฉันไม่ต้องคิดอะไรมาก เขาจริงใจและเป็นผู้ชายที่ดีมาก ๆ คนหนึ่ง ดีจนทำให้ฉันรู้สึกผิดที่เข้าหาเขาเพราะมีแผนการ

ดังนั้นฉันจึงตั้งใจว่าจะตอบแทนความมีน้ำใจของเขาด้วยการดูแลเขาให้ดีที่สุดในช่วงที่รู้จักกัน ฉันจะช่วยเขาควบคุมอาหารและวางแผนการออกกำลังกายให้เขา เพื่อสุขภาพของเขาเอง เมื่อคิดได้ดังนั้นมุมปากของฉันก็ยกขึ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel