บทที่ 7 ของฝากครอบครัว (7/1)
บทที่ 7 ของฝากครอบครัว
หลี่ซานซานรีบวิ่งเข้าไปเอาน้ำ¬ดื่มมาให้แม่ของตน พร้อมกับถามออกไปอย่างห่วงใย “น้ำค่ะแม่ แม่เหนื่อยไหม”
“ขอบใจนะ แม่หายเหนื่อยแล้ว” โจวเพ่ยชิงรับน้ำมาดื่มและบอกลูก¬สาวตัวน้อยออกไป
เพียงแค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้วสำหรับผู้¬แม่
“อาเฉิน ซานซาน มานั่งนี่ก่อน มาดูสิว่าเสื้อผ้าและรองเท้าที่¬แม่ซื้อมาให้ ใส่ได้หรือไม่” โจวเพ่ยชิงกวักมือเรียกลูกทั้งสองคนให้-เข้ามาดูของฝากที่เธอเอามาให้
“มีชุดใหม่ของผมกับน้องด้วยเหรอครับ” น้ำเสียงที่ถามกลับสั่นเครือเล็กน้อย
ตั้งแต่จำความได้คนที่จะซื้อเสื้อผ้าและชุดใหม่ให้เขากับน้องนั้นมักจะเป็นพ่อ ซึ่งจะมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น แต่เวลานี้แม่กลับบอกว่าซื้อของพวกนี้มาให้เขากับน้อง แม่เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ
“ใช่แล้ว ลูกทั้งสองมาลองสวมดูก่อนว่า ใส่ได้หรือเปล่า หากไม่ได้ อีกสามวันแม่จะเข้าเมืองอีกครั้ง จะได้เอาไปเปลี่ยนให้ใหม่”
แม้ว่าเวลานี้ใบหน้าของโจวเพ่ยชิงจะมีรอยแผลที่น่ากลัว แต่สำหรับเด็กน้อยไม่กลัวเลยสักนิด ทั้งสองชอบที่ให้แม่เป็นแบบนี้มากกว่า บรรยากาศบ้านรองหลี่เวลานี้เต็มไปด้วยความสดใสของเด็ก¬ทั้งสองคน รวมถึงโจวเพ่ยชิง หลี่รุ่ยเฉินและหลี่ซานซานต่างก็วิ่งเข้าไปเปลี่ยนและลองชุดอย่างสนุกสนาน ภาพนี้จึงทำให้ผู้เป็นแม่ยิ้ม¬ตามอย่างมีความสุข
“เอาละ เย็นนี้ใครอยากกินอะไรบอกแม่ได้เลย แม่จะทำให้ แต่ก่อนอื่น เรามาแบ่งอาหารและของใช้พวกนี้ไปบ้านปู่ย่า และตา-ยายกันก่อนดีหรือไม่”
“ดีครับ / ดีค่ะ” หลี่รุ่ยเฉินและหลี่ซานซานต่างพยักหน้าและพูดออกมาพร้อมกัน
จากนั้นสามคนแม่ลูกก็ช่วยกันแบ่งข้าวของไปฝากทั้งบ้าน-โจวและบ้านหลี่ทันที
“พ่อคะ แม่คะ อยู่บ้านไหมคะ” โจวเพ่ยชิงเอ่ยเรียกพ่อแม่สามีหน้าประตูรั้ว
“ตายแล้ว วันนี้ฝนคงตกผิดฤดู น้องสะใภ้รองมาเยี่ยมเยือน”
สะใภ้ใหญ่นิสัยขี้อิจฉา วันนี้เธอไม่ได้ไปลงงานในแปลงนารอบบ่าย ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกจึงรีบออกมาดู พอเห็นว่าเป็นใครก็-อดที่จะจิกกัดตามนิสัยไม่ได้
“พ่อกับแม่อยู่ไหม พี่สะใภ้” หญิงสาวคร้านจะต่อปากต่อคำด้วย จึงเอ่ยถามหาพ่อแม่สามี ทว่าสะใภ้ใหญ่ของบ้านกลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ
“จะมาหาพ่อแม่ทำไม หรือเงินไม่พอใช้ เลยจะมาขอยืม”
“ไม่ใช่นะคะป้าสะใภ้ แม่และพวกเราเอาอาหารมาให้ปู่กับย่า มีเสื้อใหม่ด้วยนะ” หลี่ซานซานร้องบอกป้าสะใภ้
นี่จึงทำให้สะใภ้ใหญ่ตาลุกวาวและแทบจะไม่เชื่อหูตนเองว่าสะใภ้รองอย่างโจวเพ่ยชิงจะซื้ออาหารมาให้พ่อแม่สามี
“ไหน..มีอะไรมาฝากพ่อกับแม่ เอามาฝากฉันไว้ก็ได้”
ความโลภในใจทำให้สะใภ้ใหญ่พูดขึ้นมาอย่างหน้าไม่อาย ใน¬ใจนั้นคิดว่าของบางส่วน เธอจะเก็บไว้เอง
“หากพ่อแม่ไม่อยู่ ฉันค่อยมาอีกครั้งดีกว่า อาเฉิน ซานซานไปบ้านตากับยายกันเถอะ”
โจวเพ่ยชิงรู้นิสัยพี่สะใภ้ดีว่า หากเธอฝากข้าวของไว้ พ่อแม่สามีคงไม่ได้อะไรแน่ ส่วนอาหารพี่สะใภ้คงเก็บไว้กินเอง หรือไม่ก็เอาไปฝากบ้านเดิม เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ตอนที่เธออยู่รวมกับบ้านใหญ่
จากนั้นสามแม่ลูกหมุนตัวเตรียมจะกลับ แต่แม่หลี่ก็เดินออกมาจากในบ้านเสียก่อน
“อ้าว เพ่ยชิง อาเฉิน ซานซาน มาที่นี่มีอะไรหรือเปล่า แล้วนั่นหอบอะไรมา” แม่หลี่ทักทายทั้งสามคนขึ้นมา และมองไปที่สิ่งของในมือของลูกสะใภ้และหลานทั้งสอง
“สวัสดีค่ะย่า / สวัสดีครับย่า” หลี่รุ่ยเฉินและหลี่ซานซานเอ่ยทักทายย่าของตัวเอง แล้วเป็นหลี่ซานซานที่พูดต่อว่า “แม่เอาอาหารและเสื้อมาฝากปู่กับย่าค่ะ แต่ป้าสะใภ้บอกว่าย่า¬ไม่อยู่บ้าน ซานซานกับแม่และพี่ใหญ่เลยกำลังจะกลับค่ะ”
“อ้าวเหรอ มา มา เข้ามาก่อนสิ ย่ามัวแต่ไปเก็บผักน่ะ เลยออกมาช้าไปหน่อย เข้ามาในบ้านก่อนมา” แม่หลี่รีบเปิดประตูรั้วและเรียกทั้งสามคนเข้าบ้านก่อนจะถลึงตาใส่สะใภ้ใหญ่
ไม่รู้ว่าครั้งนั้นเธอตาบอดหรืออย่างไร ถึงได้แต่งคนอย่างซือ-เจียเข้าบ้าน สะใภ้ใหญ่พอรู้ว่าแม่สามีไม่พอใจตนเอง ก็รีบก้ม¬หน้าและเดินตามทุกคนเข้าบ้านเช่นกัน
“ซื้อของมาทำไมมากมาย เปลืองเงินแย่ อย่าใช้เงินให้มันสิ้นเปลืองนัก”