บทที่ 3ปะทะคารม (3/2)
ในอดีตทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากันไม่¬น้อย อีกทั้งลู่เสี่ยวเหมยเองยังเป็นสหายรักกับหม่าหลันจี จึงมองโจวเพ่ยชิงเป็น¬ศัตรูมาตลอด และไม่¬คิดที่จะญาติดีด้วย
“แล้วทำไมฉันจะไม่กล้าล่ะ ฉันหน้าผีแล้วมันหนักส่วนไหนของเธอไม่¬ทราบ เสี่ยวเหมย” โจวเพ่ยชิงย้อนกลับอย่างไม่เกรงกลัว และไม่คิดจะไว้¬หน้าเหมือนกัน
แม้ว่าจะย้อนกลับมาและตั้งใจจะเป็นคนดี แต่เธอจะดีกับคน¬ที่ควรจะดีเท่านั้น อีกทั้งต่อให้เธอจะหน้าผีแบบนี้ไปชั่วชีวิต เธอก็-ยินดี แต่ไม่ใช่จะ¬ยอมให้ใครมาด่าหรือเยาะเย้ยเธออย่างนี้ อย่างที่ลู่-เสี่ยวเหมยกำลังทำ
“ฉันละสงสารพี่ฮั่นตงเสียจริง ๆ ไม่รู้กลับมาบ้านคราวนี้ เขาจะคิด¬อย่างไร ที่เมียกลายเป็นคนหน้าผีเสียแล้ว ทางที่ดีเธอควรจะหย่ากับเขาเสีย” ลู่เสี่ยวเหมยยังคงพูดจาถากถาง และยังเสนอให้โจวเพ่ยชิงหย่าขาดกับหลี่ฮั่นตงอีกด้วย
“เสี่ยวเหมย อย่าพูดแบบนั้น ไม่ดี” หม่าหลันจีกระตุกแขนเสื้อสหาย คล้ายกับห้ามปรามสหายของตน ทว่ามุมปากเธอกลับยิ้มเล็กน้อย
นี่จึงทำให้โจวเพ่ยชิงแปลกใจมาก โดยปกติแล้วหม่าหลันจีจะเป็นหญิง¬สาวที่อ่อนโยนและเรียบร้อย ที่ผ่านมามีแต่เธอไประรานอีกฝ่าย กลับมาครั้งนี้ เธอตั้งใจจะหลีกทางให้โดยการหย่ากับสามี เพื่อให้ทั้งคู่สมหวัง แต่ไม่คิดว่าหญิง¬สาวที่แสนจะอ่อนโยน จะมีมุมนี้เหมือนกัน หรือว่าที่ผ่านมาเธอเข้าใจผิดกันนะ
“ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ล่ะหลันจี ทั้งหมู่บ้านต่างก็รู้ว่า เธอและพี่ฮั่นตงสอง¬ครอบครัวหมายตาจะให้แต่งงานกัน แต่กลับโดนนังนี่แย่งชิงพี่ฮั่นตงไปอย่าง¬หน้าไม่อาย” ลู่เสี่ยวเหมยพูดกับสหายของตนเอง ทว่าสายตากลับจ้องไปยังโจวเพ่ยชิงอย่างเกลียดชัง
“เดี๋ยวก่อนนะ เรื่องที่ฉันใช้วิธีต่ำช้าแย่งชิงพี่ฮั่นตงมา ฉันไม่-เถียง แต่หากพี่ฮั่นตงไม่สมยอม ฉันจะท้องได้อย่างไรกัน ส่วนนั้นของพี่ฮั่นตงไม่ได้อยู่ที่ตาตุ่ม¬นะ ที่ฉันจะเอาของตัวเองไปเสียบได้ พูด-อะไรคิดหน่อยสิ” โจวเพ่ยชิงสวนกลับทันทีเหมือนกัน
หญิงสาวรู้ดีว่าหลี่ฮั่นตงเป็นสุภาพบุรุษ แม้ว่าเขาไม่รักเธอ แต่เขาคงไม่เอาเรื่องที่เธอวางยามาโพนทะนาให้คนนอกรับรู้แน่
“หน้าไม่อาย หล่อนมันเป็นหญิงที่หน้าไม่อาย แต่ไม่ว่าอย่างไร หล่อนควรจะหย่ากับพี่ฮั่นตงเสีย บ้านหลี่ไม่มีใครต้อนรับหล่อนเลยสัก¬คน¬เดียว ป้าหลี่ยังต้องการหม่าหลันจีเป็นสะใภ้รอง นี่-หล่อนไม่รู้หรือ¬อย่างไร” ลู่เสี่ยวเหมยยังไม่ยอมแพ้
คราวยนี้เธอถึงกับเอาแม่ของหลี่ฮั่นตงมาอ้าง และคิดว่าครอบครัวของหลี่ฮั่นตงยังต้องการสหายของตนอยู่
อีกทั้งเวลานี้สหาย¬ของตนยังไม่แต่งงาน ทั้ง ๆ ที่เลยวัยแต่งงานมานานแล้ว
“จริงเหรอหลันจี ที่เธอยังรอพี่ฮั่นตง?” โจวเพ่ยชิงไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับลู่เสี่ยวเหมย แต่หันกลับมาถามหม่าหลันจีแทน
“เอ่อ...” เมื่อเจอคำถามนี้ของโจวเพ่ยชิงเข้า หม่าหลันจีจึงมีน้ำเสียงตะกุกตะกัก ไม่¬กล้าที่จะพูดออกมาตรง ๆ
“หลันจีเรียบร้อยขนาดนี้ จะกล้าตอบได้หล่อนอย่างไรกัน ใครมันจะหน้า¬ด้านเหมือนเธอล่ะเพ่ยชิง” ลู่เสี่ยวเหมยยังทำตัวเป็นทนายหน้าหอให้หม่าหลันจีอีกแหมือนเดิม
“ฉันถามเธอเหรอ? เสี่ยวเหมย” โจวเพ่ยชิงถามกลับไปทันที
เวลานี้เสียงโต้เถียงของทั้งสามคนกลายเป็นจุดสนใจของชาวบ้านไม่¬น้อย แม้จะไม่รู้เนื้อหาทั้งหมด ทว่าชาวบ้านกลับคิดไปแล้วว่าโจว¬เพ่ยชิงคงจะมาหาเรื่องหม่าหลันจีเหมือนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“สะใภ้รอง หล่อนจะมาหาเรื่องอะไรหลันจีอีก การที่หล่อนพลาดตก¬เขาจนเสียโฉม ไม่ทำให้หล่อนคิดได้เลยหรืออย่างไร”
แม่หลี่แม่ของหลี่ฮั่นตงเอ่ยเสียงเย็น พร้อมกับก้าวเข้ามาประจันหน้ากับทั้งสองฝ่าย
ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าลูกสะใภ้กลับตัวกลับใจได้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะยังมาระรานหม่าหลันจีอยู่อีก ตลอดเวลาที่ลูกสะใภ้บาดเจ็บ เธอแวะเวียนไปดูแทบทุกวัน และเห็นการกระทำของโจวเพ่ยชิงในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา คิดว่าลูกสะใภ้จะเปลี่ยนนิสัยแล้ว แต่เปล่าเลย เธอคงคิดไปเองว่าโจวเพ่ยชิงจะเปลี่ยนตัวเองได้
โจวเพ่ยชิงหันมาทางแม่สามีที่ออกหน้าปกป้องอีกฝ่าย ทั้งที่ยังไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด แต่ก็นะ ในอดีตเธอเองก็ร้ายกาจอย่างที่ใครหลายคนเห็น¬จริง ๆ จะโทษแม่สามีที่ทำอย่างนี้ก็ไม่ได้
“ก่อนที่แม่จะตำหนิฉัน แม่ควรจะถามก่อนไหมคะ ว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าฉันจะเคยร้ายกาจ แต่ฉันไม่มีสิทธิ์และโอกาสกลับตัวกลับใจเลยใช่ไหม แล้วที่ผ่านมา ต่อให้ฉันจะเลวร้ายอย่างไร หากไม่-มีใครมาหาเรื่องฉันก่อน ฉันเคยหาเรื่องใครก่อนหรือไม่”
พอเจอประโยคนี้ของลูกสะใภ้ แม่หลี่หยุดคิดเล็กน้อย และก็เป็นอย่างที่โจวเพ่ยชิงกล่าวมาจริง ๆ
“เจอแม่ก็ดีแล้ว ฉันมีเรื่องจะถามพอดีเลยว่า แม่ต้องการหม่าหลันจีเป็นลูกสะใภ้รองใช่ไหม หากแม่ต้องการอย่างนั้น แม่ก็ส่งจดหมายไปบอกพี่¬ฮั่นตงให้มาหย่ากับฉันเถอะ ฉันยินดี แต่ไม่ต้องให้-ใครมาบอกเรื่องนี้กับฉัน เวลานี้ฉันพร้อมที่จะปล่อยพี่ฮั่นตงแล้ว แต่ฉันขอเรื่องเดียว คือลูกทั้งสองต้องอยู่ในความดูแลของฉันเท่านั้น ขอตัวก่อนนะคะแม่”
พูดจบโจวเพ่ยชิงไม่คิดจะรอคำตอบอีก เธอเดินจากมาทันที โดยไม่¬สนใจสายตาของใครหลายคนที่มองตามมา