บทที่ 2 ย้อนกลับมา (2/2)
เธอทำสิ่งเลวร้ายมามากพอแล้ว หากพี่ฮั่นตงอยากจะหย่าเพื่อไปใช้¬ชีวิตของตนเอง เธอก็ยินดี เธอกักขังทั้งตัวและหัวใจเขามา-มากพอแล้ว ในเมื่อเธอมีโอกาสกลับมาอีกครั้ง ชีวิตที่เหลือเธอ¬ยินดีที่จะคืนให้¬เขา ส่วนเธอจะขอเป็นแม่ที่ดีของลูกทั้งสองคน และขอเป็นลูกและน้องรวมถึงเป็นพี่ ที่ดีให้กับครอบครัว พร้อมกับทำดีเพื่อชดใช้ให้กับสิ่งที่เธอได้รับ¬ปากไว้กับท่านตาคนนั้น
นางซูหนานมองลูกเลี้ยงอย่างไม่เชื่อหู ไม่คิดว่าจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จะทำให้โจวเพ่ยชิงเปลี่ยนไปขนาดนี้
“เรื่องหย่าค่อย ๆ คิดเถิดนะลูก นี่เพิ่งฟื้นขึ้นมา เดี๋ยวแม่จะไปเอาข้าวมาให้กินจะได้มีแรง ส่วนแผลบนใบหน้าก็อย่าคิดมาก ค่อย ๆ เสาะหาหมอดี ๆ ต่อให้ค่ารักษาจะแพง แม่เชื่อว่าพ่อและพี่ชายทั้งสองของลูก คง¬ยินดีที่จะหาเงินมารักษาใบหน้าให้กับลูก”
“ช่างเถอะค่ะแม่ หากแผลเป็นนี้จะอยู่ติดตัวฉันไปตลอดชีวิตฉันยินดี ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่แม่เคยทำให้ ทั้ง ๆ ที่ฉันเป็นเพียงลูกเลี้ยง และขอ¬โทษสำหรับทุกสิ่ง ที่ฉันเคยกระทำต่อแม่และน้อง-เล็ก”
“อืม อย่าคิดมาก เดี๋ยวแม่จะไปเอาข้าวมาให้”
นางซูหนานพยักหน้าให้อย่างอ่อนโยน ที่ผ่านมาเธอไม่ติดใจและไม่¬เคยโกรธลูกเลี้ยงอย่างโจวเพ่ยชิงเลย
โจวเพ่ยชิงมองตามแผ่นหลังแม่เลี้ยงจนลับสายตา ก่อนจะคิดและทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นชาติที่แล้ว เวลานี้สามีอย่างหลี่ฮั่นตงยังคงปกติ แต่อีกไม่กี่ปีเขาจึงจะบาดเจ็บ และนั่นจะทำให้เขาเป็นชายพิการ
แม้เธอจะยืนยันว่าจะหย่า และรู้ว่าอีกสามปีเขาจะบาดเจ็บกลับมา แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นหลักของการหย่า
เธอคิดจะเตือนเขาทางอ้อมให้ดูแลตัวเองให้ดี พร้อมกับส่งอาหารและของใช้ไปให้ เธอรู้ดีว่าเวลานี้สถานการณ์ของกองทัพและค่ายทหารนั้นเป็นอย่างไร อีกทั้งยังขาดแคลนเรื่องนี้มากแค่ไหน
เมื่อนางซูหนานนำอาหารมาให้ โจวเพ่ยชิงจึงกินอย่างไม่บ่น แม้อาหารจะมีเพียงข้าวต้มกับผักก็ตาม
วันเวลาเดินผ่านมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว เวลานี้ร่างกายของโจวเพ่ยชิงกลับมาเป็นปกติแล้ว เหลือเพียงแผลเป็นอันใหญ่และดู-น่า¬เกลียดตรงแก้ม¬ซ้ายเท่านั้น ทว่าเรื่องนี้หญิงสาวเจ้าของใบหน้าที่-เคยงดงามกลับไม่¬สนใจ ใครจะมองว่าเธอหน้าผีก็ตามแต่ ดีเสียอีก จะได้ไม่มีใครมาวุ่นวาย
วันนี้เลยตั้งใจจะทำความสะอาดบ้าน เนื่องจากที่ผ่านมาแม่-เลี้ยงและแม่สามี ต่างก็แวะเวียนมาช่วยดูแลลูกทั้งสองคน นี่จึงทำให้เธอซึ้งใจไม่¬น้อย
แต่แล้วจู่ ๆ เธอกลับมึนหัวขึ้นมา ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป แต่เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง โจวเพ่ยชิงกลับอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ที่นี่มีบ้านหลัง¬ใหญ่ ด้านข้างมีห้างสรรพสินค้าที่ดูสวยหรู และยังมีร้านค้าเรียงรายกันอีกนับไม่ถ้วน
“เอ๊ะ! หรือว่านี่คือมิติที่คุณตาคนนั้นกล่าวไว้”
หลังจากที่ตั้งสติได้ หญิงสาวจึงเดินไปยังห้างสรรพสินค้าและดูว่าภายในมีอะไรบ้าง ซึ่งในนั้นกลับมีของละลานตาไปหมด มีทั้งของที่ดูคุ้นตา และดูสมัยใหม่กว่าที่เคยเห็น
หลังจากตรวจดูทุกอย่าง โจวเพ่ยชิงจึงออกมาจากมิติทันที หลังจากออกมาแล้ว หญิงสาวลองนึกถึงเนื้อหมู เพราะอยากจะรู้ว่าข้าวของและสิ่งของในนั้น สามารถเอามากินมาใช้ได้¬หรือไม่ ทว่าเนื้อ¬หมูชิ้น¬ใหญ่ก็โผล่มาอยู่บนมือของเธอจริง ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่าง-ดีใจ
“วิเศษเลย ต่อไปนี้อาเฉินและซานซานมีเนื้อกินแล้ว”
ต่อให้ตลอดเวลาที่ผ่านมา สามีอย่างหลี่ฮั่นตงจะส่งเงินมาให้ทุก¬เดือน แต่ทว่าโจวเพ่ยชิงกลับใช้เงินหมดไปกับเครื่องประทินโฉมและเสื้อผ้าของตนเอง ดังนั้นเงินที่มีจึงเหลือน้อยนิดนัก
หากข้าวของในมิติสามารถเอาออกมาได้อย่างนี้ เธอก็จะสามารถนำสิ่งของและสินค้าพวกนี้ออกมาค้าขายได้ นี่จะกลายเป็นอาชีพที่มีติดตัวเธอไปจนวันตาย แต่การที่จะเอาเนื้อสัตว์และสิ่งของออกมาตอนนี้ นอกจากลูกทั้ง¬สองจะสงสัยแล้ว ยังมีแม่เลี้ยงและแม่สามี อาจจะสงสัยเช่นเดียวกัน
“อย่างนั้นรีบทำความสะอาดดีกว่า ช่วงบ่ายจะลองเข้าเมืองดู เผื่อว่าจะหาข้ออ้างเอาของพวกนี้ออกมากินและทำอาหาร”
เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว หญิงสาวจึงรีบจัดการทำความสะอาดบ้านอย่าง¬เร่งด่วน ห้องนอนของลูกทั้งสอง เธอเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้¬ใหม่ เรื่องนี้แม้ว่าจะน่าสงสัย แต่ก็อ้างได้ว่าซื้อไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะก่อนที่จะเกิด¬อุบัติเหตุ ตัวของโจวเพ่ยชิงก็เข้าเมืองเป็นว่าเล่นนั่นเอง
การทำความสะอาดบ้านในครั้งนี้กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมง เล่นเอาหญิงสาวอ่อนล้าไปทั้งตัว จากนั้นจึงไปเตรียมอาหารเที่ยงให้กับลูกทั้งสองทันที