คนที่ชอบ
กวิน
" ลอย ลอย กระทง ลอย กระทง กันแล้ว ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง รำวง วันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ "
เสียงเพลงและเสียงโห่ร้องที่ดังมาจากด้านขวามือของผมทำให้ผมต้องหันไปมอง และผม...
หยุดก้าวเดิน...รอยยิ้มของเธอคนนั้น แววตาสดใส ความร่าเริงที่มีในตัวเธอ มันติดอยู่ในใจของผมตั้งแต่เมื่อเช้า และใช่ ... คือเธอคนนั้น คนที่ทำให้ผมใจสั่นหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ..
เมื่อเช้าในขณะที่ผมรีบเดินไปหาเพื่อนที่ลานเกียร์ ผมก็โดนผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาอย่างรีบร้อน ชนเข้าอย่างจัง หนังสือที่อยู่ในมือหล่นกระจาย เธอรีบก้มลงเก็บหนังสือช่วยผม ปากก็เอ่ยขอโทษๆ ด้วยท่าทีลนลาน คำขอโทษและท่าทีนั้นทำให้ผมไม่ติดใจเอาความอะไร ผมก้มเก็บหนังสือและกำลังจะลุกขึ้น..เธอก็ยื่นหนังสืออีกเล่มมาให้ผม
ตึ๊ก ตึ๊ก หัวใจของผมมันเต้นแรงแทบระเบิด เพราะใบหน้าที่เนียนใส ไร้เครื่องสำอางใดๆ มีเพียงแค่ริมฝีปากเท่านั้นที่เป็นสีชมพูอ่อนๆ ดวงตากลมฉายแววสดใส..ใช่เลย ...เธอคนนี้
ผมหยิบหนังสือจากมือเธอ ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ลานเกียร์ทันทีโดยที่ไม่ได้พูดกับเธอแม้แต่คำเดียว
:
:
ผมหยุดเดินและมองไปยังนักศึกษาสามคนที่รำรอบต้นไม้เหมือนกับอีกหลายๆคนที่ให้ความสนใจเช่นเดียวกับผม อาจด้วยเพราะรอยยิ้มที่แสนสดใสอีกทั้งเพื่อนชายที่รำด้วยกันก็มีใบหน้าคม ดูดีอยู่ไม่น้อย จึงทำให้นักศึกษาที่อยู่ในลานและคนที่ผ่านไปมาให้ความสนใจ
ติ๊ดๆๆ ติ๊ด
" เออ" เสียงโทรศัพท์ที่ดังทำให้ผมหลุดจากภวังค์
( มึงอยู่ไหนแล้วไอ้วิน...พี่เค้าเรียกแล้วเนี้ย เดี๋ยวก็โดนลงโทษหรอกมึง) ผมรับสายของไอ้นิว
" เดินอยู่ อีกแป๊บเดียว กำลังจะถึงแล้ว "
(แล้วมึงอยู่ไหนนี่ เสียงดังฉิบหาย ) มันถามอีกครั้ง
" หน้าคณะบริหาร มึงบอกพวกพี่เค้าก่อนว่ากูกำลังไป รีบเดินอยู่นี่ " ผมตอบพลางรีบเดินไปยังลานเกียร์เพื่อให้ทันเวลาที่รุ่นพี่นัด
...................
หลังจากที่ผมมาถึงลานเกียร์ทันเวลาทำกิจกรรมกับรุ่นพี่ ผมและเพื่อนๆก็ร่วมทำกิจกรรมหฤโหดกับรุ่นพี่ทั้งหลาย ไม่รู้จะตะโกนอะไรกันนักหนา คอไม่แตกรึไงวะ ...ก็แค่คิดในใจแหละครับ ใครมันจะไปกล้าถามพี่เค้าว่า...เจ็บคอมั้ย ตะโกนแบบนั้น
" เฮ้ย!!! กูนึกว่ากูจะตายแล้ว รุ่นพี่แม่งอย่างโหด เสียงดังฉิบหาย ไม่เจ็บคอรึไงวะ " นั่นไงไอ้นิวมันคิดเหมือนผม
" เออ! กูก็ว่าจริง นั่งกันอยู่แค่นี้ตะโกนจนขี้หูกูจะระเบิด"
" พวกนายอยากรู้ว่าพี่เค้าเจ็บคอมั้ยใช่ม่ะ ? เดี๋ยวชั้นถามให้ พี่เค้าเดินมาโน่นแล้ว " ชมพูเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มของผมพูดขึ้น
" พี่คะๆ พี่กันต์คะ คืออออ" ยังไม่ทันที่ชมพูจะถามจบไอ้นิวก็รีบวิ่งเอามือไปปิดปากชมพูได้สำเร็จ
" อือออ..(อ่อย..)ไอ้บ้านิวมาปิดปากชั่นทำไมนี่ " ชมพูโวยวาย
" ว่าไง...ยังไม่กลับบ้านเหรอพวกเราอ่ะ " พี่กันต์และกลุ่มรุ่นพี่ปีสองที่เดินเข้ามาถามพวกเรา
" เดี๋ยวนั่งคุยกัน..อีกแป๊บนึงก็ไปแล้วค่ะ " ชมพูตอบ
" อืม..ว่าแต่เราเถอะ..น้องวินทำไมไม่คัดเลือกประกวดเดือนล่ะ พี่ว่าวินต้องได้เป็นตัวแทนของภาคแน่ๆ แถมดีไม่ดีได้เป็นเดือนคณะอีกนะ " พี่ส้มพูดขึ้น พี่แกเป็นคนคัดเลือกหาน้องเข้าประกวดดาวและเดือนของคณะเพราะปีที่แล้วพี่ส้มก็ได้เป็นดาวของคณะวิศวฯ
" ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ชอบอะไรที่มันวุ่นวาย ให้ไอ้วาฬมันลงเถอะครับ ผมไม่ถนัดอะไรแบบนี้จริงๆ" ผมตอบ
" แต่ยังไงพี่ก็จองเราเป็นคนถือธงในงานกีฬาของคณะนะ..อันนี้ห้ามปฏิเสธ ถือว่าช่วยงานคณะนะจ๊ะ" พี่ส้มพูดแบบนี้ผมจะว่าอะไรได้ล่ะครับ
" โอเคครับ ถ้าแค่ถือธง ผมไม่ขัดครับ"
" พวกพี่ไปก่อนนะ แล้วอย่ากลับค่ำล่ะ " พี่กันต์ว่าพลางก็โบกมือให้พวกผมที่นั่งอยู่
" ครับ/ค่ะ." พวกผมรับคำแล้วยกมือสวัสดีรุ่นพี่ไป
ติ๊ดๆๆ ติ๊ด
" ฮัลโหล ..แกเสร็จแล้วเหรอ...ชั้นก็เสร็จแล้ว เมื่อเช้าแกมาไงอ่ะ...อ้าวเหรอ... งั้นเดี๋ยวกลับด้วยกัน เดี๋ยวชั้นไปรับ ..ไม่เอาจะเดินมาไมให้เหนื่อย รออยู่นั่นแหละ เคๆ...อีก 10 นาทีเจอกัน "
"คุยกับใครวะ.." ไอ้นิวถามชมพู
" ยัยพิชไง พิชชา.. ที่อยู่ข้างบ้านชั้นอ่ะ"
" อ๋อ .เหมือนจะเห็นแว๊บๆนะ แต่ไม่เคยเห็นหน้าชัดๆสักที เรียนที่นี่เหมือนกันเหรอ " ไอ้นิวว่า
" อืม..พิชมันเรียนบริหารหน่ะ...พ่อชั้นให้มาอยู่คอนโดเดียวกะยัยพิช พ่อยัยพิชเค้าซื้อให้ตอนเข้ามหาลัยนี่แหละ " ชมพูตอบ
" งั้นก็ดีอ่ะดิ..แกจะได้ไม่ต้องขับรถไกลๆกลับบ้าน ไว้วันหลังชั้นไปนอนเล่นคอนโดแกดีกว่า "
" เคๆค่อยว่ากัน..ชั้นไปล่ะ เดี๋ยวยัยพิชรอนาน " ว่าแล้วชมพูก็เดินออกจากโต๊ะไปยังลานจอดรถคณะ ผมกับไอ้นิวก็แยกย้ายกันกลับบ้านเหมือนกัน
ว่าแต่เมื่อกี้ชมพูมันว่าอะไรนะ..เพื่อนมันอยู่คณะบริหารงั้นเหรอ คณะเดียวกับเธอคนนั้นเลยนะ
ผม ชมพูและไอ้นิว ยังมีไอ้หมอกกับไอ้ปลาวาฬ พวกเราห้าคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมอปลายล่ะ ชมพูมันเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม แม้ชื่อของมันจะดูเป็นผู้หญิงสวยหวานแต่นิสัยนี่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ชมพูมันออกแนวห้าวๆหน่อย ไม่หยุมหยิมเหมือนผู้หญิงส่วนใหญ่ ไปไหนไปกัน ไม่มีบ่น นี่จึงทำให้พวกเราคบเป็นเพื่อนกันจนเรียนมหาลัย