บท
ตั้งค่า

บทนำ (๒)

“ไปบอกรักพี่หมอกทั้งที่รู้ว่าเขามีแฟนแล้ว อย่างนี้เขาเรียกหน้าด้าน!” ตะโกนเสียงดังอย่างหงุดหงิด บังเอิญได้ยินอีกฝ่ายคุยกับเพื่อนว่าไปสารภาพรักกับแฟนของหล่อน เอาความกล้ามาจากไหนถึงยุ่งกับคนที่เขามีเจ้าของ

แหวนหมั้นของพวกเรายังอยู่บนนิ้วหล่อน แต่กลับมีคนอื่นคิดจะฉกเมืองหมอกไปหน้าตาเฉย คิดหรือว่าหล่อนจะยอมเสียเขาไป

“รู้ไหมว่าฉันกับพี่หมอกเราหมั้นกันแล้ว คิดว่าพอบอกรักเขาจะหันมาชอบเธอหรือไง เสร่อ” ผลักคนตัวเล็กกว่าจนล้มลงบนพื้น ไม่อยากเป็นนางมารร้ายแต่สถานการณ์ก็บีบบังคับจนได้

“หนูไม่รู้ว่าพี่หมอกมีแฟน”

พยายามหาทางรอดให้ตัวเอง แต่กลายเป็นว่าสาดน้ำมันเข้ากองไฟ ชีวาพรยิ่งโมโหมากกว่าเดิม ก้าวเข้าไปดึงผมที่ท้ายทอยของสาวรุ่นน้องให้เงยหน้าขึ้นมองตน หล่อนจะไม่ยอมปล่อยคนแบบนี้ให้เข้าใกล้คู่หมั้นตนเด็ดขาด

“อย่ามาโกหก ฉันตัวติดกับพี่หมอกทั้งเช้ากลางวันเย็นจะไม่รู้ได้ยังไง นอกซะจากจะไม่สนใจแล้วอยากแย่งแฟนคนอื่น”

“ขอโทษ หนูขอโทษ” ยกมือไหว้แล้วร้องไห้อย่างน่าสงสาร แต่หล่อนไม่สงสารเลยสักนิด ปล่อยมือจากกลุ่มผมหนาพร้อมเตือนเสียงเข้ม ไม่เห็นสักนิดว่ามือของคู่กรณีกำดินจนเต็มเพื่อจะได้โจมตี แสดงละครให้น่าสารทั้งที่ในใจโกรธแค้นเป็นอย่างมาก

“คราวหลังอย่ายุ่งกับพี่หมอกอีก!” พูดจบก็หันหลังคิดจะเดินกลับห้อง แต่ถูกปาดินใส่หลังจนเธอไม่อาจควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ทั้งสองลงไม้ลงมืออย่างไม่มีใครยอมใคร ผละห่างได้อีกทีก็ตอนที่มีคุณครูเดินผ่านเข้ามาแยก

แล้วพาเข้าห้องปกครองทันที...

กลับบ้านด้วยกันช่วงเย็น ดวงหน้าคมนิ่งเฉยติดเย็นชาจนทั่วทั้งคันรถเหมือนมีไอเย็นแผ่ปกคลุม คุณครูเรียกผู้ปกครองของหล่อนเข้าพบ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมีเรื่อง แต่ไม่มีคนว่างจึงให้คู่หมั้นอย่างเมืองหมอกมาเป็นผู้ปกครอง

เขาเอ่ยขอโทษและเธอโดนตัดคะแนนจิตพิสัย จะลงโทษหนักก็ไม่ได้เพราะบิดาของชีวาพรจ่ายค่าบำรุงรักษาโรงเรียนหนักพอสมควร

“พี่หมอก...”

ขยับเข้าไปใกล้เขาพลางกระตุกปลายเสื้อนักเรียนชายหนุ่ม

บ้านเราอยู่ตรงข้ามกันจึงไปกลับด้วยกันทั้งเช้าและเย็น หญิงสาวมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้เจอหน้าเขาตลอด ต่างจากชายหนุ่มที่ขอหลายครั้งว่าอยากไปโรงเรียนเอง แต่ถูกปฏิเสธบอกให้กลับพร้อมน้องดีแล้ว

“นี่มันอะไร” ถามเสียงเบา ค่อยเหลียวมองหล่อนด้วยแววตาเย็นเยียบจนร่างบางถึงกับทำตัวไม่ถูก

“คะ...”

“ไปตบตีกับคนอื่นเพราะอะไร” ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนทำแบบนี้ แต่เขาก็ยอมปล่อยผ่านทุกครั้งไม่อยากยุ่งด้วย ทว่าตอนนี้เราหมั้นหมายกันแล้ว จึงต้องสอนให้หล่อนอยู่ในร่องในรอยสักหน่อย

“ก็...มันอยากมายุ่งกับพี่หมอกก่อนทำไมล่ะ เจอแบบนี้ก็สมควรแล้ว” พึมพำเสียงเบาอย่างเอาแต่ใจ เขาได้ยินชัดเจนยิ่งโมโหมากกว่าเดิม กำหมัดแน่นควบคุมอารมณ์ไม่ให้เผลอตะคอกหล่อนเสียงดัง ถึงจะโมโหมากแค่ไหนก็ตาม

“เรื่องอะไรไปทำร้ายคนอื่น พูดกันดีๆ ก็ได้ อยากเป็นมากนักหรือไงนักเลงเนี่ย” ปากอวบอิ่มเม้มแน่นเมื่อถูกกล่าวหา แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเขาสักนิด คิดไปถึงผู้หญิงที่เป็นตัวต้นเหตุให้เราต้องมาทะเลาะกัน

“โซ่หวงพี่หมอก ไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้พี่หมอก โซ่ทำไม่ได้หรือไงในเมื่อเราเป็นคู่หมั้นกันแล้ว”

“ไม่ได้! ถึงเราจะหมั้นกันแต่มันไม่ได้เกิดจากความรัก พี่ทำเพราะคุณย่า อีกไม่นานพี่ก็จะถอนหมั้น”

ตะโกนเสียงดังเมื่อหล่อนแสดงความเป็นเจ้าของเขา การหมั้นหมายที่ไม่เต็มใจอีกไม่นานก็ต้องจบ เขาไม่คิดจะแต่งงานกับเธออยู่แล้ว

สองหนุ่มสาวทะเลาะกันเสียงดังจนคนขับรถสะดุ้ง โชคดีที่เลี้ยวเข้ามาในเขตบ้านมงคลทิวัตถ์แล้ว จอดสนิทที่หน้ามุข เขาจึงปลดเข็มขัดนิรภัยเตรียมลงจากรถ ต่างจากหล่อนหมายจะคว้าเขาไว้ทว่ายังไม่ปลดเข็มขัดนิรภัย จึงถูกดึงให้นั่งติดเบาะ

“ไม่ ไม่เอา ไม่ถอนหมั้น โซ่ไม่ยอม ไม่ยอม!” ตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมน้ำตาที่คลอเบ้า เธออุตส่าห์ได้หมั้นกับเขาแล้ว จะไม่ยอมเสียเมืองหมอกไปเด็ดขาด

“เพราะโซ่เป็นแบบนี้ไง พี่เลยไม่เคยรักโซ่” เขาหยุดยืนมองคนที่โวยวายตาแดงก่ำพักหนึ่ง ค่อยบอกความรู้สึกของตน ที่เป็นเหมือนธนูนับพันพุ่งเข้าปักกลางอกคนรักมั่นคงเพียงชายหนุ่มมาตลอด

“พี่หมอกกลับมานะ พี่หมอก!” ปลดเข็มขัดนิรภัยได้ก็ตะโกนเรียกเขาเสียงดัง แต่ร่างหนาก็ไม่แม้แต่จะเหลียวกลับมามองด้วยซ้ำ เขาเดินขึ้นไปชั้นสองอย่างมั่นคง ปล่อยหล่อนยืนร้องไห้อยู่หน้าบ้านเพียงลำพัง

“ฮือ”

ไม่ว่าอย่างไร...ก็จะไม่ยอมถอนหมั้น

ทำอย่างไรก็ไม่ยอม!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel