ตอนที่ 3
รถเบรกกะทันหันท่ามกลางความมืดมิดของค่ำคืน เรนิกาสะดุ้งกวาดตามองรอบตัวหวาดหวั่น ทำไมถึงได้จอดรถในที่เปลี่ยว
“ชอบผมเหรอ”เขาถามเสียงเย็นมองเธอผ่านแววตาเศร้าหมอง
“อะไรนะคะ!”รู้สึกตกใจกับคำถามกะทันหัน ผู้ชายคนนี้มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
“ผมถามว่าชอบผมเหรอ”
“จะบ้าหรือไง ใครจะไปชอบเจอหน้ากันแค่วันเดียวเอง!”โพลงออกมาด้วยความตกใจ แต่ในใจเธอกลับพึงพอใจเขาไม่น้อยเลย
เขานิ่งชั่วอึดใจไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ก่อนหันกลับมองถนนเช่นเดิม รถถูกขับเคลื่อนอีกครั้งทิวากรจอดรถริมบาทวิถีแล้วเปิดประตูลงมา เรนิกาออกแปลกใจว่าชายหนุ่มกำลังทำอะไร จึงลงรถตามเขามา
“มาทำอะไรคะ?”
“หาขอะไรกิน หิวแล้ว”เสียงห้วนสั้นตอบมา เธอค่อนข้างหงุดหงิดกับอาการถามคำตอบคำเช่นนี้
เขานั่งบนเก้าอี้พลาสติกสีแดงวางเรียงใกล้โต๊ะเหล็กทาสีเข้าชุดกัน ตรงกลางวางช้อนและตะเกียบไว้พร้อมสำหรับลูกค้า เรนิกากวาดตามองรอบๆ ร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวแทบทุกอย่าง ทั้งน้ำตก ต้มยำ เย็นตาโฟ ถึงน้ำใส เห็นคนมาอุดหนุนมากในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านริมถนนก็ตาม
“จะทานอะไรเดี๋ยวผมจะสั่งให้”
“เอาเหมือนคุณ”
ชายหนุ่มกวักมือเรียกอาแปะเจ้าของร้านทันที ชายกลางคนรูปร่างอวบอ้วนเดินอุ้ยอายถือปากกาและสมุดมาพร้อมรับออเดอร์ลูกค้า
“เส้นใหญ่เย็นตาโฟต้มยำสองครับ”
“ได้เลย รอแป๊บ!”
ราวสิบนาทีเส้นใหญ่เย็นตาโฟต้มยำสองที่ถูกนำมาเสิร์ฟ เขาหยิบตะเกียบส่งให้แล้วจัดการของตนเอง เมื่ออาหารถึงหน้ามีหรือจะรอช้า ชายหนุ่มคีบเส้นและเครื่องส่งเข้าปาก หญิงสาวมองดูก๋วยเตี๋ยวหน้าตาน่าทานแล้วลองชิมมันดูบ้าง
อืม... มันอร่อยเลยทีเดียว
เธอรีบส่งมันเข้าปาก สักพักเย็นตาโฟสองชามก็หมดลง แต่อยู่ๆ ลมพัดกระหน่ำเข้ามาราวกับจะมีพายุ เรนิการีบลุกยืนในขณะที่เขากำลังไปจ่ายเงินหน้าร้าน ไม่ถึงสองนาทีฝนเทลงมาราวกับท้องฟ้ารั่วหญิงสาวรีบวิ่งไปหลบใต้ต้นไม้ใหญ่
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าคำรามทำให้เธอสะดุ้งทรุดลงยกมือปิดหูหลับตาแน่น ทิวากรชะงักรีบวิ่งเข้าไปหา ร่างบางสะดุ้งโหย่งตกใจกระโจนกอดเขาไว้แน่น ชายหนุ่มตั้งท่าจะผลักออกแต่รับรู้ได้ถึงอาการสั่นสะท้านจากร่างนุ่มในตอนนี้
ร่างสูงยืนสงบนิ่งแหงนหน้ามองฟ้ายังไงเสียฝนคงเททั้งคืน เขาช้อนร่างนุ่มไว้ในอ้อมแขน แล้ววางเธอไว้ในรถ เรนิกาตกใจกับการกระทำเขาไม่น้อย ระหว่างทางในสมองจึงได้แต่คิดทบทวนหากเป็นชายคนนี้เธอจะยอมรับได้หรือไม่ ถ้าเขาต้องกลายเป็นสามีเธอในอนาคต
เมื่อรถจอดเทียบหน้าบ้านเห็นสองร่างกำลังยืนชะเง้อมอง ทิวากรเปิดประตูรถลงมาก่อน ตามด้วยเรนิกา หญิงสาวหยุดยืนเหนือบันไดด้านหน้า วิรงรองยิ้มให้แล้วก้าวเท้าหยุดยืนข้างบุตรชาย
“วันนี้ฉันกลับก่อนนะพา”วิรงรองบอกเพื่อน
“จ้า โชคดีนะ”
“ผมลาล่ะครับ”ทิวากรยกมือไหว้เพื่อนมารดา สายตาเหลือบมองหญิงสาวอีกคนแล้วหันหลังเปิดประตูรถเพื่อทำหน้าที่สารถี
รถของแขกเคลื่อนลับสายตา พาวินีโอบไหล่บุตรสาวพาเดินมาสนทนาในห้อง ระหว่างนั้นสาวใช้น้ำอาหารว่างมาเสริฟ์พร้อมชาอุ่น
“ไปถึงไหนกันมาเหรอเรน แม่ไม่คิดว่าลูกจะออกไปเที่ยวกับทิวาได้นานขนาดนี้เลย”พาวินียกชาขึ้นจิบ ช้อนตามองใบหน้าแดงก่ำบุตรสาวเพื่อพิจารณาท่าทีต่อผู้ชายที่ตนเลือกให้
“ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะแม่ แค่ไปทานก๋วยเตี๋ยวร้านข้างทางเอง แล้วฝนก็ตกลงมา...”เรนิกาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง แล้วเสียงก็กลืนหายไปในลำคอ เมื่อนึกได้ว่าใต้ต้นไม้ใหญ่เสียงฟ้าผ่าเธอได้โอบกอดเขาไว้