บท
ตั้งค่า

4.ธาตุแท้ของคุณนิฟ

EP.4 ธาตุแท้ของคุณนิฟ 18+

"ครับคุณพราว ผมชื่ออัลโก้  เฮอร์ลิอัส หรือเรียกผมว่าอัลก็ได้ครับ"

อัลโก้ เฮอร์ลิอัส ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเฮอร์ลิอัส ผู้สืบทอดเวทมนตร์ดำที่ผู้คนหรือสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์ไม่อยากเข้าใกล้

นานมาแล้วที่ตระกูลเฮอร์ลอัสโด่งดังในเรื่องเวทย์มนตร์ที่ใช้ได้ผลมากที่สุด แวมไพร์หลายสายพันธุ์ต่างอยากเข้าใกล้ มีมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตเป็นล้านๆชีวิตแล้วที่ถูกเขาฆ่า!  เพื่อนำไปใช้ปรุงยาหลายๆตำราที่รุ่นปู่ย่าจาทวดของเขาได้เขียนบันทึกเอาไว้ แต่มีอยู่วันหนึ่ง มีตระกูลหนึ่งทำให้ชีวิตครอบครัวเขาต้องพังพินาศ เมื่อมีเวทมนตร์แห่งตระกูลฮาวเบิร์ดเกิดขึ้น เพราะฉนั้นตอนนี้เขากำลังคิดที่จะหาทางแก้แค้นเพื่อล้างเผ่าพันธุ์ของตระกูลนั้นให้ได้ เขาจะได้ขึ้นเป็นใหญ่ในเหล่าเเวมไพร์ทั้งหลาย

"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"

พูดจบพริ้มพราวก็โบกมือลาแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำทันทีไม่ทันให้อัลโก้ได้สานสัมพันธ์ต่อ

"ไปกันหรือยังครับนาย"

เรกันลูกน้องคนสนิทของอัลโก้เดินมาถาม

"ไปสิ"

อัลโก้หันไปตอบก่อนที่จะมองไล่หลังคนตัวเล็กไปจนลับสายตา พริ้มพราวเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนคนอื่น เห็นทีเขาคงจะปล่อยยไปไม่ได้แล้วล่ะ

ทางด้านพริ้มพราวที่กำลังล้างหน้าล้างตาอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่เพื่อไล่ความมึนเมาออกไป แต่หญิงสาวหารู้ไม่ว่าภายในห้องน้ำมีใครคนนึงกำลังล็อกประตูห้องน้ำบานใหญ่เพื่อไม่ให้คนอื่นสามารถเข้ามาได้ เขากำลังก้าวเท้ามาข้างหลังเธอ

"ว้ายยยยย ! คุณนิฟ"

เมื่อหญิงสาวหันหลังไปก็ตกใจทันควัน เจนิสันมาอยู่ข้างหลังเธอได้อย่างไร

"ตกใจอะไร เห็นฉันเป็นผีหรือไง"

เจนิสันแกล้งถามสาวน้อยเบื่องหน้าที่แต่งตัวล่อเเหลม  ชายหนุ่มชักจะอยากรู้แล้วสิว่าใครสั่งสอนให้หล่อนแต่งตัวแบบนี้เข้ามาในสถานที่อโคจรแบบนี้ มันน่าจับมาตีก้นเสียให้เข็ด

"ปะเปล่านี่คะ แต่ก็ใกล้เคียง แล้วนี่คุณนิฟมาได้ยังไงคะ"

พริ้มพราวเอ่ยถามอย่างแปลกใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นเขาอยู่บนโลกมนุษย์

"ก็มาตามหาคนที่ไม่ยอมตอบแชทฉันหน่ะสิ ไหนบอกว่าอยากเจอฉันนานๆอนากคุยกับฉันทุกวัน แล้วที่หนีมาเที่ยวไม่ยอมตอบแชทฉันมันหมายความว่าไง หื้ม?"

เจนิสันพูดพลางใช้มือจับคางสวยให้แหงนมองหน้าเขาในระยะประชิด ตอนนี้เขากับเธออยู่ใกล้กันแค่ปลายจมูก กลิ่นแอลกอฮอล์ในกายสาวส่งผลให้เขามีอารมณ์ขึ้นมาอย่างง่ายดาย

"ก็ก็หนูบอกคุณนิฟไปแล้วนี่คะว่าวันนี้มีฉลองกับเพื่อนคงไม่ได้อยู่คุยด้วย"

พริ้มพราวตอบติดๆขัดๆ เธอเกือบลืมหายใจเมื่อเห็นสายตาที่เขาจ้องราวจะกลืนกินเธอทั้งตัว เธอรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป! เขาทำให้เธอร้อนรุ่มมากกว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเสียอีก

"แต่นี่เป็นวันแรกที่เราได้คุยกันนะพริ้มพราว นี่เห็นว่าเป็นครั้งแรกฉันขอแค่ทำโทษนิดหน่อยก็พอ"

"ทำโทษ?"

ไม่ทันได้ถามอะไรไปมากกว่านั้นจุ่มพิตร้อนแรงก็เกิดขึ้นในทันทีริมฝีปากร้อนผ่าวระบุความต้องการได้มากกว่าสิ่งใดบรรจงขดขยี้ริมฝีปากอ่อนบางวัยแรกแย้มอย่างร้อนแรงถึงทรวง พริ้มพราวเกร็งรับสัมผัสจากชายหนุ่มนี่คือครั้งแรกที่มีผู้ชายได้แตะต้องตัวเธอ จูบของเจนิสันช่างวาบหวามยิ่งนักหรืออาจจะเป็นเพราะมีฤทธิ์แอลกอฮอล์อปนยู่ก็ได้เธอถึงไม่สามารถปฎิเสธรสจูบที่แสนร้ายกาจนั่นได้เลย

"คุณ! จูบหนู"

พริ้มพราวพูดเหมือนคนละเมอ เธอรักเขามันใช่! แล้วเขามาจูบเธอแบบนี้ทำไมกัน หรือเพราะเขารักเธอหรือ? คำถามมากมายถาโถมเข้ามาในหัวสมอง

"นี่คือการลงโทษต่างหากละเด็กน้อย  เอาล่ะ! ต่อไปนี้เลิกแทนตัวเองว่าหนูเพราะเธอโตจนอะไรๆมันโตกว่าตัวของเธอแล้วฉนั้นเรียกแทนตัวเองว่าพราว  และอีกอย่างต่อไปนี้เธอต้องตอบแชทฉัน ห้ามหนีไปไหนเด็ดขาด เข้าใจมั้ยพริ้มพราว!"

เสียงคนเผด็จการสั่งออกมา ต่อไปนี้เขาไม่ใช่คุณนิฟคนเดิมที่เธอรู้จักอีกต่อไป เขาคือผู้ปกครองเธอต่างหากปกครองหัวใจและร่างกายนุ่มนิ่มของเธอ!

"ค่ะ! หนูเอ้ยพราวจะตอบทุกข้อความของคุณนิฟ ว่าแต่คุณนิฟเป็นไข้หรือเปล่าคะทำไมดูแปลกๆไป"

พริ้มพราวใช้มือเล็กสำรวจอุณหภูมิในร่างกายของคนตัวโต แต่เมื่อจับไปถูกหน้าผากก็ต้องชักมือออก ก็แหง๋ล่ะ เธอลืมไปว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ตัวเย็นเฉียบอย่างกะอะไรดี

"ต่อไปนี้ฉันคงไม่ใช่คุณนิฟคนเดิมของเธออีกแล้วพริ้มพราว"

รอยยิ้มร้ายกาจปรากฎขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ความรักความรัญจวนกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเร็วหรือช้าสาวน้อยหน้ามนคนนี้ก็ต้องตกอยู่ใต้ร่างเขาอยู่ดี มันคงถึงเวลาจริงๆเหมือนที่จีฟเฟ่นพูด เพราะเมื่อครู่เขาเห็นแววตาที่อัลโก้มองกระต่ายตัวน้อยของเขามันทำให้เขาแอบกลัวขึ้นมาว่าสุนัขอาจจะคาบพริ้มพราวไปรับประทานก่อนเขาก็เป็นได้

"ทำไมคะ คุณนิฟหมายความว่าอะไร พราวไม่เข้าใจ"

พริ้มพราวส่ายหน้าพลวัน เจนิสันเป็นอะไรไป คำพูดท่าทางอีกทั้งรอยจูบแสนหวานทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะวิ่งเข้าสู่กองไฟที่แสนทรมานอย่างไรอย่างนั้น

"ฉันไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอคิดหรอกพริ้มพราว ฉันมันคือผู้ชายบ้าเซ็กส์ หื่นกระหายในเรื่องเพศ"

คำพูดของชายหนุ่มทำเอาคนฟังเเทบผงะ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมาเขาไม่ยอมแตะต้องใครก็เพราะรอเธอนี่แหละ  เขาเก็บน้ำเชื้อเอาไว้ฉีดใส่ตัวเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น ต่อจากนี้เขาจะนำเธอวิ่งเข้าสู้ไฟราคะที่ไม่อาจปฎิเสธได้ เขาเคยเสียคนรักไปครั้งหนึ่งแต่ครั้งนี้เขาจะไม่มีวันให้ใครมาพรากเธอไปจากเขาแน่นอน

"เอ่อ .. ละแล้วคุณนิฟ มาบอกพราวทำไมคะ"

พริ้มพราวถามออกไปโดยที่หัวใจยังเต้นรัว เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงนะ หญิงสาวใบหน้าร้อนผ่าวยามนึงถึงความร้อนแรงที่เจนิสันจะมอบให้ในจิตนาการ ไม่! เธอต้องบ้าไปแล้ว ถึงจะรักแต่ก็ไม่ยอมเสียพรหมจรรย์ให้เขาฟรีๆหรอก เพราะเธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขารักเธอหรือไม่

"เพราะฉันจะนำเรื่องพวกนี้มาใช้กับเธอนะสิพริ้มพราว เธอรักฉันคิดถึงฉันไม่ใช่หรือไง เรื่องแค่นี้คงให้ฉันได้ใช่มั้ย"

เจนิสันพูดออกไปอย่างไม่แคร์อะไร เขากำลังพิสูจน์ใจของผู้หญิงคนนี้ต่างหาก ถ้าเธอยอมแสดงว่าเธอรักเขาจริง แต่ถ้าเธอปฎิเสธเขาคงต้องปล่อยเธอไป  อย่าหาว่าเขาเห็นแก่ตัวเลยถ้าใครคิดจะรักเขาต้องผ่านจุดๆนี้ไปให้ได้ ต้องมีความสุขด้วยกันก่อนเวลาเจอเรื่องเลวร้ายจะได้ผ่านไปด้วยกันได้โดยไม่แคลงใจ

"เอ่อ คือ พราว พราว พราวไม่รู้"

พริ้มพราวส่ายหน้า เธอไม่รู้ไม่เข้าใจ ทำไมเขาต้องมาถามคำถามแบบนี้กับเธอด้วย เขากำลังเล่นตลกอะไรของเขาน่ะ

"ฉันจะนับหนึ่งถึงสามพริ้มพราว ตอบฉันมาตามตรง ถ้าเธอตกลงฉันจะเปิดใจให้เธอสาวน้อย แต่ถ้าเธอจะถอยเราคงต้องจบเพียงเท่านี้"

"คุณนิฟขู่พราวหรือคะ"

ใช่! เขาขู่เธอหวังจะให้ตอบตกลงยังไงล่ะ

"ตอบฉันมาพริ้มพราว หนึ่ง......."

เจนิสันไม่ตอบคำถาม เพียงแต่เริ่มนับหนึ่งเพื่อกดดันสาวน้อยตรงหน้า

"คุณนิฟให้เวลาพราวหน่อยได้มั้ยคะ"

เสียงเล็กเอ่ยอ้อนวอน เธอยังตัดสินใจไม่ได้ อีกทั้งยังสับสนในหลายๆเรื่อง

"สอง............."

"พราว.. พราว..."

หัวสมองเล็กฉุดคิดอย่างหนัก เธอจะตอบไปเช่นไรดีน่ะ

"สะ......."

"ตกลงค่ะ พราวไม่ถอย พราวรักคุณนิฟ"

ตอนนี้เธอคงไม่ต่างจากผู้หญิงบ้าผู้ชายหลงผู้ชาย เพียงเพราะคำว่ารักเธอถึงยอมเขาได้ขนาดนี้

"แน่ใจน่ะ สาวน้อย"

เจนิสันยิ้มกริ่ม สักวันพริ้มพราวจะเข้าใจในคำถามของเขาเอง

"พราวแน่ใจค่ะ"

หญิงสาวตอบอย่างหนักแน่น จากนั้นริมฝีปากร้อนๆของชายหนุ่มก็บดขยี้ริมฝีปากจิ้มลิ่มนั้นอีกครา คราวนี้ชายหนุ่มบรรจงมอบความหอมหวานให้หญิงสาวอย่างทะนุถนอมทำเอาพริ้มพราวเกือบจะสำลักรสจจูบแสนรัญจวนนั่น

" เธอแน่ใจจริงๆใช่มั้ย ว่าจะเลือกฉัน"

เจนิสันพูดพร้อมงับหน้าอกที่อยู่ในเดรสตัวนี้อย่างมีอารมณ์ชวนฝัน

"อื้อๆ รู้ว่าสะเสี่ยงอ่าซ์แต่คงต้องขอลองค่ะ"

พริ้มพราวพูดเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่อความเสียวกำลังเข้าครอบงำ จากนั้นเจนิสันก็ผละออกจากร่างนุ่มนิ่มอย่างว่าง่าย ที่ตรงนี้ยังไม่ใช่สนามรบสำหรับเขาและเธอ ชายหนุ่มขยับเสื้อผ้าของสาวน้อยตรงหน้าให้เข้าที่ก่อนที่จะเอ่ยออกมา

"ออกไปกันเถอะ เพื่อนเธอคงถามหาแล้ว"

พูดจบเจนิสันก็เดินจูงมือเล็กเข้าไปหาเพื่อนของพริ้มพราวที่กำลังนั่งรอเจ้าของวันเกิดอยู่

"มาแล้วหรอ ฉันนึกว่าจมน้ำในห้องน้ำตายซะแล้ว อ้าวนั่นใครอ่ะ"

นิชาที่กำลังกึ่งเมาเอ่ยถามเพื่อนสาว

"เออนั่นสิพราว นั่นใครอะ หล่อจัง"

เขมราเมื่อหันไปเห็นผู้ชายใบหน้าหล่อเหลาที่ยืนอยู่กับเพื่อนรักจึงเอ่ยถามพร้อมทำหน้าชวนฝัน

" เอ่อ นี่คุณนิฟ เขาเป็น เป็น......"

"ผมเป็นแฟนพราวครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณเขมราคุณนิชาครับ"

เมื่อเห็นหญิงสาวมัวแต่อ้ำอึ้งเจนิสันจึงตอบเองทั้งหมด แต่คำตอบของชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวเหวอ ไม่คืดว่าเขาจะจู่โจมเธอเร็วปานนี้

"ว้ายยอะไรกันยัยพราว ฉันเพิ่งอวยพรแกไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ทำไมหาได้เร็วจัง หาให้ฉันบ้างดิ เอาหล่อๆแบบนี้น่ะ น่ารักอะ"

นิชาทำท่าดีใจกับเพื่อน ตอนนี้สติเธอเริ่มอยู่ไม่ครบแล้ว เขมราก็เช่นกัน  ส่วนกิตติพัฒน์นั้นเมาจนนอนหลับอยู่ข้างๆตั้งนานแล้ว

"ช่ายๆๆ อยากได้แบบนี้อ่าาา"

เขมราเอ่ยขึ้น ตอนนี้สภาพของทั้งสามคนดูไม่ได้เลยท่าทางจะกลับบ้านไม่ไหวแน่

"จะกลับบ้านเลยไหม"

ร่างหนาที่ยืนใกล้ๆพริ้มพราวเอ่ยถาม

"เดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ "

พริ้มพราวเอ่ย อีกสักพักเธอจะโทรบอกให้พงษ์พัฒน์มารับ  เจนิสันถอดเสื้อแจ๊คเก็ตตัวโตมาคลุมไหล่บางของพริ้มพราว

ลำพังเสื้อนอกที่เธอใส่ปิดไว้มันคลุมไม่หมดหรอก

"มันโป๊! ที่หลังห้ามแต่งแบบนี้อีกเข้าใจนะ งั้นฉันไปก่อนละเด็กน้อยเอาไว้เจอกันใหม่ เตรียมตัวรับมือกับฉันให้ดี ฉันจะมาทวงสัญญาแน่ "

พูดจบชายหนุ่มก็ก้มลงจุ่มพิตบนหน้าผากสวยของพริ้มพราวเพื่อเเสดงความเป็นเจ้าของให้คนหลายคนที่มองได้เห็น  คำพูดของชายหนุ่มทำเอาพริ้มพราวหวั่นใจไม่น้อย เขาคงจะร้อนแรงมากสินะ แล้วคนไม่มีประสบการณ์แบบเธอจะทำให้เขามีความสุขได้ไหม  เมื่อร่างหนาเดินลับสายตาของสาวน้อยไปแล้ว พริ้มพราวจึงกดโทรหาพี่ชายคนหล่อให้มารับ จากนั้นก็วอนขอให้พงษ์พัฒน์ขับรถไปส่งเพื่อนทั้งสามคนเพราะดูจากท่าคงกลับบ้านเองไม่ไหว  พงษ์พัฒน์จึงยอมใจอ่อนพาเพื่อนของน้องสาวไปส่งที่บ้านให้ ตอนนี้เหลือเพียงเขมราคนสุดท้าย

"ดูท่าคนนี้จะเมาหนัก เป็นสาวเป็นแส้กินเหล้าเมาเละซะขนาดนี้ดูได้ที่ไหนล่ะ"

พงษ์พัฒน์เอ่ยในขณะที่อุ้มเขมราเข้าไปไว้ในบ้าน เพราะพริ้มพราวหลับเขาจึงถือวิสาสะอุ้มเพื่อนน้องสาวเข้าไปไว้ในห้องนอน

"อื้อ รำคาน จะนอน"

เขมราเอ่ยขึ้นมาเมื่อรับรู้ถึงการขยับตัวของใครบางคนมันกระทบมาถึงเธอไงล่ะ

"ก็ไม่อยากยุ่งเท่าไหร่หรอก ยัยเด็กขี้เมา"

พงษ์พัฒน์บ่นขมุบขมิบให้สาวน้อยตรงหน้า หน้าตาก็ดีแต่เป็นยัยเมรีขี้เมาสะงั้น จ้างให้ก็ไม่เอาทำเมียหรอกครับ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel