บทที่ 2
“ได, ฮันนี่, ฉันว่าสิ่งที่เธอควรจะทำอย่างยิ่งก็คือพยายามออกไปไหนต่อไหนเสียบ้าง ถึงเวลาที่เธอควรจะเรียนรู้แล้วนี่ว่า ชีวิตของคนเรามันยังมีอะไรที่มากกว่าการแต่งงาน แล้วก็มีลูกนะ”
เสียงหัวเราะลึก ๆ ดังแผ่วออกมาจากลำคอ
“แหม..เธอจ๋า เธอพูดยังกับว่า แค่ฉันดีดนิ้วเปาะเดียวใครต่อใครที่คลั่งไคล้ไหลหลง จะต้องมายืนรออยู่ตรงหน้าประตูอย่างนั้นแหละ เธอรู้ไหมจ๊ะ ว่าทำไมคืนปีใหม่ฉันต้องนั่งอยู่คนเดียวในบ้าน....? ก็เพราะไม่มีใครสักคนมาชวนฉันออกไปเที่ยว... ทุกคนเขาก็ต่างคิดกันว่าต้องมีใครมาเชิญฉันไปไหนแล้วทั้งนั้น ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลายในโลกนี้ต่างคนต่างก็เดาเอาว่าผู้หญิงสวย ๆ อย่างพวกเราจะต้องมีคนคอยมาเอาอกเอาใจ พาไปไหนต่อกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่อยากมาเข้าแถวด้วย แล้วเป็นยังไง... จำไว้เถอะจ้ะ.. ผู้หญิงที่มีหน้าที่แต่งตัวสวย ๆ งาม ๆ อย่างเราน่ะ ไม่มีใครเขามาสนใจเป็นเรื่องเป็นราวหรอก อย่างจะสนใจก็แค่ที่ว่า ได้ควงกับผู้หญิงสวย ๆ ไว้ถ่ายรูปเล่นโก้ ๆ เท่านั้นละ แม่คุณ”
“ลอร์ด.. ตายจริง ฉันไม่ยักรู้นะว่า เธอขมขื่นกับไอ้อาชีพนี้เต็มประดา” วาเนสสามองเพื่อนสาวอย่างแปลกใจ “ฉันว่า เธอนี่คงผิดหวังเอามาก ๆ มาแล้วนะนี่”
“เฮ้อ....มันก็นานแล้วละ” ไดอาน่าตอบขรึม ๆ ความหลังในครั้ง กระนั้น ยังจำหลักอยู่ในใจ เจ็บช้ำอย่างเหลือแสนตอนที่ได้พบว่า ความจริงแล้ว เธอเป็นเพียงผู้หญิงสวย ๆ คนหนึ่ง สำหรับผู้ชายคนที่พันผูกเธอไว้อย่างลึกซึ้งเท่านั้น
มันก็จริงอยู่หรอก สำหรับความเจ็บช้ำในตอนนั้น แต่เมื่อมาถึงตอนนี้มันก็ไม่แปลกอะไรแล้ว เพราะดูเหมือนมันจะไม่ได้สร้าง ความขมขื่นอย่างจริงจังถึงขนาดจะตัดรอนใครไปเสียทั้งหมด แม้ว่าในตอนแรก ๆ มันจะมีข่าวว่าจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน มันเป็นแต่เพียงเครื่องย้ำยืนยันความมั่นใจว่า เธอจะตกลงปลงใจแต่เฉพาะกับบุคคลที่เหมาะสมเท่านั้น แต่มิได้กะเกณฑ์ลงไปในคุณสมบัติพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น ในวัย 24 ปี ไดอาน่าเริ่มสงสัยว่าบุรุษผู้ “เหมาะสม” คนนั้นจะปรากฏโฉมให้เห็นหรือ เธอซ่อนคำถามนั้นไว้ในใจ พยายามตั้งเข็มไว้ให้มั่น ซ่อนเร้นไว้ภายใต้หน้ากากที่เผยให้โลกภายนอกได้เห็น
“โอ....ฮันนี่....เธอแต่งชุดนี้แล้วสวยจังเลย” วาเนสสาอุทานอย่างชื่นชม ขณะที่ไดอาน่ารูดซิปเสื้อให้เข้าที่หมุนตัวอยู่เบื้องหน้ากระจกที่สะท้อนภาพเต็มตัว
จั๊มพ์สูทชุดนั้น ตัดเย็บด้วยผ้ายืดสีขาว ซึ่งแนบเนื้อในทุกส่วนสัด มีเพียงขอบปลายขาทั้งสองข้างเท่านั้นที่จีบรูดพ้นจากช่วงเข่าขึ้นมาจนถึงตะโพกที่ผายผึ่ง และช่วงเอวที่กลมมนนั้นแนบสนิทกับเรือนร่างขึ้นไป จนถึงเนินทรวง พันผูกตรงช่วงลำคอด้วยสายคาดเล็ก ๆ และเปลือยหลัง ความงามของเสื้อชุดนี้อยู่ตรงลวดลายที่ปักเป็นรูปนกด้วยสีฟ้าอมเขียว ขึ้นมาทางด้านหนึ่งของตัวเสื้อ ซึ่งเป็นสีเดียวกับดวงตาของไดอาน่าและสีขาวของเนื้อผ้านั้นเข้ากันได้ดีกับสีผมของเธอ
“เธอว่ามันโป๊ไปไหมนี่ ?” ไดอาน่าหันไปถามเพื่อน ดึงอกเสื้อที่คว้านเป็นรูปตัววีไว้เพื่อมิให้เปิดเผยร่องเนินทรวงมากนัก
“อ๋อ....โป๊แน่” วาเนสสาหัวเราะออกมา “แต่แบบนี้มันก็ต้องโป๊อยู่แล้วนี่”
นาทีนั้นเอง ประตูรถเทรลเลอร์ก็เปิดออก สตรีในวัยสูงอายุกว่ามีผมสีน้ำตาลปนแดง เดินเข้ามา เธอผู้นี้อยู่ในแพนทสูท แบบเทย์เลอร์ตัดเย็บด้วยผ้าเนื้อหยาบเป็นลายนิ้วทาง ๆ สวมเสื้อแจ๊กเก็ตค่อนข้างหนา สายโซ่ทองคล้องแว่นห้อยอยู่ตรงคอ สีหน้าท่าทางบอกความเคร่งขรึมจริงจัง
“สวย” เธอพูดห้วนๆ มองไดอาน่าจนทั่วร่าง “เกือบเรียบร้อยแล้วสินะ เอ้า....นี่....พวกเครื่องประดับสำหรับใช้กับเสื้อชุดนี้”
ไดอาน่าสวมสร้อยข้อมือ ซึ่งเป็นสายสร้อยเงินประดับพลอยขึ้นการะเวก และต่างหูที่เข้าชุดกันทันทีออกจะรำคาญในสายตาของนายจ้างที่จ้องมองราวจะให้ทะลุปรุโปร่งอยู่ แม้จะเป็นนางแบบมาถึง 6 ปีแล้ว แต่ทว่าสายตาแบบนี้ของคอนนี่ เดเวอโรนน์ ก็ทำให้เธออึดอัดทุกครั้ง เพียงแต่ไดอาน่ามิได้แสดงความรำคาญออกมานอกหน้าเท่านั้น
“เธออ้วนขึ้นหรือเปล่านี่ ?” คอนนี่ถามเสียงเครียด
“ไม่เลยค่ะ” ไดอาน่าตอบด้วยเสียงสงบ รูปร่างของเธอไม่เปลี่ยนมากว่า 3 ปีแล้ว ขอบคุณสำหรับการพากเพียรระมัดระวังในเรื่องอาหาร
“ถ้าอย่างนั้นช่างก็คงวัดตัวเธอผิดไปบ้าง” ดวงตาที่คมปลาบของคอนนี่ กวาดลงมาจนถึงเนินทรวงที่ลอยออกมานอกคอเสื้อ “เรากำลังพยายามขายเสื้อไม่ไช่เนื้อตัวของพวกเธอ แล้วนี่ใส่บราเซียร์ไว้หรือเปล่า ?”
“ใส่ค่ะ” ไดอาน่า จับตาให้มั่นอยู่ กับต่างหูข้างสุดท้ายที่กำลังหมุนเกลียวให้กระชับ รู้แต่เพียงว่าสีชมพูเรื่อที่เพิ่มขึ้นบนใบหน้าขณะนี้มิใช่จากชาดทาแก้ม
“ถอดออกเสีย จะช่วยให้หน้าอกแฟบลงหน่อย” หลังจากที่ออกคำสั่งแล้ว คอนนี่ก็หมุนตัวเดินกลับไปยังประตู “อีก 10 นาที ริคเขาจะถ่ายรูปเธอได้แล้ว” พูดจบเธอก็ลงจากรถไป
“อีขยะเอ๊ย” วาเนสสาย่นจมูก ใส่ประตูรถอย่างหยัน ๆ “อียายนี่แกไม่ยักคิดนะว่าถ้าเธอไม่ใส่บรามันจะยิ่งโป๊กว่านี้อีกตั้งหลายเท่า”
“อ้าว....ก็แล้วเธอไม่คิดบ้างหรือว่า มันถูกแล้วที่นางแบบอย่างเราจะต้องทำตัวให้มันเซ็กซี่เข้าไว้ เพราะฉะนั้นช่างเขาก็ต้องตัดเสื้อผ้าให้ใส่แล้วมันดูโป๊น่ะสิจะได้ไปกันได้” ไดอาน่าหัวเราะ
ไดอาน่ายอมรับว่าการที่ไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างในนั้นมันทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนเดินเปลือยร่าง และออกจะไม่ใคร่สบายใจนัก วาเนสสาอดหัวเราะกับความเป็นคนหัวโบราณของเธอไม่ได้ กระนั้น.....หลังจากอีกครู่ต่อมาเมื่อไดอาน่าก้าวลงจากประตูรถเทรลเลอร์นั้น เธอก็อดคิดไม่ได้ว่า ดูเหมือนสายตาทุกคู่จะหันมามองเธอเป็นตาเดียวพยายามบังคับใจตัวเองทำเป็นไม่แยแส แต่ทว่าช่วงก้าวของเธอก็ดูจะรีบร้อนอย่างไม่รู้ตัว ราวกับกำลังจะวิ่งหนีสายตาที่มองหาเหยื่อเหล่านั้น
อากาศภายนอกเย็นจัดจนสะท้าน น่าจะมีเสวตเตอร์สักตัวเพื่อช่วยให้อบอุ่นขึ้น และอากาศที่ยะเยือกนี้ทำให้พวกสัตว์ดูจะร่าเริงขึ้น ม้าแต่ละตัวต่างผกหน้าโผนหลังกัดเหล็กในปากส่งเสียงร้องคำราม เป่าลมหายใจ เป็นหมอกควันอยู่ในอากาศ เมื่อเดินมาได้ครึ่งทาง ไดอาน่าก็พบเข้ากับสเตลล่าที่กำลังจะเดินกลับไปรถ
“เป็นไงบ้างล่ะ?” ไดอาน่าถามสเตลล่า ที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า และกำลังหันไปยิ้มรับเสียงผิวปากหวือหวาจากพวกคาวบอย
“วิเศษที่สุด” สเตลล่าตอบ ชำเลืองปราดไปรอบๆอย่างรวดเร็ว “รู้สึกว่าคอนนี่ชักจะหงุดหงิด เพราะพวกนั้นมากลุ้มรุมเรามากเกินไป แต่เชื่อเถอะน่า แค่สายตาก็อุ่นแล้ว”
“เฮ้....คนสวย คืนนี้จะทำอะไรจ๊ะ?” คาวบอยคนหนึ่งเดินม้าเข้ามาใกล้ จ้องมองไดอาน่าด้วยดวงตาเบิกโพลง
“ต้องนั่งเฝ้าแม่ที่กำลังป่วยหนักน่ะสิคะ” เธอตอบอย่างคล่องแคล่ว “ไว้โอกาสหน้าก็แล้วกันนะ”
ร่างผึ่งบนหลังม้านั้น ดูก็รู้ว่าไม่ได้เชื่อในคำพูดของเธอเลยจนนิด แต่เขาก็แตะขอบหมวกกระตุ้นม้าให้เดินจากไป ไดอาน่ามองตามร่างเขาไปอย่างไม่มีความหมาย ก่อนที่จะหันกลับมาพบดวงตาที่หลิ่วอย่างรู้ทันของสเตลล่า
“ตอนนี้เข้าใจที่ฉันพูดหรือยังล่ะ ?” สเตลล่ายิ้ม และไดอาน่าก็เลิกคิ้ว พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนที่จะมองไปทางผู้หญิงผมสีน้ำตาลปนแดงที่กำลังเดินเข้ามาใกล้
“ฉันไปก่อนดีกว่า คอนนี่กำลังเดินมาตามแล้ว” ไดอาน่าว่า
คอนนี่ เดอเวอโรนน์ รีบพาไดอาน่าเดินอย่างรีบรุดตรงไปยังช่างภาพที่ชื่อริค ซึ่งคอยอยู่ก่อนแล้วหลังจากที่ถ่ายไปได้เพียง 2-3 ภาพ หนุ่มน้อยช่างภาพก็ลดกล้องลง ส่ายศีรษะอย่างไม่พอใจ ซึ่งทำให้คอนนี่ต้องวิ่งเข้าไปถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“เสื้อชุดสีขาวมันต้องใช้แบ๊คกราวน์ที่ดีกว่านี้” ริคมองไปรอบ ๆ ตัวเพื่อหาสถานที่ที่เหมาะสม “มันต้องเป็นสีเข้ม ๆ มันถึงจะดูเด่นขึ้น”
ไดอาน่าเดินเข้าไปบ้าง สะท้านอยู่ในเสื้อผ้าเนื้อบาง ๆ นั้น.....สงบเสงี่ยม ดูจะเป็นคำที่บรรดานางแบบทั้งหลายจำเป็นจะต้องใช้โดยเฉพาะในช่วงขณะเช่นนี้ เธอพยายาม จำกัดเขต สายตา ให้อยู่เฉพาะใบหน้าของริคกับคอนนี่เท่านั้น ไม่ใส่ใจกับกลุ่มคาวบอยที่นั่งกันอยู่บนรั้วไม้รอบ ๆ สนามโรดิโอ เพราะรู้ว่าตัวเองคือเป้าหมายสำคัญแห่งเสียงหัวเราะ และเสียงที่พวกเขากระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กัน และยิ่งแต่งตัวเช่นนี้ ยิ่งต้องทำใจให้มั่นคงเข้าไว้
“เอาอย่างนี้ดีกว่า คอนนี่ เราต้องหาที่อื่นที่มั่นเหมาะกว่าโรงเลี้ยงสัตว์อย่างนี้”