บท
ตั้งค่า

ตอน 6

“ผมต้องขอโทษนะที่ซีรบกวน ซีเข้ากับคนง่ายเกินไป บางทีผมยังกลัวซีโดนขโมย”

“ไม่หรอกค่ะ ไม่เป็นการรบกวนอะไรเลย อีกอย่างซีไม่ได้ชอบใครพร่ำเพรื่อ ซีเลือกชอบเป็นค่ะ”

“แสดงว่าซีเลือกชอบ” อย่างที่เขากำลังเลือกชอบนางฟ้าคนนี้ น้ำเสียงของเธอน่ารัก รูปร่างบอบบางน่าค้นหา อังเดรไม่เคยคุยกับคนรอบกายด้วยวาจาหวานหูลื่นละมุนขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้เขาปรับสีหน้าสีตาให้ดูอ่อนโยนอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่แสร้งเส และนั่นเจ้าตัวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำได้แสดงสีหน้าแบบนั้นกับเธอ รู้เพียงใจแกร่งอ่อนไหวอยากจะก้าวขึ้นรถไปพร้อมกับหญิงสาวด้วยซ้ำ

“ไม่ทราบสิคะ” นิชายกมือจับเส้นผมทัดหูก้มหน้าเขินอาย ดวงหน้าร้อนผ่าวราวมีไฟสุม “ฉันกลับนะคะ ตัวเปียกเริ่มหนาวแล้ว”

“อ้อ...เชิญ” อังเดรผายมือให้หญิงสาวเพื่อส่งเธอขึ้นรถ หากแต่หัวใจไม่อยากให้เธอกลับ หากเป็นไปได้ผู้ชายอย่างเขาอยากหยุดเวลาที่มีเพียงเขากับเธอยืนอยู่กันสองคน จากนั้นเขาจะทำความรู้จักกันเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าข้ามวันข้ามคืนเลยเชียว

รถเต่าของนิชาแล่นสู่ถนนทอดยาวขนานไปกับชายหาด เผลอยิ้มอ่อนกับตัวเอง อยู่ในห้องโดยสารรถเต่าสมบัติสวนตัวของบิดา เธอไม่รู้ว่าตัวเองยิ้มค้างอยู่นานแค่ไหน พอรู้ตัวจึงหุบยิ้มฉับ ยิ้มเพราะสุนัขหรือเจ้าของสุนัขกันแน่ เรื่องหนักอึ้งในสมองค่อยผ่อนคลายลงหน่อย เพราะเจ้าสองขาน่ารักขี้อ้อนตัวนั้นเลยเชียว

นิชาเดินขึ้นห้องนอน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินกลับลงมารับประทานอาหารกับบิดา พรุ่งนี้ตั้งใจจะไปเยี่ยมพี่สาวอาศัยอยู่ในตลาดไม่ห่างจากบ้านเดิมนี้เท่าไร คืนนี้มีเรื่องปรึกษางานกับบิดา หนีไม่พ้นงานโรงแรม เธอต้องรีบจัดการสภาพย่ำแย่ให้รีบฟื้นตัว

“ว่ายังไงอาเหมย สดใสขึ้นเยอะแล้วนี่”

“เหมยคิดว่า จะรีบทำงานต่อจากเตี่ยให้เร็วที่สุด”

“จริงหรืออาเหมย”

“จริงสิเตี่ย เหมยจะลองใช้ความรู้ที่ได้ไปเรียนมา พัฒนาโรงแรมของเรา เชื่อว่าต้องระดมทุน รีโนเวทโรงแรมให้ดูดีมีสไตล์ ซึ่งมันต้องใช้โรงแรมเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน”

“มันเสี่ยงอยู่มากนะอาเหมย”

“เสี่ยงยังไงเราก็ต้องทำค่ะเตี่ย ไม่อย่างนั้นเราจะเอาเงินทุนที่ไหน ถ้าหานักลงทุนมาร่วมลงทุน นักลงทุนชาวต่างชาติพวกนั้น เชื่อว่าคงรื้อรอยตะวันกลายเป็นซาก เพื่อสร้างอาคารอิฐแทน” นิชามองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งสามารถมองเห็นด้านหลังของโรงแรมเก่าแก่เกือบทรุดโทรม

“ลื้อวางแผนไว้ยังไงบ้าง”

“เหมยจะเพิ่มบริการหลายๆ อย่าง ที่ทางเราไม่มีเข้าไป ถ้าทำให้เหมือนโรงแรมใหญ่ๆ คงทำไม่ได้ แต่ถ้าบริการอาหารเช้าน่าจะพอได้”

“เราไม่มีนะแบบนั้น มันสิ้นเปลือง ค่าห้องก็ราคาถูก ยังจะมีอาหารเช้าให้แขก คงรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว”

“อย่าห่วงเลยเตี่ย เราจะเพิ่มค่าห้องเป็นค่าอาหารเช้าเข้าไปเล็กน้อย ไม่มากอะไร จัดอาหารเช้าง่ายๆ ให้กับแขก เช่นกาแฟ ข้าวต้ม หรือโจ๊ก เครื่องดื่มเบาๆ จากนั้นเพิ่มบริการรถรับส่ง ถ้าแขกต้องการเดินทางไปสนามบิน สถานีขนส่งแบบนี้น่ะเตี่ย”

“ก็ไม่เลว แต่สิ่งที่ลื้อว่ามา มันยุ่งยากเพิ่มค่าใช้จ่าย อีกอย่างเราไม่มีรถไว้บริการนะสิ” โรงแรมเก่าๆ โบราณแค่พักก็ดีแล้ว จะหาบริการเหล่านั้นเพิ่มมา จะเป็นการเพิ่มค่าจ่าย ไหนต้องเพิ่มพนักงานเข้าไปอีก ที่มีอยู่ก็แค่แม่บ้าน ตนก็ต้อนรับแขกเอง ไม่งั้นก็ให้แม่บ้านรับแจกที่เคาน์เตอร์อยู่แล้ว

“เหมยจะไปติดต่อสองแถวเล็ก ผูกขาดกับทางเรา ไม่จำเป็นต้องประจำที่โรงแรม แต่เมื่อเรียกตัวเมื่อไหร่ก็สามารถมาบริการแขกได้ อีกทั้งบริการรถพาเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยการคิดราคาต่างหากเป็นค่าบริการ”

“เราคงต้องใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่” สิ่งที่เจ้าสัวฮงเป็นกังวล เงินก้อนสุดท้ายหมดลงไปแล้วจากการส่งนิชาเรียนในปีสุดท้าย

“ก็จากเงินกู้ที่เหมยจะไปติดต่อกับธนาคาร เพื่อขอกู้นี่ล่ะเตี่ย หลายอย่างที่เหมยคิดไว้ส่วนหนึ่งนำมาจากการบริการของโฮมสเต ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ให้แขกมีส่วนร่วมกับการประกอบอาหารเย็น จัดอุปกรณ์และห้องครัวไว้ให้แขก เพื่อจัดเตรียมอาหารเอง มีห้องไว้รองรับเพื่อพวกเขาจะได้รับประทานอาหารแบบง่ายๆ นั่งพื้นวางเบาะรองนั่งอนุรักษ์นิยม” หญิงสาวกล่าวมีความหวัง สำหรับในช่วงแรกเธอคงต้องลุยทุกอย่างเอง เพราะขาดเงินทุน การบูรณะโรงแรมย่อมสำคัญ ครั้นจะปล่อยให้ทรุดโทรมแบบนี้คงไม่เรียกแขกนอกจากพวกหนุ่มสาว วัยรุ่นหนีพ่อแม่มาเล่นจ้ำจี้

“ในห้องพักไม่มีทีวีเพราะเป็นห้องพักราคาถูก เราก็จัดห้องดูทีวีรวม ให้แขกได้เข้ามาใช้บริการคล้ายกับเขาพักอยู่ในบ้านส่วนตัว จัดวางหนังสือต่างๆ ให้อ่าน มีของเล่นเด็ก กิจกรรมสันทนาการของผู้ใหญ่ หมากรุกอะไรประมาณนี้ค่ะเตี่ย” หญิงสาวเสนอความคิดที่เป็นนามธรรม หากจะเกิดเป็นรูปธรรมคงต้องมีเงินทุนในมือซะก่อน สิ่งนั้นคือสิ่งที่นิชาหนักใจที่สุด

“ลื้อลองไปปรึกษาพี่ๆ ดูก่อนมั้ยอาเหมย เผื่อจะช่วยเสนอความคิดได้บ้าง”

“ก็ดีนะเตี่ย”

“ว่าแต่วันนี้ลื้อไปขับรถเล่นถึงไหนล่ะ กลับมาถึงได้ไฟแรงขนาดนี้”

“ไปเดินเล่นที่ชายหาดมาค่ะเตี่ย”

“ไม่ว่าลื้อจะทำอะไรนะอาเหมย เตี่ยสนับสนุนเต็มที่ แต่ขออย่าขายโรงแรมรอยตะวันเป็นพอ มรดกบรรพบุรุษพอมาถึงรุ่นเราเอามาขายกิน อั๊วคงไม่มีหน้าไปเจอบรรพบุรุษได้” เจ้าสัวฮงผู้ตกต่ำสีหน้าเศร้าหมอง ตั้งแต่ขาดภรรยาเขาก็อดทนประคับประคองกิจการและเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสามมาอย่างอดทน ภูเก็ตเจริญรุดหน้าเร็วมาก จนคนแก่ยุคเก่าตามเส้นทางเศรษฐกิจของโลกไม่ทัน เมื่อทุกอย่างเริ่มจากคำว่าเงิน เจ้าสัวฮงจึงจนมุมเพราะสภาพรอยตะวันไม่อาจต่อกรกับใครได้ ค่าห้องพักเพียงไม่กี่ร้อยต่อคืน สภาพห้องไม่ดึงดูดให้เข้ามาพัก เพราะสภาพทรุดโทรมไม่จรรโลงเหมือนโรงแรมหรือรีสอร์ตทันสมัย

ความหวังทั้งหมดถูกหอบมาวางบนบ่านิชา เพื่อส่งต่อความรับผิดชอบให้กับหญิงสาว คืนนี้หลังมื้ออาหารนิชากลับขึ้นห้องพร้อมดึงคอมพิวเตอร์ของตัวเองออกมาเปิดโปรแกรมทำงาน ลงมือเขียนแผนการทุกอย่างโดยละเอียดเพื่อนำเสนอยื่นกู้ธนาคาร เธอหวังว่าโครงการของเธอจะสามารถให้ธนาคารอนุมัติเงินกู้ จากนั้นรอยตะวันจะได้ก้าวเข้าสู่รูปโฉมใหม่ๆ

มาเฟียตัวใหญ่นั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ในห้องนั่งเล่น ในมือถือแก้วบรั่นดีคลึงไปมา บนจอถ่ายทอดสดฟุตบอลนัดสำคัญ ข้างกายเจ้าซีนอนหมอบอยู่ใกล้ๆ โซฟาปรับนอน สายตาชายหนุ่มจ้องมองหน้าจอโทรทัศน์ก็จริง หากแต่ในความคิดไม่ได้ใสใจกับเกมถ่ายทอดสด รอยยิ้มค่อนข้างหายากบนดวงหน้าหล่อคมสัน กลับระบายยิ้มอ่อนเบา อย่างแฝงความสุขและเลศนัยบางอย่างผุดผาย

“บอลสนุกมั้ยครับ” คิริลเดินเข้ามาหยุดในห้องนั่งเล่น เขาหย่อนก้นลงนั่งโซฟาตัวใกล้ๆ ความสนิทร่วมงานกันมานาน ทำให้เขาไม่ต้องวางตัวเข้มเหมือนอย่างบริวารคนอื่นรอบๆ ตัวอังเดร

“บะ...บอลไหน” คนถูกถามหันมองจอโทรทัศน์ ที่ยังมีเกมการแข่งขันอย่างเมามัน ไม่รู้ทำประตูกันไปกี่ประตู แต่ในหัวสมองของเขาไม่มีเรื่องฟุตบอลเลย

“ก็บอลที่เจ้านายกำลังดูอยู่นั่นไง คู่บิ๊กแมทด้วยนี่” บอดี้การ์ดคนสนิทที่เล่นชวนหัวกันมาตั้งแต่เด็ก ชำเลืองมองทีวี เห็นว่าเฮกันไปหลายลูก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel