ตอนที่ 3 แม่ลูกหมีการละคร
ตอนที่ 3 แม่ลูกหมีการละคร
แต่เดี๋ยวก่อนนะ ตอนนี้ไม่ใช่ตัวคนเดียวนี่นา ยังท้องอีกด้วย สงสัยต้องคิดอ่านให้ดีแล้ว คงต้องหาบ้านหลังเล็ก ๆ สักหลัง ทำของขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อน ความทรงจำของร่างนี้ก็ไม่มี แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้องกัน
ผู้ชายอะไรไม่มีความรับผิดชอบ ไข่แล้วก็ทิ้ง อย่าให้เจอนะ แม่จะแพร่งกบาลให้แตกเลย พูดแล้วก็โมโห กินมันเผาดีกว่า พรุ่งนี้ก็เช้าแล้วจะได้หาที่พักใหม่ ที่นี่ไม่เหมาะจะอยู่จริง ๆ มีแต่กองฟาง คันคะเยอไปหมด
ตอนเด็ก ๆ ว่าลำบากแล้ว ย้อนกลับมาอดีตแบบนี้ลำบากกว่า ไฟฟ้าไม่มี มีแค่เทียนกับไม้ ต่อไปนี้จะทำอะไรก็ห้ามใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยเหมือนเดิมอีก
ชีวิตหนอชีวิต ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้นะ เนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้ใครกันเป็นคนเขียน หรือว่า...ตัวเดินเรื่องก็คือผู้หญิงคนนี้หรือไง
ภารกิจแรกในวันพรุ่งนี้จะต้องขายป้ายหยกอันนี้ให้ได้
ภารกิจที่สอง หาบ้านเล็ก ๆ สักหลัง เอาทำเลดี ๆ เหมาะแก่การค้าขาย
ภารกิจที่สาม ต้องหาสามีหล่อ ๆ รวย ๆ ให้ได้ อยากรู้นักว่าเหล่าผู้ชายที่นี่จะรูปงามไหม
ขณะที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ ข้างนอกก็ได้ยินเสียงเอะอะดังขึ้นมาทีละนิด ทีละนิด หญิงชราลืมตาโพลงขึ้นมา แล้วกำชับให้นางดับกองไฟนี้เสีย
จากนั้นจึงลากมือของนางไปซ่อนอยู่ด้านหลังของเทวรูป “อย่าส่งเสียงดังนะ”
“มีอะไรหรือท่านยาย” แม่ลูกหมีสงสัยเหลือเกิน มีคนมานี่สิดีแล้ว จะได้ขอความช่วยเหลือได้
“ข้างนอกมีคนร้ายนะสิ” หญิงชราส่ายหน้าเบา ๆ อยากตีแม่นางผู้นี้เสียเหลือเกิน
“แล้วมาจับใครกัน” แม่ลูกหมีก็ยังสงสัยอีก คนร้ายมาทำไม มาจับใครกัน คงไม่ใช่...
“ยังจะมีหน้ามาถามอีก ก็เจ้าอย่างไรเล่า” หญิงชราขึ้นเสียงเขียว มองแม่นางน้อยด้วยสายตาดุดัน
“ข้าเนี่ยนะ ข้าไปทำอะไรถึงได้ถูกปองร้ายเล่า” ยิ่งคิดก็ยิ่งงง เจ้าของร่างนี้ไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจอย่างนั้นหรือไรกันนะ
“จะรู้หรือไร เจ้าแค่บอกให้ข้าช่วยพาหนี บอกว่ามีคนปองร้าย” ระหว่างทาง สตรีนางนี้ไหว้วานให้ช่วยนำทางเพียงเท่านั้น บอกว่ามีคนคิดปองร้ายนางและเด็กในครรภ์
จึงจำเป็นต้องหนีมา แล้วกล่าวว่าต้องเดินทางไปยังเมืองเซี่ยหยวน ด้วยความบังเอิญจะไปที่นั่นอยู่แล้ว จึงรับปากว่าจะส่งนางถึงที่ หญิงชราแจ้งเพียงเท่านี้
“เดี๋ยวก่อนท่านยาย ถ้าคนพวกนั้นมาตามหาข้าจริง ๆ ละก็ พวกเราก็คงจะถูกจับแน่ ๆ รอเดี๋ยว ข้าขอแปลงโฉมก่อน” ว่าแล้วก็วิ่งออกไป ใช้มือกอบกองขี้เถ้าดำ ๆ มาทาบนใบหน้า พร้อมดึงผมให้ฟู ๆ ยุ่งเหยิงเข้าไว้ ถอดรองเท้าออกข้างหนึ่ง แล้วเก็บป้ายหยกราคาแพงเข้าไว้ในเอี๊ยม จับไปจับมาซาลาเปาคู่นี้ใหญ่พอตัวนี่นา
คนร้ายหลายคนเดินเข้ามายังวัดร้าง เห็นสตรีนางหนึ่งนั่งอยู่บนกองฟาง โยกตัวไปมา พวกเขาเหล่านั้น จ้องเป็นสายตาเดียวกัน ไม่ทันไร นางก็เงยหน้าขึ้นมา ส่งเสียงยืดยานเบา ๆ ว่า “พวกเจ้า มาหาใครกัน อยากมาอยู่เป็นเพื่อนข้าไหม”
ว่าแล้วก็ลุกขึ้น สองแขนยื่นมาข้างหน้า เอียงคอให้ดูน่ากลัวสุดๆ ถลึงตาใส่อีกแสร้งเป็นผีหลอกคนพวกนี้ให้ได้ นางค่อย ๆ เดินอย่างช้า ๆ ทำเสียงยืดยาน ขึ้นอีกว่า “ข้ารอพวกเจ้าอยู่นานแล้ว มาอยู่เป็นเพื่อนข้าหน่อย”
ไม่ทันไรพวกคนร้ายก็รีบวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว เพราะได้ยินเสียงเย็นยะเยือกอย่างนี้ ผู้ใดไม่กลัวกันเล่า จึงพากันวิ่งหนีคนละทิศคนละทาง
เมื่อคนพวกนี้หนีไปแล้ว แม่ลูกหมีก็หัวเราะขึ้นมา “รู้จักแม่ลูกหมีการละครน้อยไปแล้ว ฮ่า ๆ ๆ”