ตอนที่4 เขาดีกลับเรามาก!
EP 4
..“ก้อย”..
รถของคุณเขื่อนได้ขับพาเรามาจอดที่แห่งหนึ่ง ที่นี่น่าจะเป็นที่ทำงานนะ แต่คุณเขื่อนเขาขับเข้าด้านหลังมันเป็นตึกน่าจะเป็นห้องพักให้กับพนักงาน แล้วรถจอดรถตู้ข้างหน้าที่พวกพี่ปิ่นเขาได้นั่ง ก็พากันลงรถกันหมดแล้วตอนนี้เราก็เก็บขยะพวกซองขนมนู่นนี่นั่นในรถของคุณเขื่อนเตรียมจะลง
“ลูกแก้วครับหิวข้าวยัง”คุณเขื่อนหันไปถามเด็กน้อยที่นั่งอยู่ด้านหลังเธอกำลังสนใจและกำลังเล่นของเล่นของเธอที่คุณเขื่อนซื้อให้จากเซเว่นพอคุณเขื่อนถามเธอเงยหน้ามาด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
“หิวจ๊ะ”
“งั้นลงรถกันเร็วลุงก็หิวแล้ว”
“หนูลงไม่ได้จ๊ะ”ลูกเเก้วเธอหันมองที่ประตูของรถเธอคงไม่รู้ว่าจะเปิดอย่างไรนั่นแหละ
“ฮ่าๆโธ่เอ้ยเดี๋ยวลุงเปิดเอง”พอลงรถมาคุณเขื่อนจับจูงมือลูกแก้วลงมาแล้วเดินมาที่รถตู้ของทุกคนที่กำลังยืนรอเจ้านายอยู่ เราก็รู้สึกแปลกๆนะที่เป็นลูกน้องแต่ได้มาอยู่กับเจ้า นายคนอื่นคงจะมองเราไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่หรอก
“ที่นี่จะเป็นห้องพักของพวกคุณ 1 ห้องต่อ 1 ครอบครัวหรือต่อ 1 คนถ้าใครมีสามีหรือภรรยามา ก็อยู่ 1 ห้องจะไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นตึกที่นี่เป็นของผมเองทุกคนเดินไปด้านในแล้วเลี้ยวซ้าย จะมีห้องรับประทานอาหารอยู่ซึ่งผมได้เตรียมให้แม่บ้านทำกับข้าวรอพวกคุณแล้วคุณมาอยู่ที่นี่จะได้รับอาหารฟรี 3 มื้อทุกอย่างคือฟรีหมดแต่ผมขอให้ทุกคนซื่อสัตย์และตั้งใจทำงานให้กับผมทุกคนโอเคใช่ไหม
“โอเคค่ะครับ”มันเป็นเสียงรับปากจากพวกพี่ๆ
“ครับอย่างนั้นก็ตามผมเข้ามาเลยเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว ทานข้าวแล้วแยกย้ายกันขึ้นไปพักผ่อนพรุ่งนี้ค่อยเริ่มทำงานตอนกลางคืนวันนี้คงไม่ทันแล้วแหละ”
“ไปครับลูกแก้วทานข้าวกันดีกว่า”แล้วคุณเขื่อนก็จูงมือลูกแก้วเดินนำพวกพี่ๆไปด้านในคือนำไปห้องพี่กินข้าวนั่นแหละเราก็เรียกไม่ถูกเหมือนกัน
“จ๊ะ”พอลูกแก้วเธอเจอคุณเขื่อนเธอก็ลืมเรื่องของพี่สาวของเธอไปชั่วคราวดีนะที่มีคุณเขื่อนเข้ามาไม่งั้นเธอยังคงจำแล้วก็ยังคงร้องไห้อยู่เหมือนเดิมขอให้เธอลืมพวกเขา
“ลูกแก้วเธอดูมีความสุขแล้วนะก้อย”พี่ปิ่นเดินมาหาเราและใช้มือด้านซ้ายของเขาจับมาที่ไหล่ของเราเรายิ้มและพยักหน้าให้กับพี่ปิ่น
“ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะพี่ปิ่นขอให้ลูกแก้วลืมพวกคุณๆเขา”
“แล้วก้อยคิดหรอว่าเขาจะไม่มาตามหาก้อยกับลูก คนเป็นพ่อทั้งคนแล้วลูกสาวน่ารักแบบนี้ด้วยพี่เชื่อว่าคุณภาทรเขาต้องมาตามหาก้อยแน่นอน”
“คุณภาทรเขารักภรรยาของเขา เขาคงไม่มาตามหาก้อยกับลูกหรอกอีกอย่างเขาจะบอกกับภรรยาเขาว่ายังไงจะบอกกับลูกสาวของเขาทั้งสองคนว่ายังไงคะไม่มีใครรับได้หรอกครับพี่ปิ่น”
“แล้วถ้าเขาตามมาเจอก้อยละแล้วถ้าเขามาขอลูกไปดูแลก้อยจะทำอย่างไร”เราคิ้วขมวดเข้าหากันทันทีเพราะว่าเขาก็มีสิทธิ์อีกอย่างเขาเซ็นเป็นพ่อของลูกแก้วแล้วด้วย ถ้าเขามาเอาลูกแก้วไปเราจะอยู่อย่างไร
“พี่ปิ่น”เรารู้สึกกังวลแล้วก็กลัวในสิ่งที่พี่ปิ่นพูดถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆเราจะอยู่ยังไงเราจะทำยังไง
“ทางที่ดีพี่ว่าก้อยไปย้ายออกจากทะเบียนบ้านเขาเถอะแล้วเปลี่ยนเอกสารใหม่เปลี่ยนชื่อจริงใหม่นามสกุลใหม่ พี่เชื่อว่าคนมีเงินอย่างพวกเขาตามหาเราไม่ยากแน่นอนแต่ถ้าเราเปลี่ยนได้พี่ว่าเขาก็อาจจะตามหาเราไม่เจอ”
“ตอนนี้เขาคงยังไม่ทันหาหนูหรอกค่ะเอาไว้รอมีเงินก่อนนะ ก้อยยังไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องโรงเรียนของลูกแก้วเลยแล้วที่นี่มีพี่เลี้ยงเหมือนที่นู่นหรือเปล่าพี่ปิ่น”
“มีสิ่พี่ถามเจ๊มาแล้ว”
“แม่ขา”ลูกแก้วเธอวิ่งออกมาหาเรากับพี่ปิ่นเพราะว่า ทุกคนเขาเดินเข้าไปด้านในกันหมดแล้วเรามัวยืนคุยธุระกับพี่ปิ่นอยู่จนลูกสาวของเราวิ่งมาดึงมือเรา
“คุณลุงบอกว่าให้ไปทานข้าวค่ะทั้งสองคนเลย”สายตาหวานๆและคำพูดที่เเจ้วๆของลูกแก้วเธอมาตามเรากับพี่ปิ่นไปทานข้าว
“ถ้าเขาดีต่อเรา ถ้าเขารับเราได้ทุกอย่างก้อยก็ควรเปิดโอกาสให้เขานะ พี่ไม่ได้บอกให้ก้อยขับเขาหรือว่ายุให้ก้อยเอาคนรวยๆหรอกแต่มันมีน้อยที่คนมีครบทุกอย่างจะมาสนใจแม่ลูกติด”พี่ปิ่นพูดกับเราและยิ้มให้เราแล้วเดินเข้าไปด้านใน คุณเขื่อนเขาคงไม่ได้คิดกับเราแบบนั้นทุกคนอาจจะดูว่าคุณเขื่อนชอบเราแต่เปล่าเลยเขาแค่เอ็นดูลูกสาวเรา
“แม่ขาหนูหิว”สาวน้อยที่ยืนเงยหน้ามองเราเพราะเราตัวสูงไงพร้อมกับทำปากมุ่ยบอกว่าตัวเองหิว
“ไปคะลูก”แล้วเธอก็ดึงมือเราเดินมาด้านในห้องทานอาหารของที่นี่นั่นแหละพวกพี่ๆเขาก็นั่งกันเป็นโต๊ะส่วนคุณเขื่อนเขาก็นั่งอีกโต๊ะ มีแม่บ้านคอยตักอาหารให้เราก็เดินไปที่แม่บ้านหยิบจานกับช้อน
“แม่จ๋าคุณลุงเอาข้าวไปให้แม่จ๋าแล้วนะ”ลูกสาวเราจับมือเราเขย่าเพื่อบอกว่าคุณเขื่อนเอาเข้าไปให้เราแล้วไม่ให้เราตักอีก
“ไม่ใช่หรอกลูกคุณลุงเขาเอาไปทานเองเดี๋ยวแม่ตักใหม่แล้วเราไปนั่งกินกับป้าปิ่นกัน”
“ไม่ใช่ค่ะคุณลุงบอกว่าตักไปให้แม่แล้ว และก็เอาไปให้หนูแล้วด้วยนะ”
“ก้อยผมตักข้าวไปให้แล้วไปทานข้าวลูกหิวแล้วเนี่ยไป”จู่ๆคุณเขื่อนจับมือฉันอีกข้างแล้วก็จับมือลูกแก้วอีกข้างดึงไปที่โต๊ะของเขาซึ่งไม่มีใครนั่งมีแค่เขานั่งคนเดียวคือพี่ๆเขาก็มอง บางคนก็ยิ้มบางคนก็เหมือนไม่พอใจ
“คุณเขื่อนคะเดี๋ยวหนูไปนั่งทานกับพวกพี่ๆนะ”
“นั่งนี่แหละนั่งลง”คำพูดที่บอกเราและสายตาที่เหมือนจะดุจึงทำให้เรานั่งลงก็กลัวเขาเหมือนกันเขาเป็นเจ้านายนี่
“คะ”คืออาหารที่โต๊ะมีแต่อาหารดีๆทั้งนั้นมีกุ้งอบวุ้นเส้นมีกุ้งนึ่ง แล้วก็มีพวกหอยแครงนู่นนี่นั่น ไม่มีเพียงแต่ตัวคุณเขื่อนนะพวกพี่ๆก็มีเช่นกันเพราะว่าคุณเขื่อนได้เตรียมอาหารมื้อนี้จะต้อนรับพวกพที่มาทำงาน เราเห็นพี่ปิ่นหันมามองเราคือเราก็มากับพี่ปิ่นไงแล้วพี่ปิ่นก็เหมือนพี่สาวของเราเขาอยู่กับพวกนั้นเขาก็ไม่สนิทเหมือนอยู่กับเรา
“ลูกแพ้อะไรหรือเปล่าแพ้อาหารทะเลเปล่าเดี๋ยวกินเข้าไปแล้วจะแย่”คุณควรหันมองหน้าเราและถามว่าลูกแก้วแพ้อาหารทะเลหรือเปล่าเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะว่าไม่เคยซื้อให้ลูกกิน
“หนูไม่รู้หรอกค่ะเพราะว่าหนูไม่เคยซื้อให้ลูกทานเลยหนูไม่มีเงินซื้ออาหารดีๆแบบนี้หรอกค่ะ”เราพูดกับคุณเขื่อนไปตรงๆก็ชีวิตเราไม่เคยซื้อกุ้งตัวใหญ่ๆกินซื้อหอยแครงซื้ออาหารทะเลแบบนี้ให้ลูกกินเลยนี่แต่ไปอยู่บ้านคุณผู้หญิงเขาก็ตุ๋นไข่ทรงเครื่องหน้ากุ้งให้ลูกแก้วนะ คุณเขื่อนเขาก็มองหน้าเราคือเราพูดตรงไปใช่ไหม
“จุ้งเหมือนบ้านพี่ไหมเลยจ๊ะเเม่จ๋า”นิ้วที่ชี้เข้าหาตัวกุ้งและหันหน้ามาบอกเราว่ากุ้งเหมือนบ้านพี่ไหมในที่สุดลูกสาวของเราก็ยังคงจำพวกเขา และไม่ลืมพี่สาวของเธอ
“ลูกแก้วเคยทานไหมครับ”
“เคยจ้ะ”
“โอเคงั้นลุงเเกะไห้นะ”
“คะ”
“คุณเขื่อนคะถ้าหนูจะขอให้พี่ปิ่นมานั่งทานกับหนูด้วยได้หรือเปล่าเพราะว่าหนูก็มากับพี่ปิ่นแล้วพี่ปิ่นเขาก็ไม่ได้สนิทกับคนที่นั่งอยู่นั่นเหมือนกัน”
“ชวนมาเลยนั่งกินหลายๆคนสนุกจะตายใช่ไหมครับลูกแก้ว”
“จ้ะง่ำๆ”เราเลยลุกแล้วเดินมาที่โต๊ะพี่ปิ่นเขานั่งทานข้าวอยู่คนเดียวก็คืออยู่ทั้งโต๊ะแหละแต่นั่งกินอยู่คนเดียวไม่ได้คุยกับใครพอเราเดินไปหาเขาเขาก็มองหน้าเราแล้วก็ยิ้ม
“พี่ปิ่นคะไปนั่งกับก้อยนะคุณเขื่อนให้มาตาม”เราอ้างคุณเขื่อนไปอย่างนั้นแหละถ้าเราไม่พูดแบบนี้พี่ปิ่นก็คงไม่ไป
“พี่ไม่กล้าหรอกก้อย”
“นะไม่รักน้องหรอคะ”เราหยิบจานข้าวพี่ปิ่นดึงมือพี่ปิ่นมา เขาก็มาเช่นกันแล้วก็มานั่งโต๊ะเดียวกันกับคุณเขื่อน คุณเขื่อนยิ้มให้พี่ปิ่นกับเรา เขาแกะนู่นนี่นั่นให้ลูกแก้วกินแล้วก็แกะให้เรากินอีกต่างหากเราก็กินกันอย่างอร่อยเลยแหละ เพราะว่าเราไม่เคยกินอาหารอร่อยแล้วก็ราคาแพงแบบนี้ด้วยโชคดีจัง