บท
ตั้งค่า

9.โมโห

ตอนที่ 09.โมโห

”สี่สิบบาทจ้ะหนู“

พรึ่บ!

ถุงผักตรงหน้าถูกมือหนาแย่งเอาไปถือท่ามกลางสีหน้าของแม่ค้าในตลาดสดที่อึ้งกังความหล่อเหลาราวกับเทพบุตรของเรย์วาติ เพราะนานๆทีจะมีคนมาดเนี๊ยบแลดูมีชาติตระกูลแบบนี้มาเดินตลาดให้เห็น

”นี่คุณ! เอามานะ!“ เขมนราไม่รอช้าที่จะแวดใส่หน้าเขาทันที เมื่อเห็นว่าใครมาแย่งเธอถือของ

จากที่อารมณ์เริ่มสงบลงแล้ว พอเห็นว่าเป็นใครเธอก็เริ่มเกิดอาการมีน้ำโหขึ้นมาอีกรอบ แต่โชคดีหน่อยที่เหมือนเขาจะเปลี่ยนใส่เสื้อตัวอื่นแล้ว เธอจะได้ไม่ต้องทนเห็นรอยลิปสติกนั่นให้รกหูรกตา

เรย์วาติที่ได้ฉายาว่าเป็นคนด้านได้อายอดมีหรือจะฟัง เขาถือถุงนั้นเอาไว้ในมืออย่างหมายมั่นก่อนจะยื่นแบงค์ห้าสิบไปให้แม่ค้าตรงหน้าอย่างว่องไว เขาแอบแจอดรถไปแถวนี้แล้วเดินตามเธอมา

”นี่ครับ ไม่ต้องทอน“

”โอ้ ขอบคุณจ้ะพ่อหนุ่ม“

เขมนรากรอกตามองบน เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังถูกคุกคามการซื้อของที่ตลาด เธอไม่ต้องการให้เขาทำแบบนี้

“คุณกำลังทำบ้าอะไรของคุณ“

”ช่วยเมียจ่ายตลาดไง คุณจะเสียงดังทำไม?“ ชายหนุ่มทำหน้าไขสือถามเธอกลับ

”ฉันไม่ใช่.....“

”นี่แม่หนู อย่าหาว่าป้ายุ่งเลยนะลูก พูดกับผัวดีๆหน่อยเถอะ ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ แถมดูรักเอ๋งสุดๆ ควรจะพูดเสียงหวานๆใส่กันสิ“ ป้าขายผักที่ยืนฟังอยู่นานอดไม่ได้ที่จะเสนอความคิดเห็น

เขมนราได้ยินแบบนั้นก็เตรียมตัวจะแย้ง แต่เรย์วาติดันรู้ทัน เขาชิงส่งยิ้มหวานไปให้แม่ค้าขายผักก่อนจะตีหน้าเศร้า

“นั่นน่ะสิครับป้า แฟนผมไม่ฟังคำอธิบายอะไรจากผมเลย ไม่รู้ว่าจะโกรธอะไรผมนักหนา”

“!!!” เขมนราถลึงตาใส่เขาที่บังอาจแสดงละครให้คนอื่นเข้าใจเธอผิด

“โถ่ น่าสงสารจังเลยพ่อหนุ่ม นังหนูเอ้ย คนรักกันเรื่องเล็กน้อยก็ให้อภัยกันเถอะ พ่อแง่แม่งอนแบบนี้ระวังจะลูกดกเอาน่า”

“ปะป้าคะ....คือหนู” เขมนราได้ยินคำแซวแบบนั้นก็ชะงักอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก ครั้งจะเถียงกลับไปก็ดูเหมือนจะไม่ทัน

เธอกับเขาไม่ใช่คนรักกันจริงๆสักหน่อย ทำไมจะต้องคิดไปถึงเรื่องมีลูกด้วยล่ะ ผิดกับร่างสูงที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งรู้สึกชอบใจ หัวเราะร่า

“ฮ่าๆ จริงเหรอครับ ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็ยิ่งชอบนะ”

พอได้ยินแบบนั้น เขมนราก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สมควรยืนอยู่ตรงนี้อีกต่อไปเพราะดูเหมือนป้าเขาจะเข้าใจเธอผิดทั้งหมด เมื่อไม่มีจังหวะให้แก้ตัวได้ เขมนราจึงส่งสายตาอาฆาตไปให้เรย์วาติแทนก่อนจะเดินจ้ำอ้าวหนีเขาไปเลือกสินค้าร้านอื่น

เรย์วาติเห็นแบบนั้นก็รีบหุบยิ้มแล้ววิ่งตามไป ตลอดระยะเวลาที่จ่ายตลาด เขาก็ตามคอยวอแวเธอตลอด แรกๆเขมนราก็รู้สึกรำคาญ แต่หลังๆพอเห็นเขาควักตังค์ออกมาเธอจึงปล่อยเลยตามเลย ปล่อยให้เขาจ่ายทุกอย่างไป อยากตามเธอมาดีนัก!

จนกระทั่ง....

“นี่คุณซื้อของไปทำอะไรนักหนา คุณจะทำอาหารไปแจกโรงทานหรือไง”

เมื่อแขนทั้งสองข้างรู้สึกหนักราวกับจะยกถุงของมากมายต่อไปไม่ไหว เรย์วาติจึงได้สติรู้ตัวเอ่ยถาม โชคดีหน่อยที่เขาและเธอเดินมาถึงรถแล้ว

“ฉันจะทำอาหารให้แม่คุณกิน“

ได้ยินแบบนั้นร่างสูงก็เลิ่กคิ้วขึ้นสูง

”แม่ผม? ทำไม...ปกติคุณแม่มีคนทำอาหารให้อยู่แล้ว”

“ฉันรู้ค่ะ แต่วันนี้ฉันจะโชว์ฝีมือมัดใจคุณหญิงวารุณีเอง” เขมนราพูดออกไปด้วยน้ำเสียงหมายมั่น อย่างน้อยๆเธอก็อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในบ้านหลังนั้น ถึงแม้มันจะดูเป็นไปได้ยากก็ตาม

เรย์วาติได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกแปลกใจ เขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะอยากทำอะไรแบบนี้

“มัดใจคุณแม่? คุณอยากมัดใจคุณแม่จริงๆเหรอ”

”ค่ะ แค่ลำพังปวดหัวกับคุณคนเดียวก็พอแล้ว เผื่อแม่คุณจะเห็นใจฉันบ้าง เอาของเก็บใส่รถดีๆสิคะ จะได้กลับ“ เธอพูดใส่เขาก่อนจะหนีขึ้นไปนั่งบนรถทันที ปล่อยให้เจ้าของรถยืนเรียบเรียงคำประชดนั่นอยู่นานกว่าจะเข้าใจ

”นี่คุณหมายความเฟย์! ผมมันน่าปวดหัวตรงไหน“ แม้จะไม่เห็นด้วยกับคำพูดนั้น แต่สุดท้ายเรย์วาติก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เชาทำได้แต่ทำในสิ่งที่หญิงสาวสั่งเท่านั้น

@คฤหาสน์หลังใหญ่

อาหารมื้อค่ำ

“เชิญนั่งค่ะคุณผู้หญิง” แม่นมแย้มเอ่ยบอกก่อนจะจัดการเลื่อนโต๊ะออกให้คุณหญิงวารุณีนั่งหัวโต๊ะเช่นเคย

แม้จะรู้สึกหงุดหงิดสายตาที่เห็นว่าแฟนของลูกชายคนโตยังนั่งหน้าสลอนร่วมโต๊ะอาหารอยู่ด้วย แต่คุณหญิงวารุณีก็เลือกที่จะเมินเฉย ทำเหมือนเขมนราไม่มีตัวตนอยู่ในบ้านหลังนี้ เพราะนางตั้งใจว่าจะต่อต้านผู้หญิงที่เรย์วาติเลือกให้ถึงที่สุด

“ตารอนล่ะแย้ม” นางหันไปถามนมแย้ม ในใจลึกๆรู้สึกเคืองเรย์วาติอยู่ไม่น้อยที่เลือกเด็กที่ไหนมาเป็นแฟนก็ไม่รู้ คนที่นางหาให้ดูดีกว่าตั้งเยอะ

“คุณรอนบอกว่าวันนี้จะนอนที่คอนโดค่ะคุณผู้หญิง”

คุณหญิงวารุณีพยักหน้าเข้าใจก่อนจะชะงักไปเมื่อวันนี้เห็นว่ากับข้าวกับปลาบนโต๊ะอาหารดูมีน่าตาที่น่ารับประทานมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเมนูปลานึ่งมะนาวของโปรดนางที่ช่างเรียกน้ำลายให้สอได้ดียิ่งนัก

”วันนี้ทำอาหารได้น่ากินนะแย้ม“ ไม่รู้ทำไมจู่ๆนางถึงอยากพูดชมออกมาโดยหารู้ไม่ว่าคนที่ทำอาหารทั้งหมดบนโต๊ะไม่ใช่สาวใช้ของตน

เขมนราได้ยินแบบนั้นก็แอบยิ้มกริ่มอยู่ในใจ อย่างน้อยๆอาหารที่เธอทำก็เรียกความสนใจให้แม่ของแฟน(ปลอมๆ)ได้อยู่ไม่น้อย

“เมื่อกี้คุณแม่พูดว่าอาหารน่ากินเหรอครับ?” เรย์วาติที่นั่งอยู่ข้างๆไม่รอช้าที่จะพูดสวนขึ้นมา

ในใจชายหนุ่มพลางนึกไปว่าหากแม่ของเขารู้ว่าใครเป็นคนทำอาหารพวกนี้จะมีปฎิกิริยายังไง แต่เขาก็เห็นด้วยที่ว่าอาหารพวกนี้แลดูน่ากิน แวบแรกที่เขาเห็น เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเขมนราเป็นคนทำทั้งหมดเช่นกัน นึกว่าเธอจะเก่งแต่ปากซะอีก

“ทำไมตาเรย์ แกยังอยากเรียกฉันว่าแม่อยู่เหรอ ถ้าจะทำตามใจตัวเองขนาดนี้ทำไมไม่ยกสินสอดไปขอเมียเองเลยล่ะ” เพียงได้ยินเสียงลูกชาย วารุณีก็รู้สึกของขึ้น ยิ่งได้เห็นสีหน้าตาใสของยัยเด็กนั่นอีก ถ้าไม่ติดว่านางหิวข้าว คงไม่ยอมลงมาร่วมโต๊ะด้วยหรอก

“โธ่ คุณแม่ครับ อย่าพูดแบบนั้นสิครับ” เรย์วาติทำเสียงอ้อน ถึงเขาจะขัดใจแม่เรื่องแต่งงาน แต่เรื่องอื่นเขาไม่เคยขัดใจท่านเลยสักครั้ง เว้นแต่ว่าจะมีเกเรบ้างตามประสาผู้ชาย

“เหอะ ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อนฉันเลยย่ะ“ คุณหญิงวารุณีเหลือบตาไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างลูกชายเพียงแวบเดียว ก่อนจะหันมาสนใจอาหารตรงหน้าด้วยความสนใจ

โดยมีเขมนรานั่งลุ้นอยู่เงียบๆว่าคุณหญิงจะมีปฎิกิริยาอย่างไรกับอาหารของเธอ

“แย้มตักข้าวได้เลย”

คุณหญิงวารุณีไม่รอช้าที่จะตักอาหารน่าตาน่ารับประทานมาชิมเข้าปาก ก่อนที่นางจะทำตาโตขึ้นมาเพราะวันนี้อาหารรสชาติถูกปากมากกว่าปกติจนนางอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำอาหารท่ามกลางสีหน้าลุ้นนักหนาของเรย์วาติและเขมนรา

”ใครทำกับข้าวรึแย้ม ทำไมอาหารมันรสชาติดีกว่าปกติ“ นางยังคงแคลงใจสงสัย เพราะปกติคนรับใช้จะทำไม่ได้รสชาติแบบนี้

”เอ่อคือ....“

“คุณแม่ชอบอาหารวันนี้ขนาดนั้นเลยเหรอครับ” เรย์วาติไม่รอให้นมแย้มได้ตอบกลับ เขาชิงถามมารดาตัดหน้าเสียเอง

“แกนี่ยังไงนะตาเรย์ ฉันก็ชอบอาหารของที่บ้านทุกวันนั่นแหละ เว้นแต่วันนี้แค่รู้สึกว่ามันถูกปากมาเป็นพิเศษเท่านั้น“ วารุณีตอบกลับลูกชายด้วยน้ำเสียงไม่รู้ร้อนรู้หนาว

”ผมดีใจนะครับที่คุณแม่ชอบ“ เรย์วาติได้ยินแบบนั้นก็อมยิ้มกริ่ม ภูมิใจในตัวของเเฟน(ปลอมๆ)เป็นอย่างมาก

เขาเองก็ได้ลองชิมอาหารฝีมือของเขมนราแล้วยังอดไม่ได้ที่จะยอมรับว่าหญิงสาวทำอาหารได้อร่อยจริงๆ แบบนี้ค่อยคุ้มค่ากับเงินที่เขาควักจ่ายตลาดให้เธอเมื่อตอนเย็นหน่อย อย่างน้อยๆเขาก็รู้สึกว่าคว้าคนไม่ผิดมาเล่นละครบทนี้

“แกจะดีใจทำไมตาเรย์ แม่ก็ชอบอาหารที่บ้านอยู่แล้วไหม ว่าแต่แกเถอะ หาเมียเข้าบ้านทั้งทีไม่คิดจะหาคนที่เป็นแม่ศรีเรือนเลยหรือไง เอาเด็กที่ไหนมาทำเมียก็ไม่รู้ สู้หนูนิตก็ไม่ได้”

“.....” เขมนราที่คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าคุณหญิงวารุณีจะต้องหาทางวกมาว่าหล่อนจนได้ก็ได้แต่พยายามส่งยิ้มหวานตอบกลับไป

“คุณแม่ อย่าพูดแบบนั้นสิครับ เดี๋ยวเฟย์เสียใจ“ เรน์วาติตอบกลับผู้เป็นแม่

”ฉันพูดความจริงไงตาเรย์ เป็นผู้หญิงก็ต้องหัดทำอาหาร ทำงานบ้านสิ ไม่ใช่จะมาอยู่บ้านผู้ชายเฉยๆแบบนี้ไม่ได้เรื่อง“

”แย้ม น้ำจิ้มซีฟู๊ดวันนี้ใครทำ รสขาติถูกปากฉันเสียจริง“

คุณหญิงวารุณีหันไปถามนมแย้ม หลังจากพูดแซะแฟนสาวของลูกชายไปยกใหญ่ นั่นทำให้แย้มมีสีหน้าอึกอัก เพราะนางรู้อยู่แก่ใจว่าอาหารที่คุณผู้หญิงเอ่ยชมไม่ขาดปาก คือฝีมือของหญิงสาวที่คุณผู้หญิงเพิ่งว่าไปหยกๆ

“เอ่อ คือวันนี้”

“เฟย์ทำเองค่ะคุณหญิง รสชาติถูกปากมากเลยใช่ไหมคะ“ เขมนราส่งยิ้มหวานโพล่งออกไป หลังจากนั่งเงียบมานาน ทำเอาคนที่เคี้ยวอาหารอยู่เต็มปากรู้สึกสำลักขึ้นมาอย่างกระทันหัน

“อะแค่กๆ อะแค่กๆ”

“น้ำค่ะคุณผู้หญิง” แย้มไม่รอช้าที่จะยื่นน้ำให้เจ้านาย

“คุณแม่ครับ ค่อยๆทานสิครับ ผมรู้แล้วว่าอาหารฝีมือแฟนผมอร่อยแค่ไหน ไม่ต้องรียขนสดนั้นก็ได้“ เรย์วาติเลิ่กคิ้วให้มารดาก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับเขมนรา

ภาพนั้นยิ่งทำให้คุณหญิงวารุณีรู้สึกเสียหน้า เพราะอาหารที่ตัวเองเอ่ยชมนักหนา เป็นฝีมือของคนที่นางรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel