ตอนที่ 4 บันทึกลับของหนูดี
ตอนที่ 4 บันทึกลับของหนูดี
หลายวันต่อมา...
คุณน้ำผึ้งเรียกคนงานในบ้านมารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างของบ้าน เพื่อต้องการจะประกาศให้ทุกคนในบ้านรับทราบโดยทั่วกัน
"มากันครบแล้วใช่มั้ย ฉันขอเริ่มพูดเลยแล้วกัน จะได้ไม่เสียเวลา" คนงานในบ้านนับสิบ มีทั้งคนเก่าและคนใหม่ กำลังนั่งฟังสิ่งที่คุณผู้หญิงของบ้านจะพูดอย่างตั้งใจ
"........"
"ตั้งแต่แก้วเสียไป แม่ครัวและคนช่วยทำความสะอาดบ้านก็ดูเหมือนว่าจะไม่พอ วันนี้ฉันจึงรับคนงานใหม่เข้ามาสองคน แทนพ่อครัวที่ลาออกไปเมื่อเดือนก่อนด้วย"
"........"
"ยังไม่หมดแค่นี้นะ...ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้ทุกคนมองหนูดีเป็นลูกเป็นหลานของบ้านหลังนี้ เมื่อก่อนหนูดีอยู่กับแม่ ช่วยแม่ทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆก็ถือว่าหัดทำไป ทุกคนคงไม่คิดว่าฉันใช้แรงงานเด็กหรอกนะ" ประโยคนี้คุณน้ำผึ้งพูดด้วยสีหน้ายิ้มๆ พร้อมกับมองไปที่หนูดี ที่กำลังนั่งรวมกันอยู่ที่พื้นกับคนงานในบ้าน แต่ตอนนี้แม่แก้วของหนูดีได้จากโลกนี้ไปแล้ว วันนี้คุณน้ำผึ้งจึงจำเป็นต้องยกระดับสถานะให้หนูดี ถ้าไม่อย่างนั้นคุณพ่อของเธออาจจะไม่ยอม
"........."
"หลังจากที่แก้วเสียไป หนูดียังไม่โตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ฉันจึงขอรับอุปการะหนูดีต่อเอง อยากให้ทุกคน คิดว่าหนูดีอยู่บ้านหลังนี้ในฐานะลูกบุญธรรมของฉันกับคุณภาคินก็ได้" ที่พูดแบบนี้เพราะไม่มีเอกสารยืนยันความเป็นลูกบุญธรรม
"เข้าใจมั้ย" ใครจะกล้าไม่เข้าใจ...ประโยคนี้คุณภาคินที่นั่งอยู่ด้วยเงียบๆคิดในใจ
"เข้าใจค่ะ/เข้าใจครับ"
เมื่อทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้รับทราบแล้ว คุณน้ำผึ้งจึงหันไปพูดกับคนงานที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่
"เดี๋ยวพวกเธอสองคนที่มาใหม่ ย้ายเข้าไปอยู่ในห้องของหนูดีก็แล้วกัน ส่วนหนูดีฉันจะให้ขึ้นไปอยู่บนตึกแทน ส่วนหน้าที่ของหนูดีที่เคยทำอยู่ก็..." คุณน้ำผึ้งยังพูดไม่ทันจบ หนูดีก็รีบพูดทักท้วงขึ้นมาทันที
"เอ่อ...คุณป้าคะ งานที่หนูดีเคยทำ หนูดีขอทำเหมือนเดิมค่ะ" หนูดีรู้ว่าคุณป้ารักและเอ็นดูเธอมาก แต่ถ้าจะไม่ให้เธอทำอะไรเลยเห็นทีว่าเธอจะดูเป็นคนไร้ค่าในบ้านหลังนี้ เพราะฉะนั้นเธอขอทำเหมือนเดิมดีกว่า
"ได้ ป้าอนุญาต งั้นตกลงตามนี้ แต่ถ้าช่วงไหนเรียนหนักต้องมาบอกป้านะ" เพราะท่านเล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องการศึกษาเป็นที่สุด
"ค่ะ ขอบคุณคุณป้ามากค่ะ" หนูดียกมือขึ้นไหว้คุณน้ำผึ้งด้วยท่าทางอ่อนน้อมตามนิสัยของเธอ
"ถ้างั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานเถอะ ส่วนหนูดีไปอยู่ห้องเก่าของอลิซแล้วกัน ห้องนั้นมีโต๊ะตู้เตียงครบจะได้ไม่ต้องขนย้าย" ท่านให้เหตุผลที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล แต่ห้องนั้นอยู่ติดกับห้องของพี่กัปตัน เมื่อได้ฟังดังนั้นใบหน้าของหนูดีก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที แต่เธอต้องเก็บอาการ ในใจนั้นรู้ดีว่าคุณป้ากำลังช่วยเธออยู่ เรื่องที่เคยคุยกันเอาไว้
'เราร่วมมือกันมันจะไม่สำเร็จเหรอ' วันนั้นคุณป้าพูดประโยคนี้หนูดีจำได้
ด้านบนของคฤหาสน์หลังนี้ ถ้าจะให้เรียงตามลำดับ ห้องซ้ายสุดเป็นห้องของไออุ่น ถัดไปทางขวาเป็นห้องของกัปตัน ถัดไปอีกห้องเป็นห้องเก่าของอลิซ ส่วนห้องสุดท้ายเป็นห้องของอาชิ พี่ชายคนโตของบ้าน เรียงตามลำดับพี่ไปหาน้อง โดยใช้ทิศตะวันออกเป็นตัวตั้ง ส่วนห้องของอลิซคงไม่ได้ใช้แล้ว เพราะถ้ามาก็คงพักห้องเดียวกันกับสามีของเธอนั่นก็คืออาชิ
เพราะฉะนั้นคุณน้ำผึ้งจึงให้หนูดีไปอยู่ที่ห้องนั้นแทน ส่วนห้องใหญ่สุด ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเป็นห้องของคุณน้ำผึ้งและคุณภาคิน ห้องของลูกๆทุกคนยังอยู่เหมือนเดิม หนูดีเป็นคนทำความสะอาด อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เผื่อวันไหนลูกๆของบ้านอยากจะมาพัก มาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเข้าพักได้เลย
ในขณะที่คนงานในบ้าน รวมทั้งหนูดีกำลังแยกย้ายกันออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง กัปตันก็เดินสวนเข้ามาในห้อง
"คุณแม่กำลังทำอะไรครับ" เห็นว่าเรียกคนงานในบ้านมารวมกันจึงถามดู...อยากรู้!
"ย้ายห้องให้หนูดี" ประโยคนี้ของคุณแม่ กัปตันเบนสายตาไปมองหน้าปะป๊าของเขาทันที ซึ่งท่านก็นั่งเล่นมือถือไปเงียบๆ เหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้
"แค่ย้ายห้อง ต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอครับ" พูดพร้อมกับนั่งลงไปที่โซฟาอีกตัวใกล้ๆกับตัวที่คุณแม่ของเขานั่งอยู่
"แกมีปัญหาเหรอ"
"ผมไม่กล้าหรอกครับ ว่าแต่ย้ายไปอยู่ห้องไหนครับ" ถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ
"ห้องเก่าของอลิซ" คำตอบของคนเป็นแม่ ทำให้กัปตันรีบยกมือขึ้นขยับแว่นสายตาที่เขาสวมใส่อยู่ทันที
"คุณแม่!"
"แกจะเสียงดังทำไม"
"จะไม่ดูจงใจไปหน่อยเหรอครับ"
"จงใจแล้วจะทำไม" ปะป๊ายังไม่กล้า...นั่งเงียบเลยเชียว!
"คนในบ้านจะมองหนูดียังไงครับ" เป็นห่วง!
"แม่รับคนงานใหม่สองคน ห้องมันเต็ม" ประโยคนี้ฟังไม่ขึ้น กัปตันจึงเบนสายตาไปมองหน้าปะป๊าของเขานิดหน่อย ท่านมองกลับมาแต่ไม่ได้พูดอะไร
"ห้องเต็มอะไรกันครับ บ้านหลังใหญ่อย่างกับวัง"
"ห้องอื่นแม่ใช้เก็บของไง...บอกว่าเต็มก็คือเต็ม"
"........."
"แม่บอกทุกคนไปว่า ให้มองหนูดีเป็นลูกสาวบุญธรรมของแม่ อีกอย่างน้องยังเด็กเมื่อก่อนนอนอยู่กับแม่ แต่ตอนนี้น้องต้องนอนอยู่คนเดียว คนงานผู้ชายก็มีตั้งหลายคน ไหนจะคนสวน คนขับรถ ใครจะรับประกันได้ว่าน้องจะปลอดภัยตลอดไป กันไว้ดีกว่าแก้น่า" มีเหตุผล!
"ถ้าพูดแบบนี้ก็ดูสมเหตุสมผลอยู่หรอกนะครับ"
"กัปตัน..." เสียงคุณแม่เรียกชื่อ กัปตันแอบรู้สึกเขินจนต้องรีบพูดดัก
"ผมบอกแล้วไง ว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ" ส่วนคุณปะป๊าที่นั่งอยู่ด้วยคงรู้แหละว่าคุณแม่กำลังทำอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าเห็นด้วยหรือว่ากลัวเมีย!
"ร้อนตัวอะไร...แค่จะบอกว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป วนรถไปส่งน้องที่หน้ามหาวิทยาลัยด้วยได้มั้ย คงไม่เสียเวลามากนักหรอกมั้ง" ไม่ใช่ทางผ่าน!
"ครับ..." กัปตันลากเสียงยาว ท่าทางเหมือนขัดคุณแม่ไม่ได้ แต่ลึกๆแล้วเขาเต็มใจ เนื่องจากไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก
ช่วงบ่ายแก่ๆของวันเดียวกัน กัปตันเห็นว่าประตูห้องของหนูดีเปิดอ้าทิ้งเอาไว้ เขาจึงเดินเข้าไปดูในแบบไม่ได้ให้สุ้มให้เสียง เห็นเธอกำลังนั่งหันหลังให้น่าจะจัดข้าวจัดของเข้าที่อยู่ อยู่ๆสายตาของเขาก็หันไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งมีลวดลายการ์ตูนน่ารัก หน้าปกเขียนด้วยลายมือว่า บันทึกลับสเปกผู้ชายที่ชอบ แค่ตัวหนังสือที่หน้าปกทำให้เขาเผลอจิ๊ปากจนเกิดเสียง ทันใดนั้นหนูดีก็หันหลังมามอง
"ว๊าย!...เอาคืนมานะ"