บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 โดดเรียน

ตอนที่ 4 โดดเรียน

สามวันผ่านไป...

ช่วงบ่ายของวัน ธานินทร์ได้รับโทรศัพท์จากคุณครูที่โรงเรียนบอกว่าวันนี้น้ำหนึ่งโดดเรียน ไม่ยอมเข้าเรียน สิ่งที่ได้ยินทำให้ธานินทร์รู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก เขาไม่ค่อยชอบเด็กเกเร ไม่มีความรับผิดชอบ

หลังเลิกเรียน น้ำหนึ่งนั่งรถรับส่งกลับมาลงที่หน้าบ้านเหมือนทุกวัน เธอเดินเข้ามาในบ้าน เห็นคุณอานั่งรออยู่ก่อนแล้ว ในมือคุณอาถือไม้เรียวอยู่ด้วย

"น้ำหนึ่ง มานี่..." ประโยคคำสั่งดังขึ้นเรียกให้เธอเดินเข้าไปหา

"............." น้ำหนึ่งเดินก้มหน้าเข้าไป ในใจเริ่มรู้แล้วว่าเรื่องอะไร

"รู้มั้ยว่าวันนี้ตัวเองทำอะไรผิด"

"ไม่ทราบค่ะ" เธอทราบ แต่เธอแค่ไม่ยอมรับก็เท่านั้น

"วันนี้โดดเรียนกี่วิชา" ธานินทร์เลือกที่จะถามออกไปตรงๆในสิ่งที่เขารู้มา

"สามค่ะ" น้ำหนึ่งยอมรับสารภาพตามตรงเช่นกัน เธอมีปัญหาจึงเลือกหนีปัญหาด้วยการไม่เข้าเรียน

"หันก้นมา" ไม้เรียวในมือของคุณอาทำให้น้ำหนึ่งรู้ว่าคุณอาจะทำอะไรกับเธอ เธอวางกระเป๋าหนังสือลงแล้วยอมหันก้นให้พร้อมกับยกแขนขึ้นกอดอก

"เฟี๊ยบ! เฟี๊ยบ! เฟี๊ยบ!" ไม้เรียวที่คุณอาถืออยู่ในมือถูกฟาดลงมาที่ก้นโดนกระโปรงนักเรียนสามทีแรงๆ ทำให้แก้มใสๆของน้ำหนึ่งตอนนี้อาบไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง

"คุณนิน ตีคุณหนูทำไมคะ เกิดอะไรขึ้น" ป้าแก้วได้ยินเสียงจึงรีบเดินออกมาดูเห็นเหตุการณ์พอดี

"ป้าก็ถามคุณหนูของป้าดูสิ" ป้าแก้วรีบเดินเข้าไปกอดคุณหนูตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นน่าสงสาร

"คุณหนูหนึ่ง เรื่องอะไรกันคะ" ป้าแก้วถามขึ้น พลางกอดปลอบและลูบแผ่นหลังเล็กให้คุณหนูไปด้วย เธอยังไม่ยอมหยุดสะอื้น

"หนึ่งเรียนไม่รู้เรื่อง หนึ่งปรับตัวเข้ากับเพื่อนไม่ได้ วิชาที่เรียนก็ยากกว่าที่หนึ่งเคยเรียนมา หนึ่งไม่เข้าใจ หนึ่งเรียนไม่รู้เรื่องเลย หนึ่งก็เลยไม่เข้าเรียนสามวิชาค่ะ" เสียงสะอึกสะอื้นเอ่ยตอบป้าแก้ว ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา มันเป็นความกดดันของเด็กที่ผู้ใหญ่บางคนคงไม่เข้าใจ คุณครูถามอะไรมาเธอก็ตอบไม่ค่อยได้ แล้วก็มักจะโดนเพื่อนล้อด้วย

"เรื่องแค่นี้พูดกันดีๆก็ได้นี่คะ ทำไมจะต้องลงไม้ลงมือด้วย" ป้าแก้วเอ็ดใส่ธานินทร์ ท่านจำได้ไม่เคยลืม ตอนธานินทร์เป็นเด็ก เวลาทำผิดก็มักจะโดนคุณพ่อตีแบบนี้เสมอ เป็นท่านที่ต้องเข้าไปพูดปลอบอยู่เป็นประจำ ธานินทร์มักจะถูกคุณพ่อทำโทษด้วยการตี แต่สถานะของธานินทร์กับน้ำหนึ่งมันไม่เหมือนกัน อีกทั้งการตีในสมัยนี้ก็หมดสมัยไปแล้วด้วย ถึงแม้ว่าคนตีจะไม่ได้มีเจตนาร้ายก็ตาม

"ถ้าเป็นคุณพ่อของหนึ่ง คุณพ่อคงถามหนึ่งก่อนว่าเพราะอะไรหนึ่งถึงไม่เข้าเรียน แต่คุณอาเลือกที่จะตีหนึ่งเลย คนใจร้าย!" น้ำหนึ่งหยิบกระเป๋าที่วางลงเมื่อสักครู่เอามาถือไว้ แล้ววิ่งขึ้นห้องไปด้วยน้ำตา...

"ป้าว่าคุณนินทำเกินไปหน่อยนะคะ แกเพิ่งจะเสียพ่อไป จิตใจยังไม่คงที่ หนีร้อนมาพึ่งเย็น คุณนินทำแบบนี้เด็กอายุแค่นั้นจะคิดว่าคุณไม่รักแกนะคะ" ในบ้านหลังนี้ธานินทร์ใหญ่สุดก็จริง แต่คงมีป้าแก้วเพียงคนเดียวที่สามารถกล้าตำหนิโดยที่ธานินทร์ไม่กล้าเถียง

"ผมทำผิดมากเลยเหรอครับป้า ไหนคนโบราณเขาบอกว่ารักวัวให้ผูกรักลูกให้ตีไงครับ"

"ไม่ใช่สถานการณ์แบบนี้ค่ะ แต่ก่อนที่จะตีก็ควรถามหาเหตุผลก่อน ถ้าเป็นป้า ป้าก็จะถามแกก่อนค่ะ" ธานินทร์ไม่เคยมีลูก เขาจำมาจากการเลี้ยงดูของคุณพ่อกับคุณแม่ที่เลี้ยงเขามา ได้ดีทุกวันนี้ก็เพราะไม้เรียว...เขาคิดแบบนี้

เย็นวันนี้น้ำหนึ่งไม่ยอมลงมาออกกำลังกาย ธานินทร์ไม่ได้ว่าอะไรในเรื่องนี้แต่เขารอที่จะปรับความเข้าใจกับเธอ รอนานแล้วก็ไม่เห็นเธอเดินเข้ามา ส่วนเรื่องออกกำลังกาย เขาไม่ได้คิดจะบังคับให้เด็กอย่างเธอออกกำลังกายอยู่แล้วตั้งแต่แรก เพียงแต่แค่อยากหากิจกรรมให้ทำก็เท่านั้น

ส่วนคำพูดของป้าแก้วทำให้ธานินทร์รู้สึกผิด เขาเดินออกจากห้องฟิตเนสไปเคาะประตูห้องนอนส่วนตัวของน้ำหนึ่ง หวังจะปรับความเข้าใจ

"ก๊อกๆๆ" เงียบ...

"ก๊อกๆๆ หนึ่งเปิดประตูให้อาหน่อย" ก็ยังเงียบ...ธานินทร์จับลูกบิดลองหมุนดูปรากฏว่าห้องไม่ได้ล็อคเขาจึงเปิดแล้วเดินเข้าไปด้านใน พบว่าด้านในไม่มีใครอยู่ เขาจึงเดินออกตามหาน้ำหนึ่งไปจนทั่ว ได้ยินเสียงแว่วๆอยู่หลังบ้าน

"ฮื่อๆๆ ข้าวกล้อง...แกคิดถึงพ่อกับแม่ของแกมั้ย" ข้าวกล้องเป็นลูกแมวตัวเมีย ขนปุยตัวเล็กน่ารัก

"ฉันคิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่มาก ถ้าพวกท่านอยู่ ฉันคงไม่ต้องมาถูกตีแบบวันนี้ ฮึก!" คุณแม่ของน้ำหนึ่งเสียไปนานแล้วเช่นกัน คำพูดตัดพ้อพวกนี้ธานินทร์เดินเข้ามาได้ยินพอดี เขายืนอยู่ด้านบนมองลงไปตรงหน้าต่างเห็นน้ำหนึ่งนั่งกอดลูกแมวพลางพูดไปร้องไห้ไปอยู่คนเดียว

"ถ้าฉันอายุสิบแปดทำงานได้เมื่อไหร่ ฉันจะไม่ยอมอยู่ที่นี่เด็ดขาด เจ้าของบ้านที่นี่บ้าอำนาจ ไม่มีเหตุผล ฮึก!" ธานินทร์ได้ยินเธอต่อว่าเขาแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกผิด หรือว่าเขาจะเป็นแบบที่เธอพูดจริงๆ

"คุณนิน..." ชบาเดินมาเห็นคุณธานินทร์ยืนอยู่ที่หน้าต่างตรงที่น้ำหนึ่งนั่งเล่นลูกแมวอยู่หลังบ้านพอดี ทำเอาชบาหน้าเสียทันที

"ตามผมมา..." ธานินทร์หมุนตัวเดินออกมาจากตรงนั้น เรียกให้ชบาเดินตามมาด้วย ส่วนชบาเดินผ่านป้าแก้วจึงดึงมือป้าแก้วให้เดินตามมาด้วยกันอีกคน

"ใครอนุญาตให้เอาแมวเข้ามาเลี้ยงในบ้านหลังนี้" ทุกคนในบ้านหลังนี้รู้ดีว่าธานินทร์ไม่ชอบให้เลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าสัตว์ตัวนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม

"คือ..." ชบาอึกอัก เพราะรู้ดีว่า เรื่องสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องที่ธานินทร์ไม่อนุญาตมาโดยตลอด

"ผมถามว่าใครอนุญาต ทำไมไม่มีใครบอกน้ำหนึ่งว่าบ้านหลังนี้ห้ามมีสัตว์เลี้ยง" สัตว์เลี้ยงชอบสร้างความวุ่นวาย ไหนจะขนของมัน ค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหาร ทุกอย่างมันดูเป็นภาระไปหมด

"คุณหนูอุ้มมาค่ะ แกบอกว่าจะเลี้ยงมันแค่สามวัน" วันนี้ก็เข้าวันที่สามแล้ว ช่วงเวลาที่น้ำหนึ่งแอบมาเล่นลูกแมว แกดูมีความสุขมากเป็นพิเศษ นั่นจึงทำให้ทุกคนยอมให้เธอเลี้ยงต่อ

"แกสงสารลูกแมวที่ไม่มีพ่อมีแม่เหมือนแกค่ะ ป้าก็เลยยอมให้แกเลี้ยง สงสารแกเวลาที่แกอยู่กับลูกแมวตัวนั้น แกดูมีความสุขเหมือนได้มีเพื่อนคุยเลยนะคะ" ป้าแก้วช่วยพูดเสริมอีกคน

"คุณนินคะ ให้คุณหนูเลี้ยงไว้แก้เหงาสักตัวได้มั้ยคะ ชบาสัญญาว่าจะช่วยดูแลลูกแมวตัวนั้นเป็นอย่างดี จะไม่ให้มันไปเดินเพ่นพ่านเด็ดขาดและจะทำความสะอาดมันอย่างดี ชบาสัญญาค่ะ" เมื่อกี้ชบาอุตส่าห์ช่วยคุณหนูดูต้นทางแล้ว ไม่คิดว่าคุณธานินทร์จะแอบดูอยู่บนหน้าต่าง

"ป้าด้วย ป้าจะช่วยดูลูกแมวตัวนั้นให้อีกคน คุณนินยอมให้คุณหนูหนึ่งเลี้ยงมันไว้สักตัวเถอะนะคะ" ทุกคนสงสารน้ำหนึ่ง เขาเองก็เช่นกัน...

"เอาล่ะ...ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็แล้วกัน" ธานินทร์พูดจบเขาก็เดินออกไปจากตรงนี้ทันที ชบากับป้าแก้วทำท่าโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสองหันมายิ้มให้กัน สิ่งที่ได้ยินแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยว่าคุณธานินทร์จะยอมง่ายยอมดายขนาดนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel