ตอนที่ 5 ไม่กลับบ้าน
ตอนที่ 5 ไม่กลับบ้าน
ภาพเด็กหญิงนั่งร้องไห้กอดลูกแมวตัวเล็กพูดระบายความในใจออกมาเมื่อช่วงเย็น มันรบกวนจิตใจเขาไม่ยอมเลิก นั่นจึงทำให้คุณอาหนุ่มเลือกที่จะเดินออกจากห้องไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องข้างๆ
"ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!" เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น น้ำหนึ่งจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่กำลังนั่งทำการบ้านอยู่แล้วเดินมาเปิดประตูห้อง
เมื่อช่วงเย็นน้ำหนึ่งไม่ยอมมานั่งทานข้าวด้วยกัน ธานินทร์จึงยังไม่ได้มีช่วงเวลาปรับความเข้าใจ
"คุณอา..." น้ำหนึ่งเดินออกมาเปิดประตูให้เห็นเป็นใบหน้าของคุณอายืนอยู่ที่หน้าห้อง เธอก็ได้แต่ทำหน้าเฉยๆ ไม่รู้ว่าเขาจะมาต่อว่าอะไรเธออีก
"ทำไม...เห็นหน้าอาผิดหวังมากขนาดนี้เลยเหรอ" มันเป็นแววตาที่ไม่ได้รู้สึกยินดีเลยสักนิด
"เปล่าค่ะ" ปากแข็ง!
"เป็นยังไงบ้าง" น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยถามบ่งบอกถึงความห่วงใย
"เรื่องอะไรคะ" ธานินทร์ผลักประตูห้องเปิดอ้าทิ้งเอาไว้แล้วเดินเข้าไปนั่งลงที่โซฟาภายในห้อง ส่วนน้ำหนึ่งก็เดินตามคุณอาเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า รอฟังสิ่งที่คุณอากำลังจะพูดในแบบไม่ได้คาดหวัง
"โดนตีเมื่อเย็นไง" น้ำหนึ่งเบนหน้าหนี พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลลงมาอีก เธอค่อนข้างน้อยใจเขา คิดถึงคุณพ่อที่สุด
"ถ้าคุณอายังตีหนึ่งไม่พอ อยากจะตีหนึ่งอีกก็ตีเลยค่ะ" เธอประชด!
"เรียนยากขนาดนั้นเลยเหรอ" ปกติเธอก็เรียนโรงเรียนเอกชนอยู่แล้ว เปลี่ยนมาเรียนนานาชาติก็น่าจะพอไปได้
".........." น้ำหนึ่งเลือกที่จะเงียบ...พูดไปคุณอาก็คงไม่เข้าใจ เมื่อสักครู่เธอก็กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ
"พูดสิ ไม่พูดแล้วอาจะรู้ได้ยังไง" น้ำเสียงของคุณอาเบาลง เขาเองก็อยากพยายามเข้าใจน้ำหนึ่งเหมือนกัน
"ยากค่ะ...หนึ่งไม่เข้าใจเลย" ที่สุดคือเรื่องภาษาที่ดูจะล้ำหน้ามากกว่าที่เธอเคยเรียนมามาก
"อยากเรียนพิเศษมั้ย"
"หนึ่งต้องรีบกลับบ้านมาออกกำลังกายอีก" เธอประชดคุณอาอีกครั้ง ในใจก็ไม่ได้อยากเรียนเพราะเธอไม่มีเพื่อน อยู่ที่โรงเรียนแค่เวลาเรียนก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว
"ถ้าอย่างนั้นอาจะช่วยสอนให้หลังอาหารเย็นทุกวัน เอามั้ย" ข้อเสนอนี้น้ำหนึ่งเห็นด้วย
"จริงเหรอคะ"
"จริงสิ ตกลงจะเรียนกับอามั้ย"
"ดุหรือเปล่า" เธอขอถามก่อน...ทำเอาคุณอาหนุ่มนึกขำตัวเองในใจ นี่เขาทำให้เด็กกลัวได้ขนาดนี้เลยเหรอ
"จะพยายามเป็นคุณครูใจดีให้ก็แล้วกัน" ต่อจากนี้ไปเขาคงต้องปรับตัวเข้าหาเด็กเยอะๆหน่อย เห็นตอนนั่งร้องไห้กอดลูกแมวยิ่งนึกสงสาร
"เรียนก็ได้ค่ะ" อยู่ๆเขาก็ทักขึ้นมาว่า...
"นี่มันชุดนอนตัวเมื่อวานนี่" น้ำหนึ่งก้มมองดูเสื้อผ้าที่เธอสวมอยู่...ก็ใช่!
"ค่ะ ยังหอมอยู่เลย" ใส่แค่นอนเอง...เธอคิดในใจ
"ห้ามใส่เสื้อผ้าซ้ำมันสกปรกมีแต่เชื้อโรค แล้วอย่าให้อาเห็นอีกล่ะ" ห๊า...แค่เสื้อผ้าก็ยังบงการ...น้ำหนึ่งคิดในใจ
"อีกครึ่งชั่วโมงหยิบวิชาที่ต้องการจะให้อาช่วย ลงไปเจอกันที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง" พูดจบเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องของเธอไป
"จะบงการชีวิตอะไรกันนักกันหนา น่าเบื่อชะมัด" น้ำหนึ่งก้มมองชุดนอนตัวเองแล้วบ่นออกมาคนเดียวแบบเซ็งๆ เธอไม่ยอมเปลี่ยนแต่เลือกที่จะหยิบหนังสือแล้วลงไปรอคุณอาที่ชั้นล่างเลย
วันต่อๆมา...หลังอาหารมื้อเย็นในทุกๆวัน ธานินทร์ช่วยสอนการบ้านให้น้ำหนึ่งทุกวัน ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณอากับคุณหลานเริ่มดีขึ้น...
เช้าวันศุกร์สุดสัปดาห์ บนโต๊ะรับประทานอาหารเช้า
"ป้าครับ คืนนี้ผมไม่กลับบ้านนะครับ อาหารเย็นเตรียมไว้ให้คุณหนูของป้าแค่ที่เดียวพอ" ธานินทร์เดินเข้ามานั่งลงบนโต๊ะรับประทานอาหารเหมือนทุกวัน เขาเอ่ยบอกป้าแก้ว คล้ายกับว่าสิ่งที่พูดออกไปเมื่อสักครู่มันคือเรื่องธรรมดาสำหรับเขา
"คุณอาจะไปไหนเหรอคะ" น้ำหนึ่งเอ่ยถามคุณอาด้วยความอยากรู้...แอบคิดในใจว่าแล้วเย็นนี้ใครจะช่วยเธอทำการบ้าน
"............" ธานินทร์มองหน้าน้ำหนึ่งนิ่งๆแต่ไม่ยอมตอบ น้ำหนึ่งจึงก้มหน้าลงแล้วรีบตักอาหารเข้าปากไปเงียบๆ แต่ในใจก็ยังอยากรู้อยู่
ช่วงเย็นหลังจากที่น้ำหนึ่งกลับมาจากที่โรงเรียน ความสงสัยเรื่องที่คุณอาไม่กลับบ้านก็ยังคงอยู่ เธอแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงบอกไม่ได้ วันนี้เธอไม่ออกกำลังกาย แต่เลือกที่จะอาบน้ำอาบท่าแล้วลงมาทานอาหารมื้อเย็นเลย
"พี่ชบาคะ เย็นนี้คุณอาไปไหนเหรอค่ะ ทำไมถึงไม่กลับบ้าน แล้วทำไมเมื่อเช้าหนึ่งถามเขาถึงไม่ยอมตอบ" สีหน้าของชบาอึกอัก มองยุทธที มองป้าแก้วที
"เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่ควรรู้ค่ะ" ชบาตอบยิ้มๆ ซึ่งคำตอบที่ได้น้ำหนึ่งก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
"เรื่องอะไรเหรอคะ" เธอถามต่อ...คำตอบที่ได้เมื่อสักครู่ รู้สึกงงกว่าเดิมอีก
"เรื่องของผู้ใหญ่ค่ะ" เรื่องของผู้ใหญ่อีกและ แล้วตกลงมันเรื่องอะไรกันนะ
"แล้วเรื่องอะไรล่ะคะ หนึ่งไม่เข้าใจ" ทุกคนมองหน้ากัน ไม่คิดว่าน้ำหนึ่งจะเป็นเด็กขี้สงสัยขนาดนี้
"บอสไปทำงานครับ" เป็นยุทธที่ช่วยตอบให้
"ทำงานที่ไหนคะ ไปไกลถึงขนาดต้องนอนค้างที่อื่นเลยเหรอคะ แล้วพรุ่งนี้คุณอาจะกลับมามั้ย" เธอแค่เป็นห่วงการบ้านตัวเอง การบ้านที่ได้มาวันนี้ที่ทำได้ก็ทำไปหมดแล้ว เหลือแต่ที่ยังทำไม่ได้
"คิกคิก" ชบาหัวเราะ ไม่รู้จะตอบยังไงดี
"พี่ชบาหัวเราะอะไรคะ" เด็กขี้สงสัย!
"ป้า...ชบาคันปากจัง"
"ไปล้างจานไป คุณหนูยังเด็กไม่ต้องรู้เรื่องพวกนี้หรอกค่ะ" คำพูดของป้าแก้วทำให้น้ำหนึ่งงุนงงเข้าไปอีก...ตกลงไปทำงานอะไรกันแน่
"คุณอาไม่อยู่ก็ดีค่ะ หนึ่งไปคุยกับข้าวกล้องที่หลังบ้านดีกว่า" ตอนนี้น้ำหนึ่งยังไม่รู้ว่าคุณอาอนุญาตให้สามารถเลี้ยงแมวได้แล้ว เธอลุกขึ้นไปจากโต๊ะพร้อมกับถือจานข้าวที่กำลังกินอยู่ถือติดมือเอาไปด้วย ไปนั่งกินกับข้าวกล้องที่ด้านหลังบ้าน พื้นที่ตรงนั้นมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น มีโต๊ะสำหรับนั่งเล่นบรรยากาศดี ทันทีที่น้ำหนึ่งให้หลังไป...
"โอ๊ย!! ป้า...หยิกมาได้" ชบาบ่น...
"ห้ามพูดให้คุณหนูรู้เด็ดขาด แกยังเด็ก!"
"รู้แล้วน่าป้า ชบาก็ไม่ได้พูดสักหน่อย" ชบาหันไปมองหน้าพี่ยุทธสามีของเธอ ส่วนยุทธก็ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ
สักพักด้านนอกบ้านก็เริ่มมืดยุงก็เริ่มมาตอม
"คุณหนู...เข้ามานั่งในบ้านดีกว่าค่ะ วันนี้คุณอาไม่อยู่" จริงด้วย!
"จริงด้วย...ถ้าอย่างนั้นวันนี้หนึ่งจะเอาข้าวกล้องไปนอนกับหนึ่งที่บนห้องด้วยนะคะ" เธอคิดว่าเขาคงไปทำงานที่ไกลๆ คงยังไม่กลับมาง่ายๆหรอก
"ไม่ได้ค่ะ คุณนินจะกลับมาตอนช่วงเช้ามืด เจอข้าวกล้องแน่นอน เอาไว้ให้พี่เลี้ยงให้ดีกว่าค่ะ" กลับเช้ามืดเลยเหรอ สงสัยจะทำงานจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน...น้ำหนึ่งคิดในใจ อดเอาข้าวกล้องไปนอนด้วยเลย
"อื้อ...ถ้าอย่างนั้น หนึ่งขอนอนกอดมันดูทีวีกับป้าแก้วกับพี่ชบาที่หน้าทีวีตรงนี้นะคะ"
"ได้ค่ะ..." หลังอาหารเย็นเก็บจานชามล้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่ประจำของทุกคนก็คือหน้าทีวีดูละครกัน...