บทที่ 2 จุดประกาย
สรุป..มีที่ลงคือร้านก๊วยเตี๋ยว พรีมปรับอารมณ์ไม่ทันกับขิมเลยจริงๆ ที่ตอนนี้ซัดเอาๆ มากกว่าหนึ่งถ้วยเข้าไปแล้ว
" เดี๋ยว..คืออะไร ไหนบอกจะประหยัด "
นั้นเลยทำให้เธอเผลอไปฉวยมือที่ถือตะเกียบอยู่ของขิมไว้อย่างช่วยไม่ได้ เพราะมันคาใจ
" อาใยเย่า! อินๆ ไอเออะ!"
" โอโห..คุณเพื่อน มีความเป็นกุลสตรีบ้างไหมนี่ "
คิดจะหาเรื่อง แต่กลับต้องมาอมยิ้มแทน พลางถาม ก่อนคนถูกถามจะกลืนคำเบอเร่อลงคอ.
" อึก! บ่นไร..ฉันบอกให้กินๆไปเถอะ หายากนะโอกาสที่ฉันจะกินเยอะแบบนี้.."
แล้วกินต่อ..
" เดี๋ยว.." แต่เหมือนพรีมจะไม่ยอม เธอยื้อเอาไว้อีกรอบ พร้อมยักคิ้วตัดสินใจถาม " เรื่องไอ้แบงค์ใช่ปะ "
" อะไร! "
ทำขิมชะงักกลางคัน และเริ่มหน้าเหวอ
" แกอกหักจากมันเลยมาเรียนที่นี่ใช่ปะ "
เงียบไปในที่สุด ลดมือลงมากวนเส้นในชามเล่น พลางก้มหน้า..
" อย่าเผือก.."
" ไม่เอาน่าขิม ฉันเพื่อนแกน่ะเว้ย บอกฉันได้ทุกเรื่อง ทำไมจะไม่รู้ "
" เปล่า.."
ทั้งๆที่พรีมเริ่มจะซีเรียส ต่างจากขิมที่ยังคงเหมือนเดิม ใจเธอแข็งพอๆกับหิน ถ้าอะไรก็ตามที่ทำให้เธอกลายเป็นคนแพ้ล่ะก็ เธอจะกลบเกลื่อนตัวเองโดยการทำแบบนี้ทันที ...หนีปัญหา และ ไม่ยอมรับความจริง...
" ขิม.. แกไม่จำเป็นต้องหนีใจตัวเองมาอยู่ไกลขนาดนี้ก็ได้.."
"..."
" แกจะไหวไหม แกเป็นคนติดบ้าน.."
ที่สำคัญ เธอเป็นคนใจร้อน อย่างเช่นประโยคสุดท้ายที่พรีมถามนี้ เธอถึงขั้นทุ่มช้อนลงกับชามจนน้ำกระเซ็น
ปัก!
" แล้วจะให้ทำไงวะพรีม.. มันไปเอากับคนอื่นอะ!"
ก่อนจะเอามือปิดหน้า การกระทำตรงนี้มันไม่ได้ทำให้พรีมตกใจเลย คำพูดของคนตรงข้ามต่างที่ทำเธออึ้ง
" ขิม..."
"..."
" จริงเหรอวะ..."
แต่แล้วในขณะที่เธอกำลังจะอ้าปากพูดต่อ กลับต้องมาชะงักเพราะเสียงนี้ พร้อมบุคคลใหม่เข้ามาเยือน
" สวัสดีค่ะน้องๆ สนใจจะไปทำงานกับพี่ป่าว..."
" เอ่อ.."
อยู่ๆ เสียงนี้ก็แทรกเข้ามา ขัดคนกำลังดราม่าพร้อมกับนามบัตร อีเจ๊เพศที่สามยิ้มกว้างจนเผยฟันทุกซี่ เหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร ท่ามกลางความงงของพรีมและขิม ที่ตอนนี้ค้างไปแล้ว
" คะ?"
ขมวดคิ้วพร้อมกันเป็นปม รอให้อีเจ๊มันอธิบาย
" คืองี้นะคะน้อง..." ตั้งท่ามาดมั่นอย่างกับตัวเองคือนางแบบ "พี่น่ะเป็นแมวมองพริ๊ตตี้ นางบงนางแบบอะไรทำนองเนี้ย แล้วก็เห็นพวกน้องมาแต่ไกลโน้น.... "
จีบปากจีบคอพูดสลับกับการทำท่าทำทางกระแดะ ชี้ไปฝั่งที่พวกเธอเดินมาในตอนแรก
" แล้วยังไงคะ?"
ก่อนขิมจะเป็นฝ่ายแทรก เลิกคิ้วเชิงกวน จนอีเจ้แกเก็บความกระแดะกลับไป เปลี่ยนเป็นมาพูดจริงจังแทน
" ก็ไม่ยังไงหรอกค่ะ พี่เห็นพวกน้องน่ะใสๆ เลยอยากจะชวนไปทำงานด้วย สนใจปะ รายได้ดีนะ "
" งานที่ว่าน่ะงานอะไร "
ขิมถามต่อ มองอีเจ้ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความไม่ไว้ใจ ก่อนอีเจ้แกจะถือวิสาสะไปยกเก้าอี้มานั่งคุย
" คืองี้นะ.."
" ขายตัวเหรอ"
" ขิม.."
ในขณะที่พรีมพยายามจับแขนปรามให้ขิมใจเย็นลง
" ไม่น่าไว้ใจนะแก..."
" เอาน่าแก..ฟังเขาหน่อย"
" ใช่เลยนังหนู ฟังพี่แปปนึงก็ดีนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรหรอก"
ทำเอาอีเจ้ได้ใจ เสี้ยมให้พรีมเห็นด้วย และเหมือนจะได้ผล
" ค่ะ งานอะไรเหรอคะ พอดีพรีมกับเพื่อนกำลังหางานอยู่พอดีเลย "
" จริงเหรอ..." อีเจ้ลิงโลดมีโอกาสกระแดะขึ้นมาอีกครั้งหลังจากได้ยินคำนี้
" ดีจัง.. ว่าแต่อายุเท่าไหร่ล่ะ "
ก่อนจะมาหุบปากทันทีก็ตอนที่ขิมแทรกเข้ามาใหม่
" ทำไมต้องรู้.."
" ขิม.." ทว่า เหมือนเดิม เธอโดนพรีมปราม " แกเงียบๆได้มั้ย ถ้าแกไม่โอเคกับเขา เดี๋ยวฉันคุยเองก็ได้ เผื่อมันจะเป็นงานดีนะแก "
กระซิบกระซาบกันต่อหน้า จนอีเจ๊แกเริ่มไปไม่ถูก
" จะไว้ใจได้เหรอพรีม.."
" เอาน่า..ไม่ลองไม่รู้ นี่อาจเป็นโชคของเราก็ได้นะ "
พรีมกล่อม จนกระทั่งขิมเงียบไป ยอมนั่งนิ่งๆ แต่โดยดี
" อือๆ"
" เค.."
ก่อนพรีมจะหันกลับมาหาอีเจ๊คนเดิมอีกครั้ง แล้วยิ้มแห้ง
" แฮ่.. อย่าถือสาเพื่อนพรีมเลยนะคะ มาค่ะคุยต่อ งานที่พี่ว่าเงินเยอะจริงเหรอคะ"
" จริงสิ..อย่างน้องนี่ครั้งนึงมากสุด ห้าหมื่นยังได้เลยนะ "
" โห!! "
มาถึงคำอุทานนี้ กับตาลุกวาวตกใจของขิม ได้ทีอีเจ้แกโม้ใหญ่
"ไม่เหนื่อย ไม่เหงื่อ ไม่ปลวก งานสบายๆไม่ต้องขายตัวแบบใครบางคนว่าด้วย "
ประโยคหลังขิมหันมาทลึงตาใส่ ทำเอาอีเจ้หลบตาแทบไม่ทัน แต่ก็ยังไม่วายจะโม้ต่อ
" ว่าแต่เรียนอยู่ใช่ไหม "
" ใช่ค่ะ กำลังจะเข้าปีหนึ่ง "
" หืม...มาจากต่างจังหวัดเหรอ "
" ใช่...โอ๊ย!"
แต่แล้วพรีมก็ถูกขิมกระทุ้งศอกเอาจนได้
หลังจากที่เธอเผลอหลุดปากพูดออกไป
" ดีเลยสิ ปีหนึ่งกำลังได้ประสบการณ์ ลองดูมั้ย เป็นฟรีแลนซ์ก็ได้นะ ..ออกงานครั้งหนึ่ง ไม่ต่ำกว่า ห้าพัน"
" โห.."
"..."
" แต่ว่า.."
ประโยคหลังพรีมเปรยตาไปหาขิม อีเจ้เห็นอย่างนั้นเลยดึงกระดาษแข็งออกมาจากกระเป๋าทันที
..มันเป็นไม้ตาย...
" แต่ถ้าตัดสินใจทันทีไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ กลับไปคิดกันก่อนได้ ถ้าจะทำยังไงก็ค่อยโทรหา นี่ค่ะ...นามบัตรพี่"
ในขณะที่พรีมรับมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
" โอเค..งั้นพี่ไปก่อนนะ อย่าลืมเก็บไปคิดล่ะ งานนี้น่ะ จ่ายค่าเทอมน้องสองคนได้สบายๆเลย แล้วพี่จะรอสายนะคะ.." " ค่ะพี่..ขอบคุณค่ะ.."
ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น อีเจ้แกก็เดินสั่นตูดออกไป ปล่อยขิมนั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันมามองนามบัตรในมือพรีม แล้วหย่อนจมูก
" ชี่..."
ปัก!
" ฮ้า....!! กว่าจะถึงขาแทบลาก "
เสียงอู้อี้ของพรีมดังขึ้นหลังจากมาถึงที่พัก เธอทุ่มตัวลงกับเบาะที่นอน ก่อนจะหันมายิ้มกับขิม
" อะไร.."
" ฉันว่างานพี่เขาน่าสนใจดีนะ "
" แกจะทำจริงๆน่ะเหรอ งานที่อื่นมีตั้งเยอะ เราเลือกได้"
" โอ่ว..แกก็เห็น ไอ้ที่เราไปหาเมื่อกี้ เขารับแต่พนักงานประจำ แล้วเดี๋ยวเราก็ต้องเรียน"
" ก็แค่โซนนี้ ที่เราเดินเท้าได้หรอก ยังไม่ลองไปไกลกว่านี้เลย "
" แกไปคนเดียวเหอะ ฉันไม่เอาด้วยหรอก นั่งวินไม่เป็น โหนรถเมล์ไม่เก่งอย่างใครเขา แหยะ ไม่เอาๆ"
พรีมบ่นอุบพลางโบกไม้โบกมือเป็นท่าประกอบ ก่อนมาหยุดเพราะประโยคนี้ ที่ขิมหรี่ตาขวับไปมองพรีมแบบไม่ค่อยจะพอใจ พลางขมุบขมิบปากใส่ไม่มีสียง
" กระ\-แดะ "
" ห๊ะ!!"
ทว่า พรีมกลับรู้ ถึงขนาดเด้งตัวขึ้นมา ทำท่าจะแทรก แต่กลับถูกขิมขัดขึ้นมาซะก่อน
" ฉันจะรอจนกว่ามหาลัยเปิด ให้รู้ก่อนว่าในนั้นเป็นไงบ้าง จะได้รู้ช่วงเวลาไปทำงานได้ แต่เชื่อเหอะ..คนอย่างอีขิมน่ะ ไม่ทำแน่นอนงานครั้งละห้าพัน! อะไรจะได้เงินไวขนาดนั้น ทำไร.? ขายยาเหรอ!"
พลางเดินหนีไป ปล่อยให้พรีมนั่งอ้าปากเหวอ
" โหย...ขิม! ปากคอแกนะ ช่างเราะร้ายยย"
แถมหันกลับมายักไหล่ยียวนให้ทีนึงด้วย
ปลีกตัวมาอยู่ในห้องน้ำ มานั่งลงตรงชักโครก แล้วกดโทรหาแม่
(ฮัลโหล..)
" แม่คะ..."
(ถึงแล้วหรือลูก)
" แล้วค่ะ .."
( ที่พักเป็นไง น่าอยู่ดีไหม )
ก่อนขิมจะมาสะดุดกับคำถามนี้ ที่ทำให้เธอต้องมองไปรอบๆ เหลือบตามองเพดานกลั้นน้ำตาไว้
" อึก..ดีค่ะแม่ น่าอยู่ดี"
แสร้งบอกฝั่งตรงข้าง พร้อมหลับตาลง กัดปากไว้
( ดีแล้ว ขิมอยู่นั่นก็ดูแลตัวเองด้วยนะลูก แม่เป็นห่วง)
" ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ขิมไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย พรีมก็มา "
( แต่ก็ผู้หญิงทั้งคู่ถูกไหม? เราสองคนเคยเข้ากรุงเทพซะที่ไหนกันล่ะ )
" ...."
( ดูแลกันดีๆล่ะกัน มีอะไรก็โทรหาแม่ โทรหาบ่อยๆนะ )
"..คะ...ค่ะ"
( งั้นพักผ่อนเถอะลูก )
" เอ้อ..แม่ "
(จ๊ะ)
" แล้วพี่ขอนล่ะ..ไม่อยู่เหรอ "
( อ่อ..รายนั้น ป่านนี้ยังไม่เข้าบ้านเลย ประจำล่ะ เที่ยวเตร่ตามประสา)
" แล้วทิ้งแม่ไว้คนเดียวเนี่ยนะ!"
( ฮ่าๆๆ แล้วทำไมล่ะ แม่ไม่ได้แก่ขนาดอยู่ลำพังไม่ได้สักหน่อย นี่น่ะมันบ้านแม่ มีแต่คนรู้จักกันทั้งนั้น เราน่ะ..ดูแลตัวเราเถอะ ไม่ต้องห่วงแม่ )
มาถึงตรงนี้ ทำขิมหน้าหงอยขึ้นมาทันที เมื่อเธอนึกภาพตามคำที่แม่เธอบอก ภาพความสุขในครอบครัวที่ผ่านมา บรรยากาศของเด็กบ้านนอกที่หายไป มาถึงตอนนี้ ในที่มีแต่ผู้คนแปลกหน้าหน้า ..มันทำเธอเหงา
" ค่ะแม่..."
( งั้นแค่นี้นะจ๊ะ..แม่จะนอนแล้วล่ะ)
" คิดถึงแม่นะคะ "
ก่อนจะวางสายไป แล้วปิดหน้าร้องไห้ ..
จะนานหน่อยแหละ กว่าขิมเธอจะชินกับที่ใหม่
คงจะนานหน่อยล่ะ กว่าเธอจะลืมภาพๆนึงไปได้
...ภาพต้นเหตุที่ทำเธอมาอยู่ที่นี่...
' แบงค์รักขิมนะ..สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทิ้งกัน..'
"ฮึกๆ..โฮๆ.."
ติ้ด ติ้ด ...
" อืม..ขิม แกตั้งนาฬิกาปลุกเหรอ.."
" อืม.."
หลังเสียงอู้อี้ของคนถูกถามรับคำ พร้อมมือพรีมเอื้อมไปหยิบมาดู
" หกโมงเนี่ยนะ!!!"
" ..."
" ตื่นทำไมว้า.."
ในขณะที่ขิมพยายามยกหัวตัวเองขึ้น ลากร่างลุกจากที่นอน แต่พรีมกลับเอาหัวแหย่เข้าไปในปลอกหมอน
" ไปเช้าๆสิดี มีเวลาเยอะ "
" ไปไหน??"
ถามเสียงอู้อี้อยู่ในนั้น
" ไปหางานทำน่ะสิถามได้ "
" ห่ะ!"
ก่อนจะแหย่หัวเข้าไปมากกว่าเดิม ก็ตอนขิมพูดประโยคนี้
" แล้วแกก็ต้องไปกับฉัน "
" ไม่!"
ที่ทำให้ขิมถึงกับชะงัก หน้าบึ้ง
" เอ้า! ไม่ไปแล้วเมื่อไหร่จะมีงานทำ "
เริ่มโวยวายออกมาเสียงดัง
" มันเช้าไปอ่า..ฉันตื่นไม่ไหวหรอก "
ทว่าพรีมกลับไม่สนใจฟัง พยายามเบี่ยงตัวหนี
" แกก็ฝึกให้มันชินๆซะสิ ต่อไปถ้าได้งานขึ้นมา รึเวลามีเรียน จะได้ตื่นได้"
ขิมแนะนำ แต่เหมือนพรีมเธอจะคิดต่าง
" ใครบอกว่าฉันจะทำงานเช้า "
" หมายความว่าไง "
" ฉันจะทำงานกับพี่คนนั้นแหละ งานช่วงสาย งานกลางคืน มันสะดวกดี "
" ห๊ะ.." ที่ทำเอาขิมอึ้งไปเลย มองคนที่นอนอยู่ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ " เพื่อไรวะ.."
" อะไร "
" แกก็รู้งานแบบนั้นมันเสี่ยง "
" เสี่ยงตรงไหน"
" พริตตี้อะไรนั่นอะ"
" ก็แค่พริตตี้นะขิม ฉันไม่ได้ไปขายตัว "
" ต่างกันตรงไหน "
" ขิม แกจะอคติเกินไปแล้วนะ "
" ก็ฉันได้ยินมาอย่างนั้นนี่"
" พริตตี้ดีๆ ทำงานเอาความสามารถแลกเงิน ก็มีถมเถไป ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเสมอไปมั้ง "
คือ..พอขิมพูดคำไหน พรีมเธอก็จะเถียงออกมาทุกครั้ง ต่อปากต่อคำไม่เลิก จนขิมรู้สึกรำคาญ คนอะไรไม่มีความคิด เธอคิดแบบนี้ ไม่สนใจแล้วว่าพรีมจะใช้ชีวิตยังไง ทางใครทางมันก็แล้วกัน ...แค่ลำพังในตอนนี้ ความรู้สึกเธอมันก็แย่พอแล้ว...
" เฮ้อ..งั้นก็แล้วแต่แกล่ะกัน ฉันไปละ"
" โอเค..ไว้เจอกัน "
ส่ายหน้าเอือมระอา ก็ตอนที่พรีมชูมือขึ้นมาบ๊ายบ่าย ทั้งที่หน้าเธอยังยัดอยู่ให้กองผ้า ก่อนจะเดินคอตกมาอาบน้ำ แล้วออกมาผจญภัยเพียงลำพัง
ปิ๊น..ปี้นนนน
และเหมือนจะจริงอย่างที่คิดด้วย นี่ขนาดเธอมาเช้านะเนี่ย ความวุ่นวายยังมีเลย อุตส่าห์วางแผนไว้ดิบดี ว่าจะฝึกนั่งรถเมล์ฟรีไปรอบเมืองซะหน่อย สรุปมาตื่นคนซะนี่! เลยหนีไม่พ้นรถแท็กซี่จนได้
" ไปไหนน้อง"
" เอ่อ..ไปสุขุมวิทค่ะ "
" ขึ้นมาเลย "
เพราะแค่เสียงคนขับถาม เธอยังสะดุ้งเลย ...คงต้องฝึกความเกร่งให้มากกว่านี้... ทำเธอจะมีความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว
...สุขุมวิท...
นั่งซ้อมใบ้มาจนกระทั่งถึง
" นี่ค่ะพี่ "
ยื่นเงินให้คนขับ แล้วกระโดดขึ้นฟุตบาท คราวนี้มีร้องเท้าผ้าใบเป็นยานพาหนะแล้วนะ ขิมกำชับสายสะพายเป้ตัวเองแน่น สูดหายใจเข้าปอดจนล้น ก่อนจะเดินไปตามทาง รุดหน้าตามหาแหล่งงานจากรายชื่อที่เขียนไว้ วางแผนไปให้ครบทุกที่ หมดในแผ่นกระดาษนี่ คงจะทันรถเมล์เที่ยวสุดท้ายพอดี แต่ทว่า..เรื่องไม่คาดคิดกลับมาเกิดขึ้นกับเธอจนได้
ปี๊นนนนนน!
" ว้าย!!!" ตุบ!
เพราะในขณะที่เธอกำลังจะข้ามถนนตรงทางโค้ง มีรถคันนึงวิ่งตรงเข้ามาเฉี่ยวเธอ!