บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 มัดมือชก

ปี้นนนน!!

ตุบ! "........" เอี๊ยดดดดด!

รถเก๋งคันหรูหักพวงมาลัยกะทันหัน ก่อนจะเบรคลากล้อก็ตอนที่เลยไปไกลแล้ว

ขิมนั่งจุกอยู่ข้างฟุตบาท มือข้างหนึ่งของเธอกุมท้องไว้ หน้ายับยู่ยี่เพราะความเจ็บปวดท่ามกลางผู้คนที่เริ่มจะหันมามอง

" หนูเป็นอะไรรึเปล่า "

เพียงรถเฉี่ยวเท่านั้น ทว่า ทำไมเจ็บจัง.. รึอาจจะเป็นเพราะว่าก้นจ้ำเบ้าเอาเต็มแรง เลยทำเธอให้ข้อศอกไปกระแทกถนน

" ไม่เท่าไหร่ค่ะ "

ยกแผลขึ้นมาดูก่อนจะซู้ดลมเข้าปาก เงยหน้าขึ้นไปมองรถคันต้นเหตุ พลางยันตัวเองลุกขึ้น

" นั่นไงเขามาแล้ว " ในขณะป้าคนเดิมชี้ไปทางนั้น " คงมาดูอาการ ไปหาหมอซะนะลูก "

ก่อนป้าแกจะเดินจากไป ปล่อยให้ขิมยืนงงอยู่คนเดียว จนกระทั่งคู่กรณีเดินมาถึง

" เป็นอะไรรึเปล่าครับ "

เสียงทุ่มนั้นดูมีเสน่ห์จนน่าแปลก บวกกับโคโลญจน์อ่อนๆ ที่โชยออกมาจากเสื้อของเขาให้ขิมได้กลิ่นเบาๆนั้น ...เชื่อไหมขิมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตาเลย... ไม่ใช่เพราะความเขินหรอกนะ ตรงนี้เธอรู้ดี .. ถ้าให้หาเหตุผล เธอว่า..มันคงจะเป็นเพราะเขาสมาร์ทเกินไปมากกว่า

" ว่าไง เป็นอะไรเหรอเปล่า ผมต้องรีบไปประชุม"

" เอ่อ.."

ทว่า..ประโยคคำถามใหม่นี้ทำเธอเลี่ยงที่จะเงยหน้าขึ้นไม่ได้

" เจ็บค่ะ " เธอบอก ก่อนจะชะงักไป เมื่อประสบกับดวงตาคู่นี้ และทำเธอเปลี่ยนใจทันที " แต่นิดหน่อย ไม่เป็นไร" เพราะดูท่าเขาจะรีบจริงๆอย่างที่เขาว่า อีกอย่างเขาก้มลงมองนาฬิกาตลอด ทว่า เหมือนเขาจะใส่ใจเธอไม่ต่างกัน

" ไม่เป็นไรได้ไง ถลอกซะขนาดนั้น" ยื่นมือเข้ามาจับต้นแขนเธอ เล่นเอาขิมถึงกับสะดุ้ง " ถ้าไว้ใจกัน ก็ขึ้นรถ.."

" คะ?"

"ไปที่ทำงานกับผม เดี๋ยวจะให้ลูกน้องทำแผลให้ "

" เอ่อ.."

แล้วทำไมไม่เป็นที่โรงพยาบาล ทำไมต้องเป็นที่ทำงานละคะ ขิมอยากจะถาม.. แต่ว่า..

" เร็วๆสิครับ "

" ค่ะๆ ก็ได้ค่ะ "

ก็..ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน ที่อยู่ๆ ทำให้ขิม ไม่กล้าแข็งข้อใส่เขาแบบนี้ หรือ. อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ผิด เธอทะเล่อทะล่าเดินไม่มองรถเขาเองก็ได้มั้ง

..อืม เหตุผลเข้าท่า...

หลังจากขึ้นรถมาได้สักห้านาที ขิมรู้สึกถึงบรรยากาศอันกดดัน อึดอัด และ กลืนน้ำลายฝืดคอขึ้นมาทันที ซึ่งมันสามารถสั่งให้เธอบีบมือเข้าหากันจนเจ็บได้

ความเย็นชาของเขาที่แผ่ออกมาจากข้างใน ช่างทำให้เขาเป็นคนขับรถที่ไม่มีอัธยาศัยเอาซะเลย ถ้ารู้อย่างนี้แต่ทีแรกล่ะก็เธอจะไม่ปีนรถขึ้นมาเป็นแน่..เธอคิด ผู้ชายอะไร สามารถนั่งเงียบได้ตลอดทาง เป็นคนที่สมาธิดีสุดๆ คือ..ทำหน้าที่ขับรถยังไงก็ทำอยู่อย่างนั้น สายตาทอดมองแต่ท้องถนน คงลืมไปแล้วแหละว่าพาคนแปลกหน้าอย่างเธอมาด้วย

จนกระทั่ง...ถึง..

" เอิ่ม.."

ลงรถแบบทะมัดทะแมง และ...

" เดี๋ยวพาผู้หญิงคนนั้นไปทำแผลด้วยนะ "

สั่งลูกน้องมาประคองเธอ โดยตนเองนั้นเดินเข้าไปในตึกก่อนแล้ว แม่เจ้า...

"เชิญครับคุณผู้หญิง "

และปล่อยให้เธอยืนอยู่ลำพัง

" ค่ะ.."

ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวเองออกมาจากรถ แล้วเดินตะแผลกๆเข้าไปข้างใน

ก็ยังงงใจ..ทำไมไม่พาไปโรงพยาบาล

" ทางนี้ค่ะ "

สักพักก็มีนางพยาบาล เอ้ย! ไม่ใช่สิ . พนักงาน เดินมาพยุงต่อ พาเธอไปยังห้องใดห้องหนึ่ง

" เจ็บมากไหมคะ "

นั่งลงตรงโซฟาขาวหรูนั่น ก่อนเงยหน้าขึ้นไปตอบพนักงาน

" ตอนนี้ไม่เท่าไหร่แล้วค่ะ แค่แสบๆ "

" ใช่ค่ะ แผลสด แผลถลอก มันจะแสบหน่อย เดี๋ยวล้างเศษดินก่อนนะคะ ทายาทีหลัง "

เธอบอก พลางเดินไปหยิบกล่องยามานั่งลงตรงข้าม เปิดหยิบสิ่งที่ต้องการจะใช้ออกมาอย่างทะมักทะแมง

" ดูคุณเก่งจังค่ะ แต่ไม่ใช่พยาบาล "

ขิมถามด้วยความสงสัย ในขณะเจ้าตัวหัวเราะ

" ฮ่าๆ ต้องเก่งค่ะ ถึงจะเป็นพนักงานที่นี่ได้ "

" ทำไมเหรอคะ เจ้านายเคี่ยวมากเลยเหรอ "

" ป่าวหรอกจ้า คุณเคลน่ะเธอใจดี "

" คุณเคล.."

" คนเมื่อสักครู่นี้ไงคะ ที่พาคุณมา "

" อะ..อ่อ..."

เธอบอกยิ้มๆ ก่อนจะตัดบทมาใส่ใจการทำแผล

" เจ็บหน่อยนะคะ "

" อูย.."

" ^^ สักพักก็จะหายละค่ะ "

" ..."

ขณะพนักงานทำแผลปลอบเธอไปด้วยทายาให้เธอไปด้วย ต่างกับขิมที่ตอนนี้ปั้นหน้ายับยู่ยี่ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่วายจะหายสงสัย

" โอเค เรียบร้อยแล้วค่ะ "

" ขอบคุณนะคะ "

" ยินดีค่ะ "

" ว่าแต่ บริษัท เอ่อ.. C\-Man นี่ เกี่ยวกับอะไรเหรอคะ "

และเธอถามจนได้

" อ่อ.. เวดดิ้งน่ะค่ะ รับจัดงานแต่งงาน งานต่างๆ ประมาณนี้ล่ะค่ะ "

" อ่า...ค่ะ.."

ได้รับคำตอบแบบนั้น ขิมถึงกับยิ้มแหย่ๆออกมาทันที

...คงต้องรวยมากสินะ ถึงสามารถทำธุรกิจเงินเย็นแบบนี้ได้...

" โอเคค่ะ คุณพักเถอะนะคะ ดิฉันขอตัวก่อน"

" อ้อ เดี๋ยวก่อนค่ะ "

" คะ?"

"แล้ว..ถ้าจะกลับไปยังสุขุมวิทนี้ ต้องต่อรถสายไหนอะคะ ป้ายรถเมล์อยู่ไหนเหรอ "

ขิมถามอีกครั้ง ทว่า คนลุกไปอย่างพนักงานทำแผลหันมายิ้มกว้างให้พร้อมส่ายหน้า

" ไม่บอกค่ะ เพราะคุณเคลสั่งให้คุณรอเค้า "

"อ่าว.."

" เขาฝากให้ดิฉันดูแลคุณ จนกว่าเขาจะเลิกประชุมเสร็จ ตามสบายนะคะ ^^ "

พูดจบทำท่าจะหมุนตัวเดิน แต่เหมือนจะยังพูดไม่จบ

" อ้อ .. ไม่ต้องกลัวใครจะมารบกวนนะคะ ที่นี่เป็นห้องลำลองค่ะ เวลางานยุ่งไม่กลับบ้าน คุณเขาก็จะพักที่นี่"

" ห่ะ! อย่างนี้ก็ได้ด้วยเหรอคะ.." ​

สองชั่วโมงผ่านไป

นานถึงขนาดคนรออย่างขิมเผลอหลับ กว่าคนขับรถคนนั้นจะย้อนกลับมา อาจจะเพราะแอร์เย็นฉ่ำ หรือ เพราะเธอเจ็บบวกกับการตื่นเช้ารึเปล่าไม่รู้ ที่ทำให้คนไว้ใจใครยากอย่างขิมหลับง่ายขนาดนี้

ถือวิสาสะนอนราบบนโซฟา ไม่ตั้งการ์ดรักษาความปลอดภัยให้กับตัวเองเลย ปล่อยให้ใครคนนึงยืนมองอยู่ได้ ในท่ามือล้วงกระเป๋ากางเกงทำหน้างง

" หลับเฉยเลย.."

คลึงลิ้นเล่นในปากไปมาเสมือนคิด ก่อนจะตัดสินใจถอดสูทนอกของตัวเอง

" ไหนก็ไหนๆละ เอ้า.."

ยกให้คนนอนหลับได้ห่มซะนี่ ก่อนตัวเองจะปลีกตัวออกจากตรงนั้น มานั่งเล่นโทรศัพท์ เพราะไม่กล้าปลุกให้เธอตื่น อันที่จริงเขาต้องการให้ขิมอยู่รอก็เพียงจะบอกขอโทษ และเลี้ยงอาหารเธอสักมื้อ เพื่อเป็นการปลอบขวัญที่ทำเธอเจ็บตัว ไม่ได้คิดว่าจะทำให้เธอรอนานซะจนหลับอย่างนี้

ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเขาไม่กล้าที่จะปลุก ก็คงต้องนั่งรออยู่แบบนี้ล่ะ รอจนกว่าเธอจะตื่นเอง

1 ชั่วโมงผ่านไป..

ร่างสวยบนโซฟาสะดุ้ง พลางซู้ดลมเข้าปาก ก็ตอนเผลอยกข้อศอกขึ้นมากะทันหัน ก่อนจะมาเบิกตากว้างก็ตอนที่นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ " ตายแล้ว!!!" อุทานออกมาสุดเสียง แล้วมาเงียบกึกอีกทีก็ตอนที่มีเสียงของเคลแทรกเข้ามา

" ไม่ตายหรอกคุณ..คุณก็แค่หลับไปหนึ่งชั่วโมงเต็มเอง.."

พร้อมกับยกเท้าที่พาดอยู่บนโต๊ะลงพื้นพรม

" อ๊ะ..คุณ."

" เป็นไง หลับสบายมั้ย.."

กับคำถามนี้ ที่แทงใจขิมซะจนหน้าแดง

" เอ่อ.. คือ.. " ก้มหน้านิ่งด้วยความเขิน " หนู..ขอโทษค่ะ "

" หืม..หนู?? อายุเท่าไหร่กันเชียว "

ก่อนจะมาขมวดคิ้วเสริมอีกที ก็ตรงคำถามนี้

" สะ..สิบเก้าค่ะ "

พลางช้อนตาขึ้นมาตอบ แล้วหลบลงไปใหม่

" อะไรกัน ดูโตเป็นสาวขนาดนี้ เพิ่งสิบเก้าเองเรอะ เด็กสมัยนี้โตไวจริงๆ "

เพราะคำบ่นของเขานี้ที่ขิมฟังแล้วมันทะแม่งๆ ...ทำไมเขาพูดเหมือนเขาแก่เลยล่ะ ...

" เงยหน้า .."

" คะ?"

" เวลาคุยกับผู้ใหญ่ ต้องเงยหน้า ที่บ้านไม่สอนเหรอ .."

แต่แล้ว อยู่ๆก็มีคำนี้แหละ ที่ทุบกำแพงความเขินของเธอมลายหายไปได้

" เอ๋.. เกี่ยวอะไรกับที่บ้านหนูเหรอคะ?!"

ยอมเหลือบหน้าขึ้นมามองเคล

" ..."

ก่อนจะเค้นเสียงใส่

" อ่อ ถ้าหมายถึงมารยาท .. สอนค่ะ สอนบ่อยด้วย แต่หนูไม่จำเอง!"

" หืม..."

ซึ่งคราวนี้ ทำเอาเคลที่นั่งหน้านิ่งอยู่ในทีแรก ถึงกับขมวดคิ้วงง

ปลายจมูกที่เชิ่ดขึ้น บ่งบอกถึงความดื้อเป็นอย่างดี เคลถึงกับนั่งอมน้ำลาย พูดไม่ออก เมื่ออยู่ๆมาถูกเด็กเถียงแบบนี้ ได้แต่ขมวดคิ้วมองหน้าขิมไม่ละสายตา ก่อนจะลุกพรวดขึ้นจนขิมสะดุ้งตกใจ

" อะไรคะ!"

" เอาเสื้อผมคืนมา.."

กลับมาหายใจโล่งอกก็เพราะประโยคนี้ ขิมกัดปากแน่น พลางยื่นมันไปให้

" ขอบคุณค่ะ"

เบือนหน้าไปมองทางอื่น เธอรู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

" ไปล้างหน้าล้างตาซะสิ "

ก่อนเหลือบตาใหม่อีกครั้ง ในขณะเคลพยายามกลั้นหัวเราะกับท่าทางของเธอ

" ทำไมหนูต้องทำตามที่คุณว่าด้วยล่ะคะ "

ที่ไม่วายจะตึงใส่ เคลอยากจะถาม เมื่อยไหมกับการนั่งตัวตรงซะเหมือนหุ่นขี้ผึ้งแบบนี้

" ก็ตามใจ ถ้าอยากจะเอาน้ำลายบูดติดปากไปให้ใครต่อใครเห็นตอนนี้ "

เคลยักไหล่บอก หมุนตัวกลับไปนั่งที่เดิม

" ห๊ะ!"

ได้ผล ขิมถึงกับยอมวางมือจากการนั่งตัวทื่อ มาถูปากตัวเองแทน

" จริงเหรอคะ! O.O"

เธอหันซ้ายหันขวามองหาห้องน้ำ ก่อนจะพุ่งเข้าไปหามันทันทีหลังพบ ปล่อยให้เคลนั่งส่ายหน้าขำเบาๆอยู่คนเดียว

" ฮ่ะๆๆ เด็กน้อยจริงๆ "

​ ดูแว้บเดียวเคลก็พอจะรู้แล้ว ขิมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เพิ่งจะเข้ามาเรียนที่นี่ และที่สำคัญเธอไร้เดียงสาซะจนน่ารังแก หลังจากหมดเรื่องตลกให้เขาขำ สายตาคมกริบก็ทอดยาวอย่างไร้จุดหมายออกไปทันที ก่อนหน้านี้ เขาเผลอก้มลงไปเห็นเศษกระดาษที่ขิมเขียนชื่อสถานที่ไว้ ทำให้เขารู้ว่าเด็กคนนี้กำลังจะหางานทำ ซึ่งเขากำลังคิด.. จะช่วยเธอยังไงดี..

10 นาทีผ่านไป..

แอด...

เสียงประตูห้องน้ำเปิด ทำเคลหลุดออกจากความคิด หันไปมอง ก็เห็นว่าสาวน้อยร่างบางกำลังเดินตะแผลกมาหา พลางเลิกคิ้ว

" หนูไปได้หรือยังคะ "

ก่อนจะยิ้มบางๆให้กับคำถามนี้ ลุกจากเก้าอี้ แล้วดึงสูทมาใส่

" ไปพร้อมผม.."

" ห๊ะ! "

" บ้านอยู่ไหน เดี๋ยวไปส่ง "

" หนูยังไม่กลับบ้านหรอกค่ะ "

" ไม่กลับบ้านแล้วจะไปไหน"

" หางานทำ"

ในจังหวะจัดทรงเสื้อ เคลเกิดมาสะดุดเข้ากับคำนี้ ที่พาลทำให้เขาหัวเราะ

" สภาพแบบนี้เนี่ยนะ ใครเขาจะรับ รักษาตัวให้หายก่อนดีไหม "

" ก็เพราะคุณนั่นล่ะ "

" หืม.."

แล้วมาเลิกคิ้วต่อ

" เพราะผม? ผมทำไม.."

เดินเข้าไปหาคู่กรณี ถึงกับขิมทำตัวไม่ถูก

" กะ..ก็.. ขับรถมาเฉี่ยวหนู "

" ไม่ใช่ว่าหนูข้ามถนนตัดหน้าผมเรอะ!"

และก็ต้องปิดปากเงียบสนิทก็ตรงคำถามแทรกนี้แหละ

..หมอนี้ เวลาขมวดคิ้ว โคตรหลอนเลย...

เธอคิด ก่อนจะก้มหน้านิ่ง ทำเคลถอนหายใจยาว พลางยื่นมือมาจับ

" จะทำอะไรคะ "

" จะช่วยพยุงไง ถามได้ มีปัญญาเดินไปถึงรถไหมล่ะ"

" เอ่อ..."

"ไป...เดิน.."

" ไปไหนคะ "

ทำท่าจะถามต่อ แต่ทว่า..

" ถ้ายังไม่หยุดถาม ผมอุ้ม!"

" ฮ่ะ!"

ทำเอาขิมถึงกับอึ้ง ได้แต่ช้อนตามอง ทำอะไรไม่ถูก

ในขณะคิมเห็นว่าเธอไม่ก้าวเท้าสักที บวกกับเธอยังไม่เลิกสงสัย

" หนูก็แค่งงว่าคุณจะพา...ว้าย!!!"

เลยตัดสินใจอุ้มซะเลย ตัดความรำคาญ

" อยู่เฉยๆ "

" นี่ปล่อยหนูลงเดี๋ยวนี้นะ อายเค้า!"

" บอกให้อยู่เฉยๆไง "

ท่ามกลางพนักงานนับร้อยที่มองมาเป็นตาเดียวกัน หลังจากเคลเปิดประตูออกไป แล้วขิมส่งเสียงโวยวายพร้อมดิ้น แต่เขากลับไม่สนใจ แม้ว่าตอนนี้ พนักงานทั้งตึกจะลือว่าขิมคือแฟนของไปแล้ว หลังรอบสิบปีที่เขาไม่เคยพาใครมาเลยก็ตาม

=br=

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel