บทที่ 4 ความรับผิดชอบ
คุณณรงค์ถอนหายใจแล้วเริ่มเล่าเรื่องราว
"ความจริงร้านอาหารนี้เป็นของพ่อหนู เขาซื้อทันทีที่หนูมาสมัครงาน อาเป็นคนมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขารู้ว่าหนูต้องไม่ยอมรับความช่วยเหลือ เขาจึงไม่บอกใคร สมบัติทั้งหมดเขายกให้หนูคนเดียว พ่อของหนูเขาก็รู้สึกผิด เขาเห็นกล้องวงจรปิดแล้วเขารู้ว่าหนูไม่ได้ตั้งใจ วันนั้นเขาเองก็พูดแรงเกินไป ตอนนี้ท่านประธานเข้าใจแล้ว หลังจากท่านป่วยผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เอาท่านอีก ท่านหลวมตัวไปจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนั้นเพราะสงสารเด็ก ตอนนี้เรื่องมันเลยคาราคาซังทั้งทางกฎหมายและเรื่องบริษัท"
นาเดียร์ตกตะลึง เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน และตอนนี้เธอเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างแล้ว เงินประกันที่บอกเป็นของตายาย จริง ๆ แล้วอาจจะเป็นของพ่อ และเวลานั้นก็ประจวบเหมาะที่ร้านต้องการหุ้นส่วนพอดี
แต่เธอแน่ใจว่าร้านนี้เติบโตได้เพราะฝีมือเธอ ถึงพ่อจะรวยแต่พ่อก็ไม่สามารถทำให้คนรีวิวร้านอาหาร จนกลายเป็นร้านอาหารขายดีในลอนดอนได้ เรื่องนี้เพราะเธอมีฝีมือด้านการตลาด ถึงเธอจะทำอาหารไม่เก่งแต่เธอเก่งเรื่องพวกนี้
นาเดียร์เข้าใจอย่างกระจ่างแล้ว สุดท้ายเธอจึงหัวเราะต่ำ ๆ ออกมาด้วยความรู้สึกมากมาย ที่จริงพ่อไม่ได้ทิ้งเธอแต่กลับเฝ้าดูเธออยู่ห่าง ๆ และคอยช่วยเหลือเธอเสมอ แต่นาเดียร์ไม่ยอมรับ ที่เขาทำทั้งหมดก็คงเพราะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำเอาไว้
"คุณอากลับไปเถอะค่ะ มาบอกตอนนี้ได้อะไรคะ มาพูดตอนนี้มีประโยชน์อะไร เรื่องร้านก็ช่างเถอะ หนูจะถือว่าเป็นสิ่งที่หนูสร้างขึ้นมาเอง ทั้งหมดเป็นของหนู พ่อไม่เกี่ยว สมบัติของเขาหนูไม่ต้องการส่วนเมียใหม่ของเขาไม่ใช่ปัญหาของหนู ผูกเองก็ต้องแก้เองยังไงหนูก็ไม่กลับไปเด็ดขาด"
คุณณงค์ลุกขึ้น วางตั๋วเครื่องบินบนโต๊ะ
"บริษัทรอหนูกลับไปดูแล น้องชายรอหนูกลับบ้าน อาพูดจริง ๆ ด้วยสภาพของท่านประธาน หมอบอกว่าอย่างมากไม่เกินหนึ่งปี นาเดียร์โรคที่ท่านเป็นอยู่ร้ายแรงจนอาจจะทำให้ท่านเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ อาไม่อยากจะว่าหนู แต่หนูคิดหรือเปล่า ว่าน้องชายของหนูคนนั้นหนูเองก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบชีวิตเขาด้วย เขาอายุแค่ห้าปี พ่อกำลังจะตายแม่ยังไม่รับผิดชอบเห็นเขาเป็นแค่สิ่งของที่ใช้ต่อรองกับพ่อหนู ตอนนี้เด็กคนนั้นน่าสงสารมาก"
คุณณรงค์หมายถึงรับผิดชอบในฐานะพี่สาวที่ต้องดูแลน้องชาย แต่นาเดียร์คิดว่า เธอต้องรับผิดชอบเด็กคนนั้น นั่นเป็นเพราะว่าเขาอาจจะพิการก็เพราะเธอ
เธอมีส่วนที่ทำให้เด็กคนหนึ่งกลายเป็นคนพิการ สามัญสำนึกนี้กำลังเล่นงานเธออย่างหนักเด็กนี่เป็นเหมือนตราบาปที่ติดอยู่ในใจ เธอไม่อยากกลับไปเหยียบที่นั่นอีกแล้ว แต่เธอจะทิ้งเด็กพิการที่น่าสงสารคนหนึ่งได้ยังไง
คุณณรงค์กลับไปแล้ว เขาไม่เซ้าซี้เธออีกต่อไป รอให้นาเดียร์ตัดสินใจด้วยตัวเอง หญิงสาวมองตั๋วเครื่องบินบนโต๊ะอย่างลังเล สุดท้ายจึงหยิบขึ้นมาดู ในตั๋วระบุวันกลับเมืองไทยคือสัปดาห์หน้า ยังมีเวลาให้เธอได้คิดอีกหลายวัน
นาเดียร์คิดฉีกตั๋วนั้นทิ้ง แต่มือของเธอกลับชะงัก เมื่อเห็นรูปเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักใบหน้าคล้ายคลึงพ่อของเธอนั่งอยู่บนรถเข็น เด็กผู้ชายคนนี้ไม่ได้ยิ้ม ใบหน้าดูหมองเศร้าและหดหู่ นาเดียร์จ้องไปที่ขาลีบเล็กของเด็กคนนั้นแล้วจู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา
เหมือนบางสิ่งบางอย่างกระแทกเข้าสู่หัวใจของเธออย่างแรง ทำให้นาเดียร์ตัดสินใจได้ทันที ใช่อย่างน้อยเธอก็ต้องรับผิดชอบกับการกระทำในอดีต วันนั้นหากเธอไม่ผลักนภาเด็กคนนี้อาจจะมีร่างกายที่ปกติเหมือนเด็กทั่วไป
ความรับผิดชอบนี้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้จริง ๆ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา สนามบินสุวรรณภูมิ
ห้าปีแล้วที่นาเดียร์ไม่ได้กลับมาเหยียบเมืองไทยอีก ความรู้สึกในตอนนี้จึงแปลกประหลาดนัก ในขณะที่ใจหนึ่งอดหวนคิดถึงขุนพลแฟนเก่าไม่ได้
นาเดียร์ยิ้มเหยียดหยันตัวเอง
จะไปคิดถึงเขาทำไม่กัน เพราะผู้ชายคนนั้นทำให้เธอเกือบบ้าตายไม่ใช่เหรอ
นาเดียร์ลากกระเป๋ามาด้านล่างเพื่อขึ้นรถแอร์พอร์ตลิ้งไปยังสถานีพญาไท ใช้เวลาไม่นานเดินทางไม่นานนาเดียร์ก็มาถึงจุดหมาย หลังจากนั้นเธอจึงนั่งแท็กซี่ต่อเพื่อไปยังโรงแรมที่จองไว้ใกล้กับบ้านของเธอที่สุด เธอยังไม่พร้อมที่จะไปเจอหน้าพ่อและรู้สึกเหมือนบ้านหลังนั้นไม่ใช่ที่ของตัวเองอีกต่อไป นาเดียร์จึงนอนโรงแรมเพื่อตัดสินใจสักสองสามวัน
เพียงแต่ว่าเมื่อมาถึงห้องพักในโรงแรมหรู หลังจากนาเดียร์เปิดรหัสล็อกกระเป๋าของตัวเองก็ทำให้เธอประหลาดใจ เมื่อข้าวของด้านในนั้นไม่ใช่ของเธอเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
นาเดียร์งงเป็นไก่ตาแตก
"นี่มันอะไรกัน เสื้อผ้าผู้ชาย น้ำหอมผู้ชายและนี่ยังมีกางเกงในผู้ชาย นีมันอะไรกัน"
นาเดียร์ปิดกระเป๋าใบโตสีแดงเพลิง ก่อนจะพิจารณากระเป๋าอย่างถ้วนถี่ กระทั่งริบบิ้นสีดำที่เธอผูกติดกับกระเป๋าเอาไว้ยังเหมือนกันเด๊ะ เกิดเรื่องบังเอิญแบบนี้ได้ยังไงกันนะ แม้แต่รหัสเปิดกระเป๋าผู้ชายคนนั้นก็ยังใช้เหมือนเธอ
แน่นอนว่ามันคือวันเกิดเธอ ใครจะมีวันเกิดตรงกันกับเธออีก!
ในขณะที่หญิงสาวกำลังมึนงง อีกฟากฝั่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครบนคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่งก็กำลังตกใจเช่นกันเมื่อเห็นชุดชั้นในและชุดของผู้หญิงอยู่ในกระเป๋าสีแดงที่เหมือนของเขาเด๊ะ หลังจากที่เขากลับจากลอนดอนเพื่อไปติดต่อธุรกิจ
เขาแน่ใจว่าทั้งไฟล์บินนี้มีเพียงเขาที่ใช้กระเป๋าสีแดงสด และยังเป็นยี่ห้อนี้ และยิ่งประหลาดใจที่ผู้หญิงคนนี้ยังใช้รหัสเปิดกระเป๋าเหมือนกับเขาอีก
วันเกิดของผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาไม่มีวันลืม
ความจริงหลังจากรู้ว่ามันไม่ใช่ของตัวเองเขาก็ไม่สมควรเปิดดูต่อ เพียงแต่ว่ามีบางสิ่งที่ทำให้เขาสงสัยจนอดที่จะรื้อกระเป๋าของหญิงสาวนิรนามคนนี้ต่อไม่ได้ จนกระทั่งเขาเจอสิ่งที่ทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบ
รูปของเด็กชายพิการคนหนึ่งที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
ริมฝีปากหยักได้รูปสวยยกโค้งขึ้นเผยรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า เขามั่นใจว่าเจ้าของกระเป๋าใบนี้ต้องเป็นเธอคนนั้น ผู้หญิงที่ยังติดอยู่ในความทรงจำของเขามานานหลายปี
นาเดียร์ กฤษระวานิช แฟนเก่าของเขาที่หายไปนานถึงห้าปี