บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 พรนั้นสัมฤทธิ์ผล

ธันวาเกาศีรษะแกรก ๆ แล้วยื่นมือไปตบบ่าเพื่อนเบา ๆ เป็นการขอโทษเพื่อน ปกป้องคงคิดว่าเขากำลังแกล้งหรือล้อเลียนเรื่องแฟนเก่าอยู่แน่เลย "กูขอโทษนะ กูคงจะตาฝาดไปจริง ๆ นั่นแหละ"

"ตลกตายแหละ"

"แฮ่ ๆ"

"ไปแล้ว"

"เออ ๆ เดี๋ยวกูไปส่ง" ว่าจบธันวาก็ดันตัวเพื่อนรักขึ้นรถแล้วขับไปส่งเขายังจุดที่ผู้ใหญ่นวยมารับ พอมาถึงธันวาก็รีบเข้าไปสวมกอดผู้ใหญ่ไว้ด้วยความคิดถึง

"สวัสดีครับพ่อ"

"คุณธันวาไม่ได้จะขึ้นดอยกับคุณป้องเหรอครับ"

"ครั้งนี้พักก่อนครับพ่อ แล้วนี่พ่อมารอปกป้องนานแล้วเหรอครับ"

"อ๋อ ไม่นานเลยครับ พอดีพาครูอาสาคนใหม่มาซื้อของด้วยน่ะ"

"อ๋อ.."

"งั้นผมเอาของพวกนี้ขึ้นรถรอเลยนะครับ" ปกป้องยิ้มให้เพื่อนแล้วเชิดหน้าไปที่กองสิ่งของที่อยู่ท้ายรถ ธันวาเดินกระฟัดกระเฟียดมายกของขึ้นรถช่วยเพื่อนจนเสร็จ เวลาผ่านไปยี่สิบกว่านาทีที่ทุกคนยืนรอครูอาสาคนใหม่

"เลยเวลาแล้ว กูต้องไปแล้วนะ" ธันวาสวมกอดเพื่อนรักแล้วหันมายกมือไหว้ลาผู้ใหญ่นวย ก่อนจะขับรถออกไปแต่เขากลับเห็นภาพหลอนอีก ธันวาหันขวับไปมองผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าคล้ายญาณินที่กำลังถือของพะรุงพะรังเดินสวนทางมาแต่ก็ไม่ได้จอดรถดูให้แน่ใจเพราะมีรถชาวบ้านขับตามหลังมา "ผีหลอกกูไหมเนี่ย อาถรรพ์อะไรไหมวะ.."

"อ้าวครูนินมาพอดีเลย" ปกป้องที่กำลังจัดระเบียบของอยู่ท้ายรถละมือแล้วหันกลับมามองต้นทางของเสียง เขานิ่งงันไปขณะหนึ่ง เหมือนทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวและมีเพียงเขาและเธอ ญาณินยืนนิ่งเหมือนกัน เธอสะดุดลมหายใจตัวเองจนเผลอปล่อยของในมือลงพื้น

"…" หัวใจแกร่งเต้นแรงระส่ำ

'ก็ถ้ามีมันก็ดีสิ ถ้าบนดอยมีเธอกูจะไม่ลงมาเลย'

'กูยังลืมนินไม่ได้ว่ะ…หากขอพรได้กูอยากกลับไปรักนินอีก กูสัญญาจะรักษานินไว้ด้วยชีวิต'

จู่ ๆ คำพูดเขาก็ดังก้องขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้

"ครูป้องครับ ครู.." ผู้ใหญ่นวยยื่นมือมาสะกิดแขนปกป้องเพื่อเรียกสติเขา

"ครับ" ชายหนุ่มกะพริบตาแล้วหันเหความสนใจมาที่ผู้ใหญ่บ้าน "เรียกผมเหรอครับ"

"ครับ ผมเห็นครูป้องนิ่งไปเลยเรียก อ๋อ.. นี่ครับ นี่ครูญาณิน" ผู้ใหญ่นวยถือโอกาสแนะนำครูสาวคนใหม่ให้ปกป้องรู้จักทันที แต่เขาจะรู้ไหมว่าปกป้องรู้จักเธอดีกว่าใคร

"อ๋อ.. สวัสดี ผมปกป้อง" ปกป้องแนะนำตัวเองแล้วกระโดดลงจากท้ายกระบะ ญาณินยังยืนนิ่งเพราะทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นเทาเพราะคำพูดตัวเองกำลังฉายวนอยู่ซ้ำ ๆ ในหัว จนกระทั่งปกป้องเดินเข้ามายืนตรงหน้า "ไม่เจอกันนานเลยนะ"

"อะ.. อืม"

"ไม่ยักรู้ว่าอยากมาทำงานจิตอาสาแบบนี้ด้วย เห็นแต่.. เดินห้างกับเที่ยว"

"แล้วนายยุ่งอะไรด้วยล่ะ" ญาณินมองเขาตาขวางแล้วหอบของพะรุงพะรังไปขึ้นรถ

"อ่า… ปากหนอปาก ปากหมาอีกแล้วกู" เมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปจึงตีปากตัวเองเบา ๆ เป็นการลงโทษแล้ววิ่งไปหาญาณินเพื่อช่วยเธอขนของขึ้นรถจนเสร็จเรียบร้อย

"มานั่งด้วยกันเถอะครับ วันนี้แดดร้อนมาก ครูนินตัวเล็ก ๆ ครูป้องน่าจะนั่งด้วยกันได้นะครับ"

"ครับผู้ใหญ่"

ญาณินก้มมองเบาะที่นั่งก่อนจะหันกลับมามองปกป้องซึ่งเขากำลังเชิดหน้าไปที่เบาะรถเป็นการบอกเธอว่าให้เข้าไปนั่งได้แล้ว

"นินจะนั่งหลังกระบะเองค่ะ" ญาณินทำท่าจะเดินไปท้ายกระเป๋าแต่กลับถูกปกป้องรั้งแขนเอาไว้ เธอรีบสะบัดมือเขาออกแล้วหันมาเผชิญหน้าตรง ๆ

"เข้าไปนั่งในรถเถอะ เดี๋ยวฉันนั่งท้ายกระบะเอง" ว่าจบปกป้องก็กระโดดขึ้นท้ายกระบะเพราะจะได้ดูแลของด้วย คนตัวเล็กเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นแล้วก้าวเข้ามานั่งในรถ หัวใจดวงน้อยกระหน่ำเต้นไม่เป็นจังหวะจนต้องยกมือขึ้นมากุมหน้าอกข้างซ้ายไว้

'หากการเจอกันครั้งนี้เป็นโอกาสที่ฟ้าประทานมา งั้นผมจะเก็บรักษาโอกาสนี้ไว้เป็นอย่างดี'

ปกป้องเอี้ยวหน้ากลับไปมองญาณินอย่างยิ้ม ๆ แต่ในนาทีต่อมาญาณินก็เอี้ยวหน้ากลับไปมองเขาเหมือนกัน เธอสะดุ้งเล็กน้อยที่เห็นปกป้องกำลังมองอยู่จึงรีบหันกลับ

'ให้ตายสิ การเจอกันมันก็ดีอยู่หรอก แต่ทำไมต้องเจอกันในที่แบบนี้…'

เกือบสองชั่วโมงที่ผู้ใหญ่นวยพาสองหนุ่มสาวขึ้นมายังหมู่บ้าน แต่จู่ ๆ รถก็ดับอยู่กลางหุบเขาทั้งที่ไม่กี่กิโลเมตรก็ถึงหมู่บ้านแล้ว ด้วยความเป็นช่างอยู่แล้วปกป้องจึงลงไปเปิดฝากระโปรงรถดู เขาพอจะรู้สาเหตุแล้วว่าทำไมรถถึงดับ เพราะงั้นจึงเดินอ้อมมาหาญาณินแล้ววางมือค้ำประตูรถไว้พร้อมก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อจะถามเธอ

"คิดว่าเดินไหวไหม" เขาเอ่ยถามหญิงสาวเสียงเรียบ

"ทำไมเหรอ รถเป็นอะไร" แต่แทนที่จะตอบกลับญาณินกลับถามเขาแทน ปกป้องพ่นลมหายใจออกแล้วถามเธออีก

"เดินไหวไหม"

"…" เธอมองทางข้างหน้าอย่างพิจารณาก่อนจะพยักหน้าให้คำตอบปกป้อง "ก็ไหว.." ทันทีที่ได้คำตอบปกป้องก็เปิดประตูรถให้เธอเลย ญาณินทำหน้ามึนงงแต่ก็ก้าวลงจากรถ

"รถหม้อน้ำรั่ว ถ้าซ่อมก็คงเป็นพรุ่งนี้ถึงจะขับได้ ผู้ใหญ่โอเคใช่ไหมครับ เดินไหวนะ" ญาณินกำลังจะพูดแต่เขากลับหันไปสนใจผู้ใหญ่นวยเสียก่อน เธอจึงปิดปากเงียบ

"โอเคมากเลยครูป้อง ว่าแต่สองคนนี้รู้จักกันมาก่อนเหรอครับ ทำไมเหมือนสนิทกันจัง?" ชายหนุ่มหรี่ตามองคนตัวเล็กแล้วยกยิ้มมุมปาก

"รู้จะ.."

"ไม่รู้ค่ะ" ญาณินแย่งตอบแล้วเดินกระแทกไหล่เขาไป เธอสะพายกระเป๋าคู่กายเดินไปเรื่อย ๆ

"ครับ ตามนั้น" ปกป้องยิ้มให้ผู้ใหญ่นวยแล้วเดินตามหลังญาณินไปติด ๆ "จากนี้ไปถึงหมู่บ้านก็สามกิโลเมตรได้ ไหวแน่นะ"

"ไหวดิ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น" ญาณินตอบกลับแบบไม่หันมามองหน้าปกป้อง

"อืม แบบนั้นก็ดี" ว่าจบชายหนุ่มก็เดินนำไปก่อนเลยไม่เห็นว่าอีกฝ่ายเบ้ปากใส่

หลายนาทีที่สามคนเดินมาทั้งแดดก็ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ แม้ลมก็ยังไม่พัดมาเลย ปกป้องเปิดขวดน้ำดื่มดับกระหายแล้วหยุดเดินกะทันหันจนคนที่ตั้งหน้าเดินตามหลังมายั้งเท้าไม่ทัน ญาณินกระแทกหลังปกป้องจนเซไปด้านหลังแต่ด้วยความไวปกป้องจึงคว้าเอวคอดไว้ได้ทัน

"มองทางข้างหน้าบ้าง หรือกำลังเหม่อลอยอยู่"

"ใครเหม่อ" มือเรียวบางปัดมือหนาออกจากเอวแล้วขยับออกห่างจากเขา

"นี่น้ำ" เขายื่นขวดน้ำให้ญาณินแต่เธอกลับปฏิเสธด้วยการเดินต่อ "ฮึ.." ปกป้องหัวเราะในลำคอกับความอวดดีของอีกฝ่ายแล้วเก็บขวดน้ำไว้ที่เดิม

'แม้ไม่ได้เจอกันหลายปี นิสัยใจคอเธอก็ยังเหมือนเดิม… ทำให้ภาพเหตุการณ์ในวันวานฉายเข้ามาในหัวเขาซ้ำ ๆ ทั้งภาพที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นและภาพบางภาพที่สมองเขายังจดจำ'

"มาปวดอะไรตอนนี้เนี่ย.." ญาณินหยุดยืนแล้วบิดซ้ายบิดขวา ปกป้องเลิกคิ้วถามเธอแต่กลับได้เพียงความเงียบกลับมา

"ไปไหน เดี๋ยวตกเขา" มือหนาคว้าเรียวแขนเล็กไว้

"ปวดฉี่.."

"… อืม" เขาไม่ยอมปล่อยมือเธอขณะที่กวาดสายตามองไปรอบ ๆ "ตรงนั้น ระวังด้วย" ญาณินสะบัดมือเขาออกแล้วเดินไปทำธุระส่วนตัวตรงที่ปกป้องชี้ให้มา ทั้งอายทั้งปวดฉี่ เธอเลือกไม่ได้จริง ๆ ปกป้องหันหลังให้เธอและยืนรออยู่พักหนึ่งในขณะที่ผู้ใหญ่นวยล่วงหน้าไปก่อนแล้ว "เสร็จหรือยัง"

"เสร็จแล้ว" ญาณินเดินออกมาพลางเกาหางคิ้วเบา ๆ เพราะความเขิน

"กางเกง" ปกป้องพูดขึ้นโดยไม่หันมาสบตากับตัวเล็ก

"ทำไม"

"ลืมรูดซิป"

"โอ๊ะ!"

"ยังขี้ลืมเหมือนเดิมสินะ"

"ยุ่ง!"

"ฮึ.."

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel