บท
ตั้งค่า

บทนำ -2

ปาร์ตี้ถูกจัดขึ้นในบาร์ของโรงแรม เป็นบาร์สไตล์โมเดิร์นลัคชูรี่ ตกแต่งอย่างเรียบหรูทันสมัย บรรยากาศไฮคลาสสมกับเป็นงานปาร์ตี้แบบส่วนตัว

เฮียคนนั้นควงพวกผู้หญิงสี่คนไปที่โซฟายาว มีผู้ชายทรงดีที่ต่อให้เห็นรายละเอียดบนหน้าไม่ชัดเจนเพราะแสงไฟค่อนข้างสลัวก็ยังรู้สึกได้ถึงรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาที่ยากจะปฏิเสธ คำว่าหล่อยันเงาไม่เกินจริงเลย

“มาๆ เดี๋ยวเฮียแนะนำให้รู้จักกับน้องชายเฮีย นี่ริกกี้ ฮาน เรซ และก็...”

ฉันที่เดินผ่านมาทางนี้ได้ยินเสียงคุณเฮียตะโกนพูดกับสาวสวยสี่คนที่หนีบอยู่ในวงแขนทั้งสองข้าง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินอะไรอีก แต่เห็นพวกผู้หญิงแยกตัวออกไปนั่งเอาอกเอาใจสองในสี่คนนั้น ส่วนอีกสองคนยังเกาะหนึบอยู่กับเฮีย แต่ไม่นานก็มีผู้หญิงอีกสองคนเข้าไปเติม นั่งขนาบข้างผู้ชายอีกสองคนที่เหลือ

“ว่าไงคนสวย”

ฉันกำลังมองหาเป้าหมายตามหน้าที่เอนเตอร์เทน ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาทัก มองจากบรรยากาศรอบตัวและการแต่งกายที่ไม่หรูหรา แค่เสื้อยืดลายสกรีนตัวอักษร ‘RED☀️SUN’ กับกางเกงยีนขาดเข่าข้างหนึ่ง ก็รู้ว่าเขาเป็นแค่หนึ่งในตัวประกอบของงาน แต่ฉันไม่รังเกียจสักนิด ส่งยิ้มหวานทักทายอย่างเป็นงาน

“สวัสดีค่ะ... สีผมสวยดีนะคะ”

“อ้อนี่น่ะเหรอ” เขาเอามือข้างที่ไม่ได้ถือกระป๋องเบียร์จับผมตัวเอง

ฉันเหลือบมองเส้นผมสีฟ้าอมเทาที่สะดุดสายตาก่อนอันดับแรก เป็นสีที่เข้ากับใบหน้าผอมเรียวของเขามาก ถึงที่แก้มจะมีรอยเปื้อนคล้ายคราบน้ำมันเครื่องและแต่งตัวมอซอเมื่อเทียบกับคนอื่นที่อยู่ในบาร์แต่กลับดูมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ แถมแววตาซุกซนนั่นยังช่วยให้บรรยากาศรอบตัวเขามีชีวิตชีวา คุยด้วยแล้วไม่รู้สึกอึดอัด

ถึงแม้ลุคของเขาจะเทียบคนบนโซฟาไม่ติดแต่องค์รวมก็ไม่ได้แย่เลย อ๊ะ! แล้วนี่ฉันจะเอาเขาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นทำไมนะ

“ทำร้านไหนเหรอ สีเนียนมากเลย”

“อยากรู้เหรอ” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ปลายจมูกคมสันอีกนิดเดียวก็จะชนกับหน้าฉันอยู่แล้ว ฉันเอนตัวออกห่างอัตโนมัติ เป็นปฏิกิริยาของร่างกายน่ะ ไม่ได้ตื่นกลัว คาดว่าคนอื่นที่อยู่ในสถานการณ์นี้ก็คงทำแบบเดียวกัน

“อะอืม ถามเป็นข้อมูลน่ะ เผื่ออยากเปลี่ยนสีผม” ฉันแกล้งพูด รักษารอยยิ้มเอาไว้บนใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด

“ดื่มก่อนสิ แล้วจะบอก” เขายื่นกระป๋องเบียร์มาให้ ฉันเหลือบมอง แกล้งทำเป็นไม่ไว้ใจ ทั้งที่จริงๆ ก็รู้สึกแบบนั้นแหละ แต่เมื่อรักจะทำงานสุ่มเสี่ยงแบบนี้มันก็ต้องรู้จักมีลูกเล่นเพื่อการเอาตัวรอด

“ไม่ใส่อะไรหรอกน่า ไม่ต้องห่วง ที่นี่ห้ามใช้สารเสพติด”

เขาพูดเมื่อเห็นฉันมีสีหน้าลังเล น้ำเสียงที่อธิบายก็เต็มไปด้วยความล้อเล่นไม่จริงจัง แยกไม่ออกว่าพูดจริงหรือแค่พูดเพื่อหลอกให้ฉันสบายใจ

อืม… แต่โมเดลลิ่งของช่อฟ้าก็มาตรฐานสูงอยู่เหมือนกัน ทั้งลูกค้าและบรรดาสาวๆ ในโมเดลลิ่ง เชื่อไหมว่าก่อนรับงาน เจ๊แกถึงกับขอใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์จากทุกคน ซึ่งเป็นใบรับรองปลอมๆ ที่ให้หมอคลินิกเซ็นไม่ได้ด้วยนะ ต้องตรวจจริงเท่านั้น แล้วค่อยเอาใบเสร็จค่าตรวจร่างกายไปขอเงินคืนทีหลังกับโมเดลลิ่ง มันดีตรงนี้แหละ ทุกคนก็เลยให้ความร่วมมือเพราะต่างก็อยากได้ความชัวร์กันทั้งนั้น

ฉันทำงานกับช่อฟ้าสามสี่ครั้งแล้ว ปกติจะรับงานรีวิว พริตตี้บ้าง แต่หลังๆ ไปช่วยฟิตเนสก็จะสิงอยู่ที่ยิมเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่ามีลูกค้าชวนไปต่อบ้างแต่ฉันปฏิเสธก็จบ ส่วนงานเอนเตอร์เทนนอกสถานที่แบบนี้เจ้าอื่นก็เคยรับ รอบแรกเป็นนักกีฬา รอบสองเป็นบอร์ดบริหารของบริษัทหนึ่ง รอบสามเป็นกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติ… ซึ่งสองรอบแรกฉันยังใหม่ ก็เกือบจะโดนหิ้วขึ้นห้องแล้วเหมือนกัน โชคดีที่เอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด รอบที่เป็นชาวต่างชาติสบายหน่อยแค่บริการบนโต๊ะอาหาร กินดื่มเสร็จก็แยกย้ายกันไป ส่วนใครจะแลกเบอร์ติดต่อกันภายหลังอันนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว

รอบที่ทำกับพี่ช่อฟ้า ครั้งหนึ่งเหมือนจะเป็นกองถ่ายหนังสักเรื่องมั้ง พวกผู้กำกับ คนที่ทำงานเบื้องหลัง ดื่มฉลองหลังปิดกอง แล้วก็อยากได้สาวๆ ไปเอนเตอร์เทน อันนี้มีเมคเลิฟกันสดๆ กลางห้องเลย พอคนหนึ่งเริ่ม คนที่เหลือก็ของขึ้นตามๆ กัน ส่วนฉัน… เหอะๆ ยัดอาหารใส่ปากแล้วอมเอาไว้ พอจะจูบก็ทำทีพะอืดพะอมอ้วกต่อหน้าผู้ชายที่เข้ามาคลอเคลีย แค่นั้นก็หมดอารมณ์จะทำกับฉันแล้วล่ะ

แน่นอนว่ารอบนั้นก็มีตรวจร่างกายก่อนรับงานแต่ไม่มีเอกสารยินยอมให้เซ็นเหมือนครั้งนี้ ซึ่งคิดไปมันก็แปลกนะ เพราะมันก็น่าจะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า One Night Stand คงไม่มีใครมานั่งเรียกร้องหลังจากที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจากงานเอนเตอร์เทนนี่หรอก

“หรือว่าไม่ชอบจะเปลี่ยนเป็นค็อกเทลแทน”

เสียงของคนตรงหน้าฉุดฉันออกจากความคิดในหัว กะพริบตามองอย่างรู้สึกสนใจ

“ก็ดีเหมือนกัน” ฉันพูดพลางหันหน้าไปมองทางบาร์ที่มีบาร์เทนเดอร์หน้าตาดียืนประจำอยู่หนึ่งคน ระหว่างนั้นเขาที่ยังไม่รู้แม้แต่ชื่อก็เข้ามาโอบเอวฉันเพื่อจะไปที่เคาน์เตอร์บาร์ ทว่าเดินได้ไม่กี่ก้าวก็มีเสียงตะโกนเรียกดังแทรกขึ้นมา

“เฮ้ยแฮค! มานี่หน่อยสิวะ”

เสียงดังมาจากทางโซฟายาวที่มีเฮียร่างท้วมกับผู้ชายทรงดีนั่งกองกันอยู่ เล่นเอาแปลกใจเลยแฮะ ไม่คิดว่าเขาจะโดนเรียก แล้วทำไมสายตาที่มองมาทางนี้ถึงดูรุนแรงแปลกๆ โดยเฉพาะพวกผู้หญิง จำเป็นต้องจ้องกันตาคมบาดเลือดกันขนาดนั้นด้วยเหรอ หมอนี่ก็แค่เด็กที่มีกลิ่นน้ำมันเครื่องติดตัวธรรมดาๆ ไม่ใช่หรือไง

เขาที่ถูกเรียกว่า “แฮค” เปลี่ยนทิศทาง รั้งเอวฉันไปฝั่งโซฟาแต่ฉันไม่อยากไปนั่งเบียดกับคนอื่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel