แพ้ทางรัก ครั้งที่ 3
‘เข้าทางไอ้กันล่ะครับงานนี้’
คิดได้ดังนั้นมือขาวๆ ค่อยๆ บิดลูกบิดประตูเปิดแง้มเล็กน้อยสอดส่องดูความเรียบร้อยด้านในอีกครั้ง และผลปรากฏว่า ด้านในโล่ง ว่างเปล่า ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่ในนั้น ผมจึงรีบเบียดกายเข้าไปในห้องน้ำ เลือกห้องน้ำห้องสุดท้ายที่คิดว่าวิวดีที่สุดในการถ้ำมองเพราะมันติดกำแพงหากพวกใจกล้าบ้าบิ่นพวกนั้นจะทำเรื่องอย่างว่ามันต้องมีตัวช่วยอย่างเช่นกำแพง
เป็นไงความคิดด้านอัปรีย์ผมเลิศใช่มั้ย?
ไม่ต้องชมเพราะพวกไอ้เพื่อนรักทั้งสองชมจนผมชินเสียละ
“เมื่อไหร่จะมาสักทีวะ” หลังจากที่เข้ามารอในห้องน้ำเรียบร้อย ผมก็ยืนจับเวลาอยู่ในใจ รู้สึกจะผ่านไปแล้วสิบนาทีก็ยังไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดๆ ย่างกรายเข้ามาเลยสักคน “หรือว่ามึงจะโดนหลอก” และเป็นอีกครั้งที่ผมคิดเรื่องนี้
ไอ้มะนาวบอกว่าพวกรุ่นพี่ลือกัน แต่ทำไมผมยังไม่เห็นเงารุ่นพี่เลยสักคน หรือว่าผมหื่นอยู่คนเดียวที่แอบย่องมาถ้ำมองแบบนี้วะ
ไม่ๆ ไม่มีทางที่สายเลือดลูกผู้ชายแท้จะพลาดเรื่องพวกนี้ สงสัยต้องมีวิธีซุ่มมองวิธีอื่นที่ผมคาดไม่ถึงก็ได้ อย่างเช่น ติดกล้อง ในห้องอาบน้ำแห่งนี้
แอ้ด~
และจังหวะที่ผมกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงคนเปิดประตูห้องอาบน้ำก็ดังขึ้น มันมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่โคตรจะแผ่วเบาราวกับไม่ได้ใส่รองเท้าหรือไม่ก็คนที่เข้ามาต้องเป็นคนที่ตีนเบาสุดๆ
ซ่า~
และหลังจากนั้นก็มีเสียงน้ำไหลกระทบพื้นกระเบื้องดังขึ้น
ฉิบหาย!
หวังว่าคงไม่ใช่อาจารย์คนใดคนหนึ่งประจำคณะบริหารมาคึกอาบน้ำตอนช่วงบ่ายแบบนี้หรอกนะ ไม่งั้นผมอาจจะซวยก็เป็นได้ และเมื่อคิดได้แบบนั้นเหงื่อผมก็ไหลย้อยท่วมตัวไปหมด มันทั้งประหม่า หวาดกลัวและมีความอยากเผือกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่าใครคือคนต้นเสียงน้ำไหลนี้
และไม่ต้องคิดอะไรแล้วนาทีนี้ ผมค่อยๆ แง้มประตูห้องที่ผมอยู่ออกช้าๆ และเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดีที่มีเสียงน้ำไหลดังกลบเสียงถอนกลอนประตูเลยทำให้คนที่อยู่ด้านนอกยังไม่สงสัยอะไร
“เชร็ดดดด” และสิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมสบถคำหยาบหลุดออกมา
พร้อมกับปากที่อ้าค้างเมื่อเห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่โคตรจะขาว เนียน เซ็กซี่ น่าสัมผัส กำลังถูกสายน้ำค่อยๆ ไหลผ่านรอยสักรูปพระจันทร์เสี้ยวที่มีลวดลายแปลกๆ ตรงกลางคล้ายๆ รูปพระอาทิตย์ดวงเล็กๆ
เป็นรอยสักที่แปลกดี แต่ทำเอาผมมองแล้วถึงกับละสายตาไปไหนไม่ได้
“หึ”
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เหมือนผมได้ยินเสียงใครหัวเราะ แต่ในห้องนี้มีแค่ผมกับไอ้คนที่อาบน้ำไม่ใช่เหรอวะ แล้วผมก็ไม่ได้หัวเราะด้วย งั้นอย่าบอกนะว่าไอ้ที่มันยืนอาบน้ำอยู่หัวเราะผม แต่มันยังไม่หันหน้ามาทางผมเลย มันจะรู้ได้ยังไงว่าผมแอบดูมันอยู่
“0_0” ผมถึงกับตาค้าง ปากค้างยิ่งกว่าเดิม เมื่อไอ้คนที่มันยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวหันข้างเข้าหากำแพง ทำให้ผมเห็นสัดส่วนมันแทบจะทุกส่วนแม้จะแค่ซีกซ้ายแต่เชื่อเถอะว่าสิ่งที่มหึมาที่ทำให้ผมถึงกับตะลึงงันนั้นมันตราตึงสายตาผมโคตรๆ
“ไม่ต้องแอบแล้วมั้งครับ”
เห... เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันพูดกับผมหรือเปล่าวะ
“เชี่ย!” และเมื่อผมได้สติถึงได้รู้ว่าประโยคเมื่อกี้คนที่กำลังยืนอาบน้ำอยู่มันพูดกับผมจริงๆ เพราะบานประตูมันเปิดอ้ากว้างออก อาจจะเพราะตอนที่ผมเห็น
‘มังกรผงาด’ ของมันเลยเผลอปล่อยมือจากบานประตูทำให้ประตูไม่มีอะไรยึดเลยเปิดออกเองอัตโนมัติ
“คะ ใครบอกว่าผมแอบมอง” ลิ้นผมพันกันมั่วซั่วไปหมด แม้อยากจะเถียงออกไปแต่ก็ยังคิดคำเถียงไม่ทัน
“ทำไมต้องหน้าแดง ผู้ชายมั้ยเรา?”
“เฮ้ย! อย่าเข้ามานะเว้ย!”
แล้วผมเป็นเชี่ยไรวะครับ แค่ไอ้ชีเปือยตรงหน้าทำท่าทางเหมือนจะเดินเข้ามาหาผม ผมถึงกับเหงื่อแตกพลั่กยิ่งกว่าเดิม แถมยังตัวสั่น ใบหน้านี่เห่อร้อนราวกับอยู่ห้องซาวน่ายังไงยังงั้น