แพ้ทางรัก ครั้งที่ 1
@มหาวิทยาลัย KR
“วี้ดวิ้ววววว~”
“ผู้สาวครับ ทำไมน่ารักแต๊”
“ความขาวเธอมันแยงตาพี่ ถ้าจะให้ดีช่วยมาแทงใจพี่ด้วยได้ไหมคนดี / ฮิ้ว~”
เนี่ยแหละชีวิตเด็กมหาลัยปีสามสาขาศิลปะศาสตร์อย่างผม
‘พู่กัน’ พันธกันต์ เลิศสิระ คนแมนแห่งเด็กศิลป์ ที่ได้ฉายา ‘จิตกรมือโปรโคตรเทพ’ เอ่อ ไอ้โคตรเทพน่ะผมเติมเอาเองนะครับ พอดีว่าแค่มือโปรมันธรรมดาไป พอได้โคตรเทพมาต่อแล้วมันเท่กว่า
ผมเป็นเด็กกำพร้ามีน้องสาวหนึ่งคน แต่เอาเป็นว่าเรื่องอดีตของผมไม่ต้องอยากรู้กันตอนนี้หรอกครับ เพราะผมกำลังฟินกับการหลีสาวไปทั่วอยู่ ไม่อยากทำลายบรรยากาศตัวเอง
“เมื่อไหร่คู่ขามึงจะมาสักทีวะไอ้กัน” เสียงไอ้พจน์ถามขึ้น
ไอ้นี่ชื่อจริง พจมาน คือชื่อนี้จริงๆ นะครับ ผมไม่ได้แกล้งมันเลยจริงๆ
“มึงกำลังล้อชื่อกูว่า พจมานในใจอยู่อีกแล้วใช่มั้ย? ไอ้เชี่ยกัน”
ไอ้เวรนี่! พูดขัดแบบนี้คนอ่านก็หาว่าผมเป็นเด็กเลี้ยงแกะสิวะ!
“ก็มึงชื่อพจมานจริงมั้ยวะ” ผมรีบหันไปเลิกคิ้วถามไอ้พจน์ทันที
ไอ้นี่เป็นเพื่อนเซคเดียวกันกับผม ถามว่าสนิทมั้ยก็คบได้ เพราะพวกเราเกรียนและหล่อเหมือนกัน แต่มันหล่อน้อยกว่าผมนะ ผมน่ะสาวติดตรึมกว่ามันหลายเท่า
“กูชื่อ พจนิน สาสสส”
อ้าว! นี่ผมจำชื่อเพื่อนผิดเพี้ยนไปเหรอวะ แต่พจนิน พจมาน มันก็พจคล้ายๆ กันมั้ยวะ ช่างแม่มเรื่องนี้เถอะ เอาเป็นว่ากลับไปเข้าคำถามที่ไอ้พจน์ถามผมค้างไว้ดีกว่า ที่มันถามว่า คู่ขาผมไปไหนน่ะ
“เมื่อไหร่มึงจะเลิกเรียกกูกับไอ้มะนาวว่าคู่ขากันสักทีวะ แค่ยัย ‘น้ำ’ จับกูจิ้นแค่คนเดียวก็ปวดประสาทจะตายห่าอยู่แล้ว”
ผมทำหน้าเบื่อหน่ายทันทีที่คิดถึงหน้าใสๆ ของ ‘สีน้ำ’ น้องสาวที่มีนิสัยจิ้น ช-ช ด้วยกัน อายุห่างผมสามปี ผมยี่สิบเอ็ด ส่วนยัยนั่นสิบแปด
และที่ไอ้พจน์เรียกผมกับมะนาวว่าเป็นคู่ขากันก็มาจากความจิ้นของยัยสีน้ำตัวดีนั่นแหละ เพื่อนไปบ้านทีไรชอบแนะนำว่าผมกับไอ้มะนาวมีซัมติงกันตลอด จนใครๆ ที่อยู่ในกลุ่มแก๊งค์เดียวกับผมและเคยเจอน้องสาวผมต่างก็เรียกผมกับไอ้มะนาวว่าคู่ขาตามยัยน้องตัวแสบกันไปหมด
“จุดธูปเรียกกูทำซากไรวะไอ้พจมาน”
นั่นเห็นมั้ย ใครๆ ก็เข้าใจเหมือนผมว่าไอ้นี่ชื่อพจมานไม่ใช่พจนิน
“พจมานพ่องมึงเหรอคู่ขาไอ้กัน”
แล้วไอ้พจน์ก็มอบฝ่ามือพิฆาตรใส่หัวไอ้มะนาวไปหนึ่งดอก
‘มะนาว’ หรือนาย ปรเมทย์ เป็นเพื่อนสมัยมัธยมผมเอง แค่บอกว่าเพื่อนมัธยมแล้วตอนนี้ผมอยู่ปีสามและเรายังคบกันอยู่ก็น่าจะรู้นะว่าพวกเราซี้ปึ๊กกันแค่ไหน
“ใครใช้ให้เล่นหัว เดี๋ยวหมดหล่อ”
“ตรรกะบ้านป้ามึงเหรอวะไอ้นาว”
ผมนั่งมองไอ้พจน์กับไอ้มะนาวเถียงกันเงียบๆ เวลาสองคนนี้เจอกันทีไรเป็นต้องลิ้นกับฟันทุกที กัดกันได้ทุกวี่ทุกวัน เรื่องขี้เล็บมันยังขุดมากัดกันได้ ดีที่มันสองคนไม่ได้เรียนเซคเดียวกัน ไม่งั้นผมคงประสาทแดกยิ่งกว่านี้
“เออไอ้กันกูได้ยินข่าวแว่วๆ ว่ะ” มะนาวเลิกสนใจไอ้พจน์เดินมานั่งข้างผม
“ข่าวลือไรมึงวะ จะกั๊กเพื่อ? บอกมาอย่ามาอม”
“อมไรของมึง กูแค่กลืนน้ำลายคอมันแห้ง”
แหม~ ไอ้จอมแถประจำปีสองพันสิบแปด ไอ้มะนาว ไอ้เพื่อนขี้เก๊ก!
“อย่าบอกนะว่าข่าวเดียวกัน” และไอ้คนที่หลุดวงโคจรไปก่อนหน้าก็เดินมานั่งข้างไอ้มะนาวอีกคน
ไอ้พวกห่านี่เป็นไรนักหนาวะ ม้านั่งก็ใช่ว่าจะว่างแค่ตัวที่ผมนั่งเปล่า? ตัวข้างผมก็เหลือจะมานั่งเบียดให้ก้นติดกันทำซากอะไรของพวกมัน
“กูตกข่าวอะไรไปเปล่าวะ ทำไมขนาดไอ้พจน์ผู้ไม่สอดรู้สอดเห็นยังรู้” ผมแซะเพื่อนทันทีที่มีโอกาส มันน้อยไงครับที่ผมจะกัดไอ้พจน์สำเร็จ เวลามีโอกาสมันก็ต้องคว้าไว้บ้าง แม้จะนานๆ ทีผมก็สะใจ!
“มึงจะเล่าหรือให้กูเล่า” มะนาวมันคงจะรำคาญความขี้เผือกของไอ้พจน์เลยหันไปถามเสียงเนือยๆ หน้าแม่งเหมือนเหม็นขี้หน้าไอ้พจน์มากเลยเพื่อนนาว
“มึงเล่าดีกว่า กูถนัดฟัง” ไอ้พจน์ว่ามาแบบนั้น มะนาวเลยเป็นคนสานต่อ
“คืองี้นะ เมื่อกี้ตอนกูเดินผ่านตึกบริหาร กูได้ยินพวกรุ่นพี่เขาบอกว่าวันนี้ช่วงบ่ายๆ จะมีหนังสดฉายที่ห้องอาบน้ำจารย์ประจำภาคบริหารเว้ย!”
ผมที่ได้ฟังถึงกับตาโตยิ่งกว่าไข่ห่าน!
อะไรวะนี่มันมหาลัยนะเว้ย!