ตอนที่ 2 ความสุขของฉันคือการกิน
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแพรพธูก็มายืนเอียงซ้ายเอียงขวาดูความเรียบร้อยของตัวเองอยู่หน้ากระจกเงาบานยาวในห้องนอน ร่างอวบอ้วนของเธออยู่ในชุดเซ็ทผ้าฝ้ายสีเขียวขี้ม้าตัดกับผิวที่ขาวเนียนอมชมพู กางเกงขายาวเอวสูงใส่ทับเสื้อตัวในที่เป็นสายเดี่ยวคอแหลมไม่ลึกจนเกินไปและสวมเสื้อคลุมตัวยาวทับอีกที ถึงเธอจะอ้วนแต่ก็เข้าใจหาเสื้อผ้าที่สาวอวบใส่แล้วดูดีน่ารักเหมาะสมกับรูปร่างอย่างมาก
ใบหน้ากลมด้วยแก้มที่ยุ้ยออกมาถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบาง ๆ พองาม เธอเป็นคนหน้าหวานตาคมกลมโตขนตาดำงอนงามเป็นธรรมชาติ จมูกโด่งเรียวปลายเชิดขึ้นเหมือนคนดื้อรั้น เธอหวีผมที่ยาวสยายถึงกลางหลังแล้วฉีดน้ำหอมกลิ่นอ่อน ๆ ที่หลังใบหูและข้อมือเสร็จก็เดินไปคว้ากระเป๋าถือบนโต๊ะหัวเตียงมาสะพายไว้ที่ไหล่แล้วเดินออกจากห้องไปรอพ่อที่ห้องโถงทันที
“ ลูกสาวป๊าสวยจัง นี่ถ้าหนูผอมลงสักยี่สิบโลจะต้องสวยจนป๊าต้องซื้อปืนไว้กันพวกหนุ่ม ๆ มาจีบแน่เลย ” เถ้าแก่พงษ์เดินออกมาหาลูกสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขามักจะพูดแบบนี้กับลูกสาวเสมอเพราะหวังว่าเธอจะมีแรงบันดาลใจที่จะลดน้ำหนักลงบ้าง
“ งั้นหนูไม่อยากผอมแล้วค่ะป๊า กลัวป๊าลำบากต้องมานั่งคุมแจ ไปกันเถอะค่ะหนูเริ่มจะหิวแล้วนะเนี่ย ” แต่ทุกครั้งที่พูดกลับไม่มีผลอะไรกับแพรพธูได้เลย เธอยังคงยืนยันคำเดิมว่า
“ ความสุขของเธอคือการได้กินของอร่อย ๆ ที่เธอชอบและของชอบของเธอก็มีมากมายเสียด้วยสิ ” เถ้าแก่พงษ์ถอนลมหายใจยาวแล้วส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
“ ชาตินี้ป๊าจะมีหลานกับเขามั้ยนี่ เฮ้อ ” แพรพธูค้อนขวับให้ผู้เป็นพ่อ
“ โธ่ป๊าก็ หนูไม่พูดด้วยแล้ว ” พูดจบก็สะบัดก้นอวบ ๆ เดินนำหน้าออกไปที่โรงรถ เถ้าแก่พงษ์ได้แต่ยิ้มมุมปากแล้วเดินตามลูกสาวออกไป
ณ ห้องอาหารโซนเอาท์ดอร์ในสวนอาหารแห่งหนึ่ง
บริกรเดินนำเถ้าแก่พงษ์และแพรพธูไปที่โต๊ะในสวนใกล้กับน้ำตกจำลองที่เถ้าแก่ได้โทรจองเอาไว้ล่วงหน้า เธอนั่งลงบนเก้าอี้ที่บริกรหนุ่มเลื่อนให้และกล่าวขอบคุณอย่างมีมารยาท
เธอมองไปรอบ ๆ บริเวณสวนกับน้ำตกจำลองที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามพลางคิดในใจระหว่างรอแขกของพ่อ
“ ใครกันนะเพื่อนของป๊าทำไมดูเหมือนมีอะไรเป็นพิเศษยังไงก็ไม่รู้ ” พ่อของเธอเลี่ยงออกไปยืนคุยโทรศัพท์ครู่หนึ่งก็กลับมานั่งเก้าอี้ข้างเธอ และไม่ถึงห้านาทีคำตอบที่เธออยากรู้ก็เดินเข้ามา
“ สวัสดีค่ะเฮียพงษ์ นุชไม่ได้มาช้าใช่มั้ยคะ แล้วนี่ลูกสาวเฮียใช่รึเปล่าคะหน้าตาน่ารักเชียว ” เสียงทักทายหวานใสดังมาจากหญิงวัยกลางคนรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาดีตรงหน้า
“ ไม่ช้าหรอกครับนุช นี่ลูกสาวเฮียเองที่เคยเล่าให้ฟังไง แพรสวัสดีน้านุชสิลูก น้านุชเขาเป็นหุ้นส่วนปั๊มสาขาใหม่ของเรายังไงล่ะ ” เถ้าแก่พงษ์หันมาบอกลูกสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอสังเกตุแววตาของผู้เป็นพ่อดูจะมีความสุขมากเมื่อมองหน้าคุณน้านุช มันเหมือนแววตาที่พ่อเคยมองแม่ของเธอในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่มีผิด
แพรพธูลุกขึ้นยืนแล้วยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม
“ สวัสดีค่ะคุณน้า ” ทักทายเสร็จเธอก็รอให้ผู้ใหญ่นั่งลงก่อนจึงเตรียมจะนั่งตาม พลันสายตาก็ปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มหล่อคมเข้มคนหนึ่งที่กำลังเดินตรงเข้ามาที่โต๊ะของเธอ ทำให้แพรพธูยังคงตกตะลึงยืนนิ่งมองโดยไม่ได้นั่งลงเสียที
“ อ้าวปราบก็มาด้วยรึ กลับมาเมื่อไหร่กันเห็นว่าไปดูงานที่ร้านอาหารของพ่อที่อินเดียไม่ใช่รึ มา ๆ นั่งๆ เดี๋ยวลุงสั่งให้บริกรเข้าจัดอาหารมาเพิ่มอีกชุด ” เถ้าแก่พงษ์ร้องทักชายหนุ่มที่เธอยืนมองด้วยความดีใจแกมแปลกใจ เธอจึงได้รู้ว่าผู้ชายโคตรหล่อที่ทำเอาหัวใจสาวอวบผู้ไม่เคยสนผู้ชายคนไหนนอกจากอาหารตรงหน้าถึงกับเต้นรัวแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอก เขาชื่อ ปราบ!...
