ตอนที่ 1 ยัยหมูแพรพธู
ร่างตุ้ยนุ้ยของหญิงสาวนามว่าแพรพธูนั่งกินขนมขบเคี้ยวอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ภายในห้องกระจกติดแอร์ที่ใช้เป็นออฟฟิศของปั๊มน้ำมันชื่อดังขนาดใหญ่ ปั๊มน้ำมันของพ่อเธอตั้งห่างจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ออกมาไม่มากนักติดถนนสายเอเชีย ภายในบริเวณปั๊มมีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านเสื้อผ้าและคาเฟ่กาแฟไว้บริการอย่างครบครัน
แพรพธูเป็นลูกสาวคนเดียวของเถ้าแก่พงษ์กับเจ้เพียงเพ็ญ จึงทำให้ทั้งคู่รักและตามใจลูกสาวมาก เธอถูกเลี้ยงมาเหมือนไข่ในหิน และด้วยความเป็นเด็กที่ชอบกินและกินเก่งมากป๊ากับม๊ายัดอะไรเข้าปากเป็นกินหมดไม่เคยเกี่ยง จึงทำให้เธออ้วนตุ้ยนุ้ยไขมันพอกพูนน้ำหนักพุ่งเกินเจ็ดสิบกิโลกรัมในวัยเพียงยี่สิบสี่ปี จนเธอไม่กล้าจะขึ้นชั่งน้ำหนักอีกแล้วในปัจจุบัน เพราะเกรงว่ากิโลชั่งน้ำหนักอาจจะแตกหักเสียหายเอาได้หากเธอขึ้นไปเหยียบมัน
แม่ของแพรพธูจากไปตั้งแต่เธอยังเรียนอยู่มัธยมต้นด้วยโรคมะเร็งร้าย พ่อเธอเสียใจมากตั้งแต่แม่ตายไปเธอไม่เคยเห็นพ่อมองผู้หญิงคนไหนเลย ตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนกิจการใหญ่โตรุ่งเรืองส่งเธอจนเรียนจบมหาวิทยาลัย และเมื่อเรียนจบพ่อก็ให้เธอมาช่วยงานที่ปั๊มไม่ยอมให้เธอออกไปทำงานที่อื่นด้วยความหวงและห่วงลูกสาวคนเดียว ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่าพ่อจะหวงไปทำไม ต่อให้ไม่หวงก็ไม่มีกล้าใครมาจีบเธอเลยสักคน ใครจะมาชอบสาวหุ่นหมูอย่างเธอกันเล่า แพรพธูก้มลงมองพุงหนา ๆ ของตัวเองแล้วถอนหายใจ
“ ช่างหัวมันสิในเมื่อความสุขของฉันคือการได้กินของอร่อย ใครไม่ชอบก็ช่างหัวมัน คนเรามันต้องรักกันที่ใจไม่ใช่ที่รูปร่างหน้าตาจริงป่ะ ” เธอคิดหาเหตุผลและข้ออ้างในการกินให้ตัวเองจนได้สิน่า
ตากลมโตภายใต้แพขนตาดำขลับเหลือบไปเห็นรถยนต์สี่ประตูขับเคลื่อนสี่ล้อของพ่อขับเข้ามาในบริเวณปั๊มแล้วจอดลงด้านหลังออฟฟิศ เธอรีบเก็บห่อขนมที่กำลังนั่งกินด้วยความเพลิดเพลินใส่ถังขยะในทันที ด้วยระยะหลังมานี่พ่อเธอมักจะบ่นด้วยความเป็นห่วงอยู่บ่อย ๆ ว่าลูกสาวชักจะอ้วนเกินไปจนพุงชี้หน้าป๊า เกรงว่าโรคเบาหวานความดันไขมันอุดตันเส้นเลือดจะถามหาเอาได้
“ ไปดูงานที่ปั๊มใหม่เป็นไงมั่งคะป๊า ” ปากจิ้มลิ้มเอ่ยถามขึ้นทันทีที่ร่างสูงกำยำของชายวัยห้าสิบเศษเดินเข้ามา พ่อของแพรพธูมีเชื้อสายจีนผิวขาวร่างสูงใหญ่แต่นัยน์ตาไม่ได้เล็กหยีตาตี่เหมือนกับอากงคงเป็นเพราะอาม่าของเธอเป็นหญิงไทยพ่อเลยได้ดวงตากลมโตมาจากอาม่านั่นเอง ถึงแม้อายุจะขึ้นเลขห้าแต่พ่อเธอยังดูดีและอ่อนกว่าวัยอยู่มากเลยทีเดียว
“ ก็คืบหน้าไปเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วล่ะ คิดว่าคงจะเสร็จภายในสิ้นปีนี้ ปีหน้าเราก็จะมีปั๊มอีกสาขาแล้วนะ เออแพรเดี๋ยวเย็นนี้เราออกไปกินข้าวนอกบ้านกันนะ แต่งตัวสวย ๆ ล่ะป๊าจะพาไปรู้จักเพื่อนสนิทของป๊า ” พ่อเธอบอกพร้อมกับเดินเข้าไปลูบศีรษะลูกสาวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แววตาของเถ้าแก่พงษ์ดูมีความสุขจนคนเป็นลูกรู้สึกแคลงใจ
“ เพื่อนสนิทคนไหนเหรอคะป๊า ผู้หญิงรึผู้ชายคะ ” แพรพธูถามด้วยความสนใจ เพราะเพื่อนสนิทของพ่อเธอก็มีไม่กี่คนที่เธอรู้จัก
“ เอาน่าเดี๋ยวไปเห็นก็รู้เองนั่นแหละ แล้วนี่กินขนมเล่นจนห่อขนมเต็มถังขยะอีกแล้ว ยัยแพรเอ้ยป๊าไม่ได้หวงนะลูกแต่เพลา ๆ บ้างอ้วนเกินไปจะเดินไม่ไหวเอานะ ถ้าหนูเป็นอะไรไปป๊าจะอุ้มหนูไปโรงพยาบาลไหวได้ยังไงหือ ” เถ้าแก่พงษ์บ่นลูกสาวเมื่อเหลือบไปเห็นถุงขนมขบเคี้ยวในถังขยะ
“ โธ่ป๊าขาก็หนูหิวนี่คะ มันเป็นความสุขของลูกป๊าต้องเข้าใจนะคะ นะคะ ๆ ๆ ” เธอกอดแขนกำยำของพ่อไว้ด้วยท่อนแขนอวบ ๆ ของตัวเองแล้วแนบแก้มยุ้ยขาวเนียนเข้ากับต้นแขนอย่างออดอ้อน แล้วมันก็ได้ผลเหมือนเช่นทุกครั้งจนได้ เถ้าแก่พงษ์ยิ้มมุมปากอย่างอ่อนใจ มือหนาอบอุ่นยกขึ้นลูบผมยาวสลวยของลูกสาวอย่างรักใคร่
“ เห้อ อย่างนั้นก็ตามใจ ไปอาบน้ำแต่งตัวกันเถอะ เดี๋ยวให้อ้อมมาดูงานแทน ป๊านัดเพื่อนไว้หกโมงเย็นน่ะ ” แพรพธูยิ้มจนตาหยีก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากออฟฟิศย้ายร่างตุ๊ต๊ะไปยังบ้านหลังใหญ่ที่พ่อของเธอสร้างไว้ด้านหลังของปั๊ม หลังจากที่แม่เธอเสียไปเพราะไม่อยากเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านกับที่ทำงานเนื่องจากบ้านเดิมอยู่ห่างไกลจากปั๊มมากนั่นเอง
