บท
ตั้งค่า

บทที่ 5.(พบแม่สามีต้องเล่นใหญ่)

แผนลวงบ่วงมัดใจ

บทที่ 5.(พบแม่สามีต้องเล่นใหญ่)

ใช้เวลาไม่นานธันวาก็พามีนากลับมาถึงคอนโด และช่วยกันหอบหิ้วถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมาด้วยความทุลักทุเล ชายหนุ่มมานึกขัดใจก็ตอนนี้แหล่ะ รู้อย่างนี้ให้ไลลาเอามาส่งพร้อมกันพรุ่งนี้น่าจะดีกว่า

เมื่อธันวาเปิดประตูห้องเข้าไป คุณนายธันญาแม่ของเขากำลังนั่งรออยู่ที่โซฟาด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ ข้าง ๆ กายของนางมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย ส่วนกรตอนนี้น่าจะชิ่งกลับบ้านไปแล้ว ธันวารู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนั้นเล็กน้อย แต่ไม่สนใจอะไรมากนัก

เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะตีเนียนลงไปคุกเข่าต่อหน้าแม่ พร้อมกับหอมแก้มสองข้างอย่างเอาใจ

"แม่มาเมื่อไหร่ครับ ไม่เห็นโทรให้ผมไปรับ"

"ไม่ต้องมาปากหวานเลยเจ้าลูกตัวดี" นางธันญาบอกด้วยน้าเสียงที่บ่งบอกว่างอนเต็มที่

"แล้วแม่หนูคนนั้นน่ะใคร" นางถามพร้อมกับพยักหน้าไปที่มีนา

มีนาที่รอท่าอยู่แล้วก็รีบยกมือไหว้ท่านอย่างอ่อนช้อย จนธันวาต้องแอบยกนิ้วให้ในใจ

"หนูชื่อมีนาค่ะ" นางธันญาขมวดคิ้วเข้าหากันทันที ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาอีก

"แล้วเธอเป็นใคร นึกยังไงหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่กับผู้ชายแบบนี้" ธันวากับมีนาสะดุ้งทันทีที่นางธันญาพูดจบ

"ก็ไม่นึกยังไงหรอกครับแม่ มีนาเป็นเมียผมนี่ครับ ทำไมจะมาอยู่กับผมไม่ได้" ธันวาตอบแทนมีนา เพราะดูจากท่าทางเธอแล้ว คงตามแม่ของเขาไม่ค่อยทัน

"แกว่าไงนะตาธัน นี่แกเลิกกับแม่ลดาไม่ถึงเดือน แกมีเมียแล้วเหรอ หนุ่มสาวสมัยนี้นี่ไวไฟกันจริง ๆ"

นางธันญาบ่นออกมาชุดใหญ่ แต่ไอ้ประโยคหลังน่ะ ธันวามั่นใจว่าท่านหลอกด่ามีนาแน่นอน

"ช่างเถอะย่ะ เรื่องของแกเถอะ นี่หนูปานตา ลูกสาวของป้าสมรไงจำได้ไหม" จากนั้นนางธันญาก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปดื้อ ๆ

ธันวาหันไปมองปานตาแบบเต็มตาอีกครั้ง บอกตรง ๆ ถ้าไม่บอกว่าเป็นลูกสาวของป้าสมรเขาก็แทบจะจำเธอไม่ได้เหมือนกัน แต่ก็ว่าคุ้น ๆ หน้าอยู่

"น้องป่านเองเหรอ พี่จำไม่ได้เลย โตเป็นสาวสวยเลยนะเนี่ย" ชายหนุ่มหันไปทักทาย เพราะตอนเด็ก ๆ คุ้นเคยกันดีอยู่

ปานตายกมือขึ้นไหว้ธันวา พร้อมกับส่งยิ้มหวานหยดมาให้

"พี่ธันเองก็หล่อมากเหมือนกันค่ะ"

"มีนมานี่สิ" ชายหนุ่มหันไปเรียกมีนาให้เข้ามาใกล้ ๆ เธอเดินมาหาเขาอย่างว่าง่าย พอมาถึงชายหนุ่มก็โอบบ่าเธอไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนเอ่ยแนะนำเธอให้ปานตารู้จัก

"นี่มีนา เมียพี่" สังเกตได้ว่าสีหน้าของปานตาเจื่อนลงทันที และที่สำคัญเธอไม่แม้แต่จะทักทายมีนาเลยสักคำ

"แล้วเมียเราน่ะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร"

คราวนี้ธันวาเงียบไป เพราะไม่ได้เตรียมกันไว้ก่อนด้วย และยังไม่ทันจะได้พูดอะไร มีนาก็พูดขึ้นมาซะก่อน

"หนูไม่มีพ่อแม่หรอกค่ะ หนูเป็นเด็กกำพร้า"

คราวนี้นางธันญามองหน้ามีนาด้วยความแปลกใจ ก่อนจะถามขึ้นมาอีก

"แล้วทำงานอะไร?"

"เธอทำงานอยู่กับผมครับแม่ เป็นผู้ช่วยไอ้กรอีกที" ข้อนนี้ธันวาเป็นฝ่ายตอบแทน

นางธันญาท่านถอนหายใจนิดนึงแล้วพูดต่อ

"แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแกหรอกนะตาธัน แกโตแล้ว รักใครชอบใครแม่ก็ไม่ห้าม แต่ก็ควรจะดูให้ดีด้วย ส่วนหนูมีนาฉันก็เห็นใจนะ ในเมื่อเราตกเป็นของผู้ชายแล้ว ก็ต้องยอม ๆ กันไป แม้จะไม่มีพิธีแต่งงานก็ตาม แล้วเธอจะทนได้เหรอ ถ้าตาธันของฉันไม่มีความมั่นใจอะไรให้เธอสักอย่างน่ะ นอกจากคำพูดปากเปล่าอย่างเดียว"

มีนามองหน้าธันวานิดนึง ก่อนจะหันไปตอบนางธันญา

"หนูก็ไม่รู้หรอกค่ะ ว่าจะทนได้มั้ย แต่แค่เวลานี้คุณธันยังเมตตาหนู เรื่องอนาคตหนูไม่คิดมากหรอกค่ะ" ธันวายิ้มตามกับคำพูดของเธอ และเอ่ยชื่นชมอยู่ในใจ ที่เธอเข้าใจตอบแม่ของเขา

หลังจากนั้นทั้งหมดก็พากันไปกินข้าวที่นางธันญาทำรอไว้ หลังจากกินเสร็จธันวากับแม่ของเขาก็ออกมานั่งคุยกันตามประสาแมู่ลูกที่ไม่ได้เจอกันนาน ปล่อยให้มีนาและปานตาทำหน้าที่เก็บล้างไป

ในขณะที่เก็บทำความสะอาดห้องครัว

"คนเรานี่ก็แปลกเนอะ ชอบจับผู้ชายรวย ๆ กัน"

อยู่ดี ๆ ปานตาก็ลอยหน้าลอยตาพูดขึ้นมา ทำให้มีนาที่กำลังยืนล้างจานอยู่ต้องหันไปมองหน้าเธอทันที เธอรู้โดยสันชาตญานว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งใจหาเรื่องเธอ และคนอย่างมีนาไม่เคยหาเรื่องใครก่อน แต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาหาเรื่องเหมือนกัน

"ค่ะ ก็แปลกอีกเหมือนกันนะคะ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผู้ชายเค้ามีเมียแล้ว ผู้หญิงสมัยนี้ก็ยังไม่ยอมตัดใจเหมือนกัน"

พูดจบมีนาก็หันไปมองหน้าเธออย่างท้าทาย ถ้าคิดว่าเธอจะเป็นนางเอกจ๋าไม่กล้าสู้คน เธอจะทำให้รู้ว่ากำลังคิดผิด

ปานตามองมีนาตาแทบหลุด แล้วคิดว่าคนอย่างมีนาต้องกลัวเหรอ มีอีกมั้ยใส่มาสิเธอรออยู่ มีนาท้าทายทางสายตา

"อีกหน่อยเธอก็จะโดนพี่ธันเขี่ยทิ้ง " มีนาไม่เถียงหรอก เพราะยังไงมันก็ต้องถึงเวลาที่เธอต้องไปอยู่ดี

"มันอาจจะนานนะคะ กว่าจะมีวันนั้น" เธอเริ่มรู้สึกสนุกที่ได้แกล้งผู้หญิงคนนี้ มองแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าเธอนมีใจให้ธันวา

"หน้าด้าน! ไม่เจียมตัว!"

มีนายิ้มน้อย ๆ ไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด ถ้าเธอกับธันวารักกันจริง ๆ เธอคงจะรู้สึกเจ็บที่โดนด่า แต่ขอโทษทีที่ทุกอย่างมันเป็นแค่งาน

"ฉันถือคติด้านก็ได้อายอดค่ะ"

"แกมันต่ำ คงไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอนสินะ"

มีนาของขึ้นทันทีกับคำพูดประโยคนี้ของปานตา ด่าเรื่องอื่นเธอยอมได้ แต่ขุดเอาปมด้อยของคนอื่นขึ้นมาด่าแบบนี้ เดี๋ยวรู้เลย ตัวเองคงสูงส่งมากสินะ ถึงได้เที่ยวมาด่าว่าคนอื่นเขาแบบนี้

"เดี๋ยวฉันจะทำให้ดูว่าคนต่ำ ๆ อย่างฉันมันทำอะไรได้บ้าง"

พูดจบมีนาก็หันไปคว้าจานที่ล้างสะอาดแล้วขึ้นมาถือไว้ทั้งแถว ในขณะที่ปานตามองตามด้วยความงงและแปลกใจ จากนั้นมีนาก็ปล่อยจานลงพื้นทันที ส่วนปานตามองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยสายตาตกตะลึง

และเรื่องสนุกก็ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น มีนาแกล้งล้มตัวลงไปนั่งที่พื้น แต่เป็นเพราะความซวยของเธอแท้ๆ เพราะตอนที่แกล้งล้มลงไป มือของมีนามันดันไปท้าวเศษกระเบื้องพอดี แบบนี้เขาเรียกเวรกรรมตามสนอง คิดจะแกล้งปานตา แต่ตัวเองต้องมาเจ็บตัวจริง ๆ

มีนากุมมือที่ตอนนี้เลือดไหลออกมามากพอดู ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเรียกขวัญ เอาวะ! เล่นมาซะขนาดนีัแล้ว ต้องเอาให้จบ เธอมองหน้าปานตาแล้วแสยะยิ้ม ก่อนจะร้องออกมาอีกครั้งแต่คราวนี้ร้องดังกว่าเดิม

"โอ๊ย!" และคราวนี้มันได้ผล เมื่อทั้งธันวากับแม่ของเขารีบวิ่งมาดู

"เกิดอะไรขึ้น!" ธันวาที่มาถึงก่อนเอ่ยถาม ก่อนจะถลาเข้ามาประคองมีนาที่ตอนนี้เลือดไหลออกมาไม่หยุด

"ไม่มีอะไรค่ะ มีนซุ่มซ่ามเองค่ะ คุณป่านเธอไม่ได้ตั้งใจจะขัดขามีนหรอก"

มีนาพูดไปอีกอย่าง พร้อมกับทำหน้าเหมือนจะรัองไห้ ตอนนี้เธอเริ่มเจ็บร้าวไปทั้งข้อมือแล้ว กว่าละครฉากนี้จะจบลง คิดว่าเลือดคงไหลหมดตัวพอดี ขณะที่ปานตาถึงกับอ้าปากค้างทันทีที่มีนาพูดจบ เป็

"นี่แกพูดอะไรของแก" ปานตาตวาดถามออกมาเสียงดัง ซึ่งมีนาก็ไม่คิดโต้ตอบ เธอหันไปออเซาะธันวาแทน

"คุณธัน มีนเจ็บ"

"ตายแล้วหนูมีน!" นางธันญาที่พึ่งมาถึงร้องออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นทาบอกดัวยความตกใจ

"ตาธันแกพาเมียแกไปทำแผลก่อน ดูสิเลือดไหลไม่หยุดเลย แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!" นางธันญาถามด้วยความสงสัย

"ผมว่าแม่ถามป่านเอาเองแล้วกันครับผมกับมีนขอตัว"

จากนั้นธันวาก็พามีนาออกจากห้องครัวเพื่อไปทำแผล ผลสรุปก็คือมีนาถูกเย็บไปหกเข็ม สบายตัวไป ส่วนปานตา ไม่มีใครรู้หรอกว่าเธอเป็นยังไง เพราะตั้งแต่วันนั้นมีนาก็ไม่เคยเจอกับเธออีกเลย

ส่วนแม่ของธันวา แน่นอนว่าเธอก็เชื่อมีนาซะสนิทใจ แน่ล่ะ คงไม่มีใครคิดว่าจะมีใครกล้าเอาเศษกระเบื้องมาเชือดมือตัวเองหรอก ซึ่งมันก็แค่ผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อยเท่านั้นเอง

......................

ผ่านไปสองอาทิตย์ ที่ธันวาและมีนาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในคอนโด โดยไร้วี่แววของรินลดา ในช่วงกลางวัน มีนาตามธันวาไปที่บริษัทบ้าง โดยชายหนุ่มให้เธอคอยช่วยเหลืองานของพาขวัญบ้างนิด ๆทหน่อย ๆ

เหมือนอย่างวันนี้มีนาก็มาบริษัทกับธันวาเช่นเคย แต่ทำไมวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะหงุดหงิดอะไรสักอย่างที่ตัวเองก็ยังหาสาเหตุไม่ได้

"มีน พี่ซืัอนี่มาฝาก"

เสียงของกรดังขึ้น หลังจากที่ธนวาส่งกรไปดูงานที่ประจวบฯ พอกลับมาแทนที่ไอ้เพื่อนตัวจะมารายงานเรื่องงานกับเขา แต่หมอนั่นกลับไปนั่งอี๋อ๋อกับมีนาแทน แล้วไอัที่แทนตัวเองว่าพี่นั่นอีก มันไปทำสัญญาเป็นพี่น้องกันตอนไหน เขาไม่เห็นรู้เรื่อง

"น่ารักจังเลยค่ะพี่กร" ยัยคนตัวเล็กนั่นก็ดีใจเวอร์ มันก็แค่พวงกุญแจตุ๊กตา ก็แค่นั้นไหม ธันวามองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกขัดหูขัดตา

"พี่เห็นเเล้วนึกถึงมีนเลยเนี่ย บ้องแบ๊วเหมือนกันเลย" ยังไม่จบ

"ขอบคุณพี่กรมากเลยค่ะ มีนชอบมาก" เหมือนธันวาจะเริ่มทนไม่ไหว แต่ทนไม่ไหวเรื่องอะไรเขาเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน

"ไอ้กร! งานที่กูให้มึงไปดูน่ะ ตกลงว่าไง" ธันวาเอ่ยถามอย่างเหลืออด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

"กูก็วางรายละเอียดไวัให้มึงบนโต๊ะแล้วไง" กรหันมาตอบ พร้อมกับส่งยิ้มกวน ๆ ให้เพื่อนสนิทด้วย

ธันวาหยิบเอกสารบนโต็ะขึ้นมาดู แต่บอกตรง ๆ เลยว่าดูไม่รู้เรื่องเพราะสมาธิมั้งหมดไปอยู่ที่มีนากับเพื่อนสนิทหมดแล้ว

"ขวัญมาหาผมหน่อย" ธันวากดอินเตอร์คอมเรียกพาขวัญ และสังเกตุจากทางหางตา ดูเหมือนไอ้เพื่อนตัวดีจะดูนิ่งไป

สักพักพาขวัญก็เข้ามา สายตาเธอมองไปที่กรเป็นอันดับแรก ก่อนจะมองเมินเหมือนไม่เห็น แล้วเดินตรงมาหาธันวา

"คุณธันมีอะไรคะ'' เธอถามเสียงเรียบ

"ถ่ายเอกสารให้ผมที ขอสองชุด"

"ถ่ายเอกสาร ทำไมไม่บอกมีนล่ะคะ มีนทำให้ก็ได้ งานพี่ขวัญก็เยอะแล้ว"

ยัยคนตัวเล็กที่ตั้งแต่เช้าแทบไม่ได้สนใจเขาเลยด้วยซ้ำถลันเข้ามาถาม และอาสาจะทำหน้าที่นี้แทนพาขวัญ

ธันวามองหน้าเธอนิดเดียว นิดเดียวจริง ๆ ก่อนจะหันไปบอกพาขวัญอีกรอบ

"ขอด่วนนะขวัญ"

จากนั้นธันวาก็หันไปสนใจกับแฟัมงานอื่นต่อ ในขณะที่ยัยตัวเล็กมองเขาด้วยสายตาแปลกใจ

ในขณะที่ธันวาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร รู้แต่ว่ามันหงุดหงิด หงุดหงิดที่เห็นมีนาสนิทกับใคนคนอื่นที่นอกเหนือจากตัวเอง นี่เขา... กำลังเป็นอะไรกันแน่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel