บทที่ 4
“แล้วคุณจะทำอย่างไร”
“เราก็ต้องจัดการให้นายภูไปดูตัวสาวที่เราเลือกให้ คุณลองคิดสิคะภพว่ามีลูกเพื่อนของคุณคนไหนที่เหมาะจะมาเป็นลูกสะใภ้ของเรา”
ก้องภพหัวเราะกับความคิดของภรรยา และเอ่ยเตือนความทรงจำของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณจัดให้นายภูไปดูตัวลูกสาวของเพื่อนคุณ แต่ผมไม่เคยเห็นลูกจะยอมทำตามความต้องการของคุณเลยสักครั้ง”
“ฉันถึงบอกว่าเราจะต้องมีมาตรการที่ใช้จัดการกับนายภูไงคะ เราสองคนจะต้องยื่นคำขาดกับลูก ให้เขาแต่งงานก่อนที่จะถึงวันครบรอบวันเกิดอายุยี่สิบเจ็ดปีของเขา”
“คุณคิดว่าลูกจะทำตามคำขอของเราหรือ ในเมื่อมันเหลือเวลาอีกเพียงแค่หกเดือนเท่านั้น อีกอย่างเรื่องแบบนี้รีบร้อนไปนักก็ใช่ว่าจะดี เพราะพวกเขาจะต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต ไม่ใช่แต่งงานกันแล้วต้องมาเลิกกันในภายหลัง ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็ไม่เห็นด้วย” ก้องภพพูดตามความคิดเห็นของตนเอง
“แต่เราก็ไม่ควรที่จะนิ่งนอนใจนะคะ การที่นายภูไม่ตกลงปลงใจกับใครสักคน มันทำให้ฉันรู้สึกเป็นกังวลมากเลย”
“ถ้าลูกทำไม่ได้ตามข้อเสนอที่เรายื่นไปเราควรจะทำอย่างไร”
“เราก็บอกลูกไปสิคะว่าถ้าลูกยังเพิกเฉยกับข้อเสนอของเรา หรือทำไม่ได้ตามข้อเสนอที่เรายื่นไป เราก็จะตัดเขาออกจากกองมรดก ลูกจะไม่มีสิทธิในทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเรา และเราจะยกทรัพย์สินทุกอย่างให้กับการกุศล หรือไม่ลูกก็ต้องยอมไปดูตัวผู้หญิงที่เราเลือกให้ และแต่งงานกันตามความต้องการของเรา”
ความจริงก้องภพไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ของภรรยา แต่เขาก็ไม่เคยที่จะขัดใจเธอเลยสักครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกันนั่นเป็นเพราะเขารักเธอมาก และตามใจเธอมาโดยตลอด
“คุณตัดสินใจแน่นอนแล้วใช่ไหม”
“ใช่ค่ะเราจะคุยเรื่องนี้กับลูกทันทีที่เขากลับมา”
ก้องภพพยักหน้าในขณะเดียวกันก็รู้สึกหนักใจแทนลูกชาย แต่ก็คงต้องทำตามความต้องการของภรรยา
“มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง น้อมอยู่ข้างนอกหรือเปล่าเข้ามาหน่อยซิ” เพชรลดาร้องเรียกหาแม่บ้าน พูดไม่ทันขาดคำหญิงสูงวัยนามว่าน้อมก็เดินเข้ามาภายในห้อง
“มีอะไรจะให้รับใช้คะคุณผู้หญิง”
“เข้ามาก็ดีละนายภูกลับมาหรือยัง”
“ยังเลยค่ะ”
“ถ้านายภูกลับมาเมื่อไรเธอช่วยไปบอกให้เขามาพบฉันกับคุณภพด้วย ไม่ว่าดึกแค่ไหนเราก็จะรอเพราะว่าเรามีธุระสำคัญจะพูดกับนายภู”
“ค่ะคุณผู้หญิง”
“เราจะรอนายภูที่ห้องนี้หรือจะขึ้นไปรอบนห้องดีคะ”
“แล้วแต่คุณสิผมตามใจคุณอยู่แล้ว”
“ฉันว่าเราขึ้นไปรอที่ห้องดีกว่านะคะ เพราะท่าทางคืนนี้นายภูคงจะกลับดึก” ก้องภพพยักหน้าเขาเดินกลับขึ้นไปห้องนอนโดยมีเพชรลดาเดินเคียงข้างไปด้วย
ภูผากลับมาถึงบ้านในเวลาประมาณสี่ทุ่ม เขาพบป้าน้อมมาคอยเปิดประตูให้ ชายหนุ่มยิ้มให้อีกฝ่ายพร้อมกับเอ่ยทัก
“ดึกแล้วป้ายังไม่นอนอีกเหรอครับ”
“ป้าอยู่คอยเปิดประตูให้คุณภูค่ะ”
“ผมเลยทำให้ป้าเดือดร้อนไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดี ทีหลังให้เด็กมาทำแทนก็ได้นี่ครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณภูป้ายังไม่ง่วง อีกอย่างคุณผู้หญิงสั่งป้าให้มาบอกคุณภูว่าท่านและคุณผู้ชายรอพบคุณภูอยู่ค่ะ เห็นว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
“เรื่องสำคัญ! ป้าน้อมทราบไหมครับว่าเป็นเรื่องอะไร”
ที่ภูผาถามเช่นนี้เพราะเขารู้ดีว่าป้าน้อมเป็นหัวหน้าแม่บ้าน ที่ทำงานให้กับบ้านหลังนี้มาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก และยังรู้อีกด้วยว่ามารดาของเขาไว้วางใจป้าน้อมมากที่สุด และก็ป้าน้อมนี่แหละที่ช่วยทำหน้าที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เขายังแบเบาะ
เขาจึงรักและให้ความนับถือเธอราวกับเธอเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง หาใช่เพียงในฐานะหัวหน้าแม่บ้านเท่านั้น
“ป้าไม่ทราบหรอกค่ะคุณภู ท่านบอกว่าดึกแค่ไหนท่านทั้งสองก็จะรอพบคุณภูค่ะ ตอนนี้ท่านอยู่ในห้องนอนคุณภูรีบขึ้นไปสิคะ”
“ผมขอตัวไปพบพ่อกับแม่ก่อนนะครับ”
“เชิญตามสบายค่ะป้าจะดูแลปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อยก่อน”