บทที่ 3
“จาเคยไปผับที่ชาวสีม่วงเขาชอบไปกันไหมลูก”
คำถามของเธอมีผลทำให้เขาถึงกับสำลักน้ำกันเลยทีเดียว เพราะเขาไม่คิดว่าเธอจะถามคำถามแบบนี้ เธอคงจะไม่ได้คิดว่าเขาเป็นเกย์หรอกนะ
“แม่ดาหมายถึงบาร์เกย์ใช่ไหมครับ”
“ใช่แล้วลูกแม่เคยได้ยินมาว่าแถวสีลมมีผับชื่อดังสำหรับพวกเกย์โดยเฉพาะ และเป็นที่นิยมในหมู่พวกเขาแม่ก็เลยอยากรู้ว่ามันเป็นความจริงหรือเปล่า”
“จริงครับแม่ แต่ผมไม่เคยเข้าไปหรอกนะครับ ผู้ชายส่วนใหญ่เขาจะไม่เข้าไปเที่ยวที่นั่นกันหรอกครับ ยกเว้นแต่พวกชาวสีม่วง ทำไมแม่ถึงถามเรื่องนี้ล่ะครับ”
“แม่เคยได้ยินคนเขาพูดถึงแม่ก็เลยอยากรู้”
“ถ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ผมว่าแม่ควรจะถามจากนายภูนะครับ เขาน่าจะตอบคำถามเหล่านี้ของแม่ได้ดีกว่าผม”
“อะไรนะ! จาพูดว่าแม่ควรจะไปถามจากใครนะลูก ไหนลองพูดอีกทีซิ”
เพชรลดาต้องถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่า สิ่งที่เธอได้ยินคำตอบจากปากจามิกรนั้นมันไม่ผิดพลาด แม้แต่เพื่อนสนิทของลูกชายยังบอกให้เธอถามเรื่องนี้จากลูกชายของตัวเอง ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เธอได้ยินมามันก็มีเค้าลางว่าจะเป็นเรื่องจริงสินะ
“ภูผาลูกชายของแม่ดาไงครับ เขาเชี่ยวชาญเรื่องเหล่านี้ดี เพราะเคยพาเพื่อนไปดื่มเหล้าที่นั่นอยู่หลายครั้ง”
คำยืนยันของจามิกรทำให้เพชรลดาแทบจะเป็นลม เธอได้แต่พูดโต้ตอบไปว่า “ไว้แม่จะลองถามจากนายภูดูอีกที”
จามิกรอยู่คุยกับท่านทั้งสองอีกสักพักก็เอ่ยปากขอตัว เพราะเขามีนัดสำคัญตอนสามทุ่ม
“ว่างเมื่อไรก็แวะมาอีกนะนายจา ไม่ใช่หายหน้าหายตาไปเลยแบบนี้”
ก้องภพเอ่ยปากกับเพื่อนของลูกชายที่เขาและภรรยารักเสมือนลูกของตัวเอง ทั้งคู่เดินออกมาส่งจามิกรที่รถ
“ครับพ่อ...ผมขอตัวก่อนนะครับ” เขายกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนจะเดินไปที่รถและขับออกไปทันที
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ ก้องภพและเพชรลดาก็ย้ายเข้ามาดูข่าวอยู่ในห้องรับรอง ที่ใช้สำหรับพักผ่อนและรับแขกวีไอพี เพราะภายในห้องนี้จะมีโฮมเธียเตอร์อยู่ด้วย
ก้องภพกำลังนั่งดูข่าวภาคค่ำอยู่ที่โซฟาตัวยาว โดยมีเพชรลดาภรรยาของเขานั่งอยู่ข้างตัว สีหน้าของภรรยาดูเป็นกังวลราวกับว่ามีปัญหาที่แก้ไม่ตก อีกทั้งยังนั่งถอนหายใจหลายครั้ง ทำให้ก้องภพตัดสินใจปิดทีวีและหันมาคุยกับภรรยาอย่างจริงจัง เขาเอื้อมไปกุมมือเธอเอาไว้พร้อมกับถาม
“คุณเป็นอะไรไป ใครทำให้คุณกลุ้มใจมากถึงขนาดนี้ ผมเห็นคุณนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนี้มาสักพักแล้วนะ ทำแบบนี้บ่อยๆ ระวังจะแก่เร็ว”
“จะมีใครทำให้ฉันกลุ้มใจได้มากขนาดนี้อีกล่ะคะ ถ้าไม่ใช่เรื่องลูกชายตัวดีของเรา”
“เรื่องของนายภู!”
“ใช่แล้วค่ะเรื่องของภูผา”
“แล้วมันคือเรื่องอะไรกันล่ะที่ทำให้คุณต้องเก็บมานั่งกลุ้มใจ นายภูไปสร้างเรื่องอะไรไว้อีกอย่างนั้นหรือ” เพชรลดาส่ายหน้าก่อนจะตอบ
“ลูกไม่ได้สร้างปัญหาอะไรหรอกค่ะ แต่ที่ทำให้ฉันกำลังกลุ้มใจอยู่ตอนนี้มันเป็นข่าวลือเกี่ยวกับนายภูต่างหากค่ะ”
“ข่าวลืออะไร!?”
“ก็ข่าวลือที่ว่าลูกของเราเป็นเกย์น่ะสิคะ”
ก้องภพเผลอหลุดหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าภรรยากำลังกลุ้มใจด้วยเรื่องอะไร
“คุณเชื่อข่าวลือพวกนั้นด้วยเหรอดา คุณเป็นคนเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนนายภูมาด้วยมือของคุณเอง ทำไมถึงคิดว่าลูกจะเป็นอย่างที่พวกเขาลือกัน”
“ฉันก็ยังไม่ปักใจเชื่อหรอกค่ะ แต่มีคนเห็นกับตาว่าลูกของเรา ชอบพาเพื่อนหนุ่มหน้าตาดีไปเที่ยวบาร์เกย์ชื่อดังแถวสีลมออกบ่อยๆ ที่สำคัญนายภูยังไม่เคยพาแฟนสาวมาแนะนำให้เราสองคนรู้จักเลยสักครั้ง แถมยังไม่เคยมีข่าวเสียหายในทำนองชู้สาวกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน ทั้งที่อายุของนายภูควรจะสร้างครอบครัวได้แล้ว”
“คุณก็เลยกังวลว่านายภูจะเบี่ยงเบนทางเพศ”
“หรือคุณไม่กังวลคะ”
“ผมจะบอกอะไรให้นะนายภูไม่มีทางเป็นเกย์ไปได้หรอกคุณ”
“ทำไมคุณถึงมั่นใจนักคะภพ ถ้าลูกไม่ใช่เกย์แล้วทำไมถึงได้ไปเที่ยวบาร์เกย์ล่ะคะ นายจาเองก็ยังยืนยันว่าผู้ชายแท้เขาจะไม่โคจรไปในที่แบบนั้น”
“ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมนายภูถึงไปเที่ยวในสถานที่แบบนั้น แต่คุณเชื่อผมนะลูกไม่มีทางเป็นอย่างที่พวกเขาลือกันหรอกขอให้คุณมั่นใจ นี่ใช่ไหมที่เป็นสาเหตุให้คุณลังเลที่จะเอ่ยปากขอให้ลูกไปช่วยเดินแบบในงานการกุศลของคุณ” เพชรลดาพยักหน้า
“ไม่ใช่เพราะฉันอายหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะฉันเกรงว่าคนเหล่านั้นจะนินทาให้ลูกของเราได้ยิน หรือไม่ก็อาจจะมองนายภูด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนเขาเป็นตัวประหลาด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะคะที่ฉันได้ยินข่าวลือทำนองนี้จากปากคนอื่น”
“อย่าไปสนใจข่าวพวกนั้นเลยคุณมันไร้สาระ คุณต้องเชื่อมั่นในตัวลูกสิ คุณไม่รู้หรือไงว่านายภูเป็นผู้ชายในฝันพวกของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา การศึกษา ฐานะ ชาติตระกูล นายภูมีครบทุกอย่างที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ใฝ่ฝันถึง เพียงแต่ตอนนี้ลูกอาจจะยังไม่เจอคนที่ถูกใจ แต่ผมมั่นใจอยู่อย่างว่าเมื่อไรก็ตามที่ลูกเจอคนที่ใช่เขาคงจะพามาแนะนำให้เราสองคนรู้จัก”
“ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะค่ะ แต่ฉันก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ไม่ได้การละเห็นทีเราคงจะต้องจัดการอะไรบางอย่างกับนายภูเกี่ยวกับเรื่องนี้”