บทที่4
ตอนที่4 เชื่อฉัน
หลังจากที่กวินตราถูกจับตัวมาโดยใครก็ไม่รู้ เธอก็ตื่นขึ้นมาในห้องนอนของใครสักคน และเป็นห้องที่เธอไม่คุ้นตาเอาเสียเลย แต่ในใจของเธอก็แอบคิดว่าคนที่จับตัวเธอมานั้นจะเป็นพ่อของที่ตั้งใจส่งคนไปพาตัวเธอกลับมาที่บ้านเพื่อที่จะมีเซอร์ไพรส์เธอ แต่ความคิดของเธอก็ต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมา
“ตื่นสักทีนะ ฉันรอตั้งนาน” เมื่อได้ยินเสียงของคนที่เดินเข้ามากวินตราก็เอาแต่นั่งเงียบด้วยความสงสัยว่าคนตรงหน้าคือใคร
“สงสัยลูกน้องฉันจะใส่ยาสลบเยอะไปหน่อย”
“อ้าว? เป็นใบ้เหรอ เห็นไม่พูด”
“คุณเป็นใคร แล้วจับฉันมาที่นี่ทำไม”
“หรือว่าคุณเป็นลูกน้องของพ่อฉันเหรอ แล้วพ่อของฉันอยู่ไหนล่ะ” สิ่งที่พยัคฆ์ได้ยินว่าคนตรงหน้าถามถึงพ่อตัวเองก็ทำให้เขาแทบจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่
“พ่อเธอจะอยู่ที่ไหนมาเกี่ยวอะไรกับฉัน”
“แล้วคุณเป็นใครกันแน่” พอกวินตราได้ยินประโยคที่ชายหนุ่มตรงหน้าตอบกลับมา เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ใช่ลูกน้องของพ่อเธออย่างแน่นอน
“งั้นเธออยากให้เป็นใครดีล่ะ” พยัคฆ์ตอบกลับกวินตราด้วยน้ำเสียงและสีหน้าท่าทางกวนเล็กน้อย
“ตัวคุณเองยังไม่รู้เลยแล้วฉันจะไปรู้เหรอ”
“ปากเก่งใช้ได้เลยนะเธอน่ะ”
“ปากของฉันมันจะเป็นยังไงก็เรื่องของฉัน” ตอนนี้กวินตราเริ่มไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่กับคนตรงหน้าของเธอ
“แล้วสรุปคุณเป็นใครกันแน่ แล้วจับฉันมาทำไมกัน...ต้องการอะไร”ซึ่งพยัคฆ์ก็ไม่ตอบอะไรเพียงแค่ยิ้มออกมาเท่านั้นพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้กวินตราโดยที่เธอเลี่ยงหนีไม่ได้
“คุณต้องการอะไรต้องการเงินเหรอ” พอกวินตราเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มเดินเข้ามาใกล้เธอก็เริ่มกลัวมากเข้าไปอีก
“คุณอย่าเข้ามานะ ถ้าคุณเข้ามาฉันจะตะโกนให้คนช่วยจริง ๆ ด้วย” ถึงแม้ว่าเธอจะขู่คนตรงหน้ายังไงก็ไม่เป็นผลเอาเสียเลย แถมเขาก็ไม่ได้พูดอะไรเลยสักนิด
“ถ้าคุณยังไม่หยุดฉันตะโกนจริง ๆ นะ”
“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!”เมื่อพยัคฆ์เห็นคนตรงหน้าพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือก็ทำให้เขาต้องหลุดขำออกมา เพราะดูเหมือนว่ากวินตราจะไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้เสียเลยด้วยซ้ำ
“คุณเป็นบ้าเหรอ อยู่ดี ๆ ก็ขำน่ะ”
“หรือว่าคุณเป็นคนสติไม่ดี”
“อาจจะใช่ก็ได้นะ” พยัคฆ์ตอบกลับเธอไปทันที ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาถึงตัวของกวินตราแล้ว
“อย่าเข้ามานะ ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!” ด้วยความที่เธอกลัวและไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนกันแน่ จึงกวินตราจึงตะโกนเรียกหาพ่อของตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “พ่อคะ พ่ออยู่ไหนช่วยหนูด้วย”
“พ่อช่วยหนูด้วยหนูกลัว ฮึก” เธอร้องเรียกหาพ่อตัวเองพร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้าง
เมื่อพยัคฆ์ได้ยินว่าคนตรงหน้าของเขาที่กำลังร้องเรียกหาพ่อของตัวเองก็ทำให้เขาเริ่มมีอารมณ์ความโกรธแค้นขึ้นมาอีกครั้งจนทำให้เขายับยั้งมันเอาไว้ไม่ได้
“เลิกเรียกหาพ่อของเธอสักที!!!”
“ไม่ว่าเธอจะเรียกหามันดังขนาดไหนมันก็มาช่วยเธอไม่ได้หรอก”
“ฉันไม่หยุด! ฉันจะเรียกพ่อของฉันมาช่วย!!” และไม่ว่าเธอจะรู้ดีอย่างไรเธอพยายามตะโกนออกมาไม่หยุด
“ถ้าพ่อมาช่วยฉัน ฉันจะให้เขาจัดการนาย!!”
“ถึงเธอจะเรียกมันจนเสียงของเธอหายมันก็ไม่มาช่วยเธอหรอก” พยัคฆ์พูดพร้อมกับจับแขนคนตรงหน้าแน่นจนกวินตรารู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
“โอ๊ย! ฮือ ฉันเจ็บนะ”
“แล้วก็อย่ามาเรียกพ่อของฉันว่ามันนะ ฮึก...” กวินตราพูดพร้อมกับสลัดแขนตัวเองออกจากมือของคนตรงหน้าแต่แม้ว่าเธอจะใช้แรงมากแค่ไหนก็ไม่เป็นผลและมันยิ่งทำให้เธอเจ็บมากกว่าเดิม
“ทำไมฉันจะเรียกไม่ได้ ฉันเรียกมันแค่นี้มันยังน้อยไปถ้าเทียบกับสิ่งที่มันทำกับฉันเสียอีก”
“พ่อฉันไปทำอะไรให้คุณ!!!” เธอพูดพร้อมกับมองหน้าของพยัคฆ์ด้วยน้ำตา
“พ่อของเธอมันไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่เธอคิดหรอก เรียกว่าคนเหี้ยเลยด้วยซ้ำ!”
“ไม่จริงพ่อฉันเป็นคนดี”
“เธอคงยังไม่รู้ในสิ่งที่พ่อของเธอทำไว้กับฉันสินะ”
“พ่อฉันไปทำอะไรให้คุณ”
“เธอไม่จำเป็นต้องรู้มันหรอก”
“ฉันจะให้พ่อของฉันจัดการคุณค่อยดูเถอะ”
“ก่อนที่จะให้มันมาจัดการฉันน่ะ ให้มันเข้ามาช่วยเธอให้ได้ก่อนดีไหมสาวน้อย” พยัคฆ์พูดพร้อมกับยื่นมือไปจับที่ปลายผมของกวินตรา
“พ่อฉันเป็นคนเก่งยังไงเขาก็ต้องรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่” กวินตราเชื่อใจพ่อของตัวเองมากจึงคิดแบบนี้
“คนโง่แบบพ่อเธอน่ะเหรอ ถึงรู้มันก็เขามาช่วยเธอไม่ได้หรอก”
“ทำไมพ่อฉันจะเข้ามาช่วยฉันไม่ได้”
“ก็เพราะว่าที่นี่คือไร่พยัคฆ์ไร่ของฉันไงล่ะ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ถ้าฉันไม่อนุญาต” พยัคฆ์พูดพร้อมกับบีบแขนของกวินตราแรงขึ้น
“และถึงแม้ว่าเธอจะตะโกนให้คนมาช่วยดังแค่ไหนก็ไม่มีใครมาช่วยเธอหรอก เพราะที่นี่คือที่ของฉัน”
“แล้วคุณจะจับฉันมาที่นี่ทำไมฉันไปทำอะไรให้”
“เธอน่ะไม่ได้ทำหรอกคนที่ทำคือพ่อของเธอต่างหาก”
“พ่อฉันทำอะไรให้คุณก็บอกมาสิ ฉันจะไปบอกพ่อให้” กวินตราไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกคนพูดเลยสักนิด เพราะเธอไม่คิดว่าพ่อของตัวเองจะไปทำอะไรให้ใครได้
“พอกันที! เธอเลิกพูดว่าพ่อของเธอเป็นคนดีเสียทีก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว!!”
“ฉันไม่เลิก! คุณก็พูดมาก่อนสิว่าพ่อของฉันไปทำอะไรให้”
“ฉันบอกให้เลิกพูดถึงมันไง!!!” เมื่อพยัคฆ์พูดจบก็ผลักกวินตราลงไปที่เตียงอย่างแรงจนทำให้เธอรู้สึกจุกเล็กน้อย กวินตราก็ยังไม่ได้รู้อะไรเพิ่มเติมจากคนตรงหน้าเลยสักนิด เธอจึงรู้สึกตกใจมากกว่าเดิมเพราะว่าท่าทางของอีกคนนั้นดูน่ากลัวจนทำให้กวินตราตกใจอยู่ไม่น้อย
“นี่คุณจะทำอะไร!!” พยัคฆ์ไม่ตอบอะไรแต่ขึ้นคล่อมร่างของกวินตราไว้และทันทีที่เห็นว่ากวินตราดิ้นขัดขืนและกำลังจะคลานหนีจากอีกคน
“นี่คุณจะทำอะไรฉันปล่อยฉันไปเถอะนะ” กวินตราพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนให้พยัคฆ์ปล่อยเธอไป แต่ถึงแม้ว่าเธอจะอ้อนวอนให้คนตรงหน้าปล่อยเธอมากแค่ไหนก็ไม่ไม่ได้ทำให้พยัคฆ์ใจอ่อนเลยสักนิด และในขณะเดียวกันพยัคฆ์ก็ก้มลงไปจูบกวินตรา
ในตอนนี้เพียงพยัคฆ์กำลังครอบครองปากของกวินตราด้วยปากของตัวเองอยู่นั้นกวินตราก็ได้กัดเข้าไปที่ริมฝีปากของพยัคฆ์จนเลือดออก
“โอ๊ย! นี่เธอ”
“เธอกัดปากฉัน!” พยัคฆ์พูดพร้อมกับอารมณ์ที่ฉุนเฉียวอย่างมากการกระทำนี้ของกวินตรา
“คุณอยากมาจูบฉันเองทำไมล่ะ”
“ได้ เธอคงชอบแบบรุนแรงสินะ” เมื่อพยัคฆ์พูดจบเขาก็กระชากเสื้อของกวินตราออกทันที และด้วยแรงของพยัคฆ์ที่มีมากทำให้เสื้อของกวินตราขาดติดมือพยัคฆ์ทำให้เห็นเนินอกอันอวบอิ่ม
“กรี๊ด! คุณทำบ้าอะไร คุณเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!”
“ฉันยังบ้าได้มากกว่านี้อีก” พยัคฆ์พูดจบก็จัดการถอดกางเกงของกินตราออก ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะขัดขืนอย่างไรก็ไม่ได้เป็นงานยากของพยัคฆ์เลยสักนิด เมื่อเขาจัดการกับเสื้อผ้าของกวินตราเสร็จแล้วเขาก็ลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าของตัวเองทันทีทำให้เห็นแก่นกายของเขาที่ผงาดขึ้นมาพร้อมที่จะออกรบเต็มที
“คะ...คุณกำลังจะทำอะไร” เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกกวินตราก็เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
พยัคฆ์ไม่ตอบอะไรกลับแต่เขากลับจับตัวของกวินตราไม่ให้ขยับหนีพร้อมกับจับขาของกวินตราตั้งขึ้นให้ได้องศาที่เขานั้นจะแทรกตัวเข้าไปได้ เมื่อพยัคฆ์เข้าไปตรงกลางระหว่างขาของกวินตราได้แล้ว เขาก็ทำการจับแก่นกายของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับกระแทกเข้าไปในช่องกลีบกุหลาบของกวินตราภายในครั้งเดียว และด้วยความใหญ่โตของพยัคฆ์บวกกับกวินตรานั้นยังไม่เคยเสียความบริสุทธิ์ให้กับใครเธอจึงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“อะ...โอ๊ย เจ็บ ฮือ” กวินตราร้องออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาของเธอ
“เอามันออกไป ปล่อยฉันไปเถอะนะ” กวินตราพูดพร้อมกับน้ำเสียงที่อ้อนวอนอีกครั้งเพื่อให้คนตรงหน้าปล่อยเธอไป
“จะเอาออกได้ไง มีแต่ต้องกระแทกเข้าไป”
“ครั้งแรกของเธอสินะ เธอเจ็บแค่แป๊ปเดียวเท่านั้นแหละเชื่อฉัน” เมื่อพยัคฆ์พูดจบเขาก็ทำการขับสะโพกของตัวเองอย่างเชื่องช้าเพื่อให้คนตรงหน้าได้ผ่อนคลาย
“ได้โปรดเอาออกไปเถอะนะ ฮึก ได้โปรด” กวินตราได้แต่ขอร้องอ้อนวอนให้พยัคฆ์เอาแก่นกายของตัวเองออกไปของตัวเธอ เพราะเธอเจ็บมากจนมีเลือดซิบออกมา
“เดี๋ยวเธอก็รู้สึกดีแล้วเธอก็จะไม่อยากหยุดมันเลยเชื่อฉันสิ” พยัคฆ์พูดจบก็เริ่มขยับสะโพกของตัวเองให้เร็วขึ้น
ในขณะเดียวกันนั้นเองกวินตราก็รู้สึกแปลกก ๆ อย่างบอกไม่ถูกความรู้สึกนั้นเริ่มทำให้ร่างกายของเธอนั้นเริ่มตอบสนองกับการกระทำของพยัคฆ์ ถึงแม้เธอจะไม่เคยทำแต่เพราะความที่พยัคฆ์ดูช่ำชองจึงกลายเป็นว่ากวินตราเองรู้สึกดี
“อ๊ะ อืม เสียว” ความรู้สึกดีที่อยู่ในร่างกายของกวินตราต้องส่งเสียงออกมาอย่างรู้สึกอาย
“อืม ใช่ อย่างนั้นแหละร้องออกมาดัง ๆ ฉันชอบ” เมื่อพยัคฆ์เห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขา เขาก็เริ่มขยับสะโพกแรงขึ้นอีกจนทำให้เกิดเสียงจากเตียงที่โยกไปมาอย่างแรง
เอี๊ยด อ๊าด เอี๊ยด อ๊าด
แต่เสียงนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาเบาแรงลงเลย แต่มันกลับทำให้เขาทำแรงเพิ่มขึ้นไปอีกจนทำให้คนใต้ร่างรู้สึกเสียวซ่านจนต้องระบายอารมณ์ด้วยการจิกแขนของคนด้านบน
ไม่นานพยัคฆ์ก็สัมผัสได้ว่าคนใต้ร่างกำลังที่จะถึงจุดสูงสุดแล้วเขาจึงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเพื่อที่ทั้งคู่จะได้ถึงจุดสูงสุดไปพร้อมกัน
“ซี๊ด อ่าส์”
“อ๊ะ อร๊าย”และแล้วทั้งคู่ก็ได้ถึงจุดสูงสุดไปพร้อมกัน ซึ่งพอเสร็จกิจแล้วกวินตราก็หลับไปทันทีด้วยความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมอันร้อนแรงที่ผ่านมา
เมื่อพยัคฆ์ยังรู้สึกอยากจะทำมันต่อสักแค่ไหนเขาก็ต้องยับยั้งใจไว้ก่อน เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกของกวินตราแถมยังมาเจอความใหญ่โตที่ไม่ธรรมดาของเขาอีก เขาจึงเห็นใจเธอขึ้นมาเพราะถ้าทำต่ออีกรอบนั้น ในวันพรุ่งนี้เธอคงเดินไม่ได้แน่ ๆ แล้วอีกอย่างยังมีเวลาอีกเยอะที่เขาจะสนุกกับเธอ