บทที่5
ตอนที่5.เรื่องแต่ง
ทันทีที่กวินตราตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ เธอก็เอาแต่ร้องไห้เพราะเธอนั้นดันเสียตัวให้กับใครก็ไม่รู้ ที่พึ่งได้เจอกันเมื่อวานแถมยังไม่ได้รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ แล้วด้วยความที่กวินตราเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุดเลยพยัคฆ์จึงหัวเสียกับเสียงร้องไห้ของเธอที่รบกวนเขาจนทำงานไม่ได้
“เธอจะร้องไห้อะไรหนักหนา!!!” พยัคฆ์เดินเข้ามาหากวินตราด้วยความรำคาญ
“เลิกร้องไห้เสียทีได้ไหม มันน่ารำคาญฉันทำงานไม่ได้!!!!”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉัน ฮึก” กวินตราตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ฮือ ฉันจะร้องไห้จนตายมันก็เรื่องของฉัน”
“ฉันไม่มีสิทธิสั่งเธองั้นเหรอ” พยัคฆ์พูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้าใกล้กวินตรา
“ใช่! อึก ฮึก”
“ทำไมฉันจะไม่มี ฉันมีสิทธิ์ในตัวเธอทั้งหมดต่างหาก” พยัคฆ์พูดพร้อมกับมองกสินตราด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“คุณไม่ใช่เจ้าชีวิตฉัน คุณจะมีสิทธิ์ได้ยังไง!”
“ฮึ ก็เพราะว่าเธอคือเมียฉันไงล่ะ เพราะฉะนั้นฉันมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง!!!”
“ไม่! ฉันไม่ใช่เมียคุณ!!!” กวินตราตอบกลับพยัคฆ์ทันทีด้วยความโมโห
“สงสัยเธอจะลืมเรื่องราวอันเร่าร้อนของเราเมื่อคืนแล้วสินะ”
“เดี๋ยวฉันจะทบทวนมันให้เธอเอง” พยัคฆ์พูดพร้อมกับค่อย ๆ คลานขึ้นเตียงไปหากวินตรา
“อย่านะ อย่าเข้ามานะ” กวินตราพูดพร้อมกับถอยหนี
เมื่อกวินตราเห็นว่าคำพูดของตัวเองห้ามไม่ให้คนตรงหน้าไม่ให้เข้ามานั้นไม่ได้และด้วยความกลัวเธอจึงเรียกหาพ่อของเธอขึ้นมาอีกครั้ง
“พ่อคะ พ่อช่วยตราด้วย”
เมื่อพยัคฆ์ได้ยินว่าคนตรงหน้าเรียกหาพ่อของตัวเอง จึงทำให้อารมณ์ความโกรธแค้นของพยัคฆ์พุ่งขึ้นมาอีกครั้งจนทำให้เขาจับแขนของกวินตราไว้แน่น
“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” ด้วยแรงบีบของพยัคฆ์ที่แรงมากจึงทำให้กวินตราร้องออกมาด้วยความเจ็บที่แขนของตัวเอง
“เธอหยุดเรียกหาพ่อของเธอเดี๋ยวนี้ ถ้าเธอไม่อยากเจ็บตัว”
“ทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วย!!!”
“พ่อคะ พ่อด้วยตาด้วย” ถึงแม้พยัคฆ์จะห้ามไม่ให้เธอเรียกหาพ่อของตัวเองแค่ไหน เธอก็ไม่ฟังและยังเอาแต่เรียกหาพ่อของตัวเองให้มาช่วย
“ฉันบอกให้หยุดเรียก!!!”
“ไม่!” ทั้งคู่มีปากเสียงกันอยู่พักใหญ่จนทำให้พยัคฆ์หมดความอดทนจนพูดเรื่องของพ่อกวินตราออกมา
“ถึงเธอจะตะโกนดังแค่ไหนพ่อเธอมันก็ไม่ได้ยินหรอก”
“แล้วอีกอย่างนะ เธอจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พ่อของเธอมันทำเอาไว้กับฉัน”
“เธอต้องเป็นคนรับผิดชอบในสิ่งที่พ่อเธอทำให้พี่สาวของฉันต้องตาย!!!”เมื่อกวินตราได้ยินในสิ่งที่พยัคฆ์พูดออกมาก็ทำให้เธอต้องอึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยินถึงแม้ว่าภายในใจของเธอจะไม่เชื่อแม้แต่นิดว่าพ่อของตัวเองจะทำแบบนั้นจริง ๆ
“ได้ยินสิ่งที่พ่อตัวเองทำถึงกับอึ้งเลยเหรอ” พยัคฆ์พูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือของตัวเองไปจับปอยผมที่แก้มของกวินตรา
“ไม่จริง! พ่อฉันไม่มีทางทำแบบนั้น!!!” กวินตรานั่งเงียบได้ไม่นานเธอก็เริ่มเถียงออกมาทันทีว่าสิ่งที่คนตรงหน้าพูดนั้นไม่ใช่เรื่องจริงและเธอยังคิดว่ามันจะต้องเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาแน่ ๆ
“เธอนี่มันเป็นลูกที่เห็นว่าพ่อฉันเป็นคนดีสินะ”
“คิดว่าพ่อของตัวเองเป็นคนดีเสียจนไม่รู้ว่าพ่อตัวเองทำสิ่งที่เหี้ยขนาดไหน”
“พ่อของฉันไม่มีทางทำในสิ่งที่คุณพูดเด็ดขาด”
“เรื่องที่คุณพูดมามันจะต้องเป็นเรื่องที่คุณแต่งขึ้นมาเองแน่ ๆ”
“นี่เธอ! จะคิดว่าพ่อตัวเองดีไปจนถึงขนาดไหน” เมื่อพยัคฆ์ได้ยินว่าคนตรงหน้าคิดว่าเรื่องที่เขาพูดออกมานั้นเป็นเรื่องที่เขานั้นแต่งขึ้นมาก็ทำให้เขาอารมณ์เสียมากขึ้น
“ถ้าพ่อของฉันทำจริง แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะ!!!”
“แล้วทำไมพ่อของเธอจะต้องบอกให้เธอรู้ล่ะ” สายตาของพยัคฆ์มองไปที่กวินตาด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
“บอกไปให้ลูกของตัวเองเกลียดน่ะเหรอ”
“ยังไงฉันก็ไม่เชื่อว่าพ่อของฉันจะทำมันจริง”
“เธอนี่มันเป็นลูกดีเด่นจริง ๆ นะ มีคนมาบอกว่าพ่อของตัวเองทำเรื่องชั่ว ๆ แล้วยังคิดว่าเป็นเรื่องแต่ง”
“แล้วทำไมฉันต้องเชื่อคุณด้วย ทั้ง ๆ ที่คุณเป็นใครก็ไม่รู้อยู่ดี ๆ ก็มาหาว่าพ่อฉันไปทำให้พี่สาวของตัวเองตาย”
“งั้นเธอก็เชื่อในตัวพ่อของเธอต่อไปก็แล้วกัน” พยัคฆ์พูดพร้อมกับสายตาที่มองไปที่กวินตราจนทำให้เธอกลัว
“แล้วเธอก็อยู่กับความเชื่อของเธอในห้องนี้ต่อไปไม่ต้องออกไปไหน!!!” พยัคฆ์พูดพร้อมกับเดินออกไปจากห้องและทำการล็อคหน้าห้องเอาไว้เพื่อที่จะไม่ให้คนข้างในออกไปไหนได้
“คุณจะขังฉันไว้ในนี้ไม่ได้นะ!!!” เมื่อกวินตรารู้ว่าตัวเองถูกขัง เธอก็รีบวิ่งไปที่หน้าประตูพร้อมส่งเสียงตะโกนออกมาจากด้านในก่อนจะใช้มือทุบประตู
“ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของคุณนะ จะมาขังฉันแบบนี้ไม่ได้!!!” แม้ว่ากวินตราจะตะโกนออกมาจากห้องดังแค่ไหนก็ไม่ได้ทำให้ตัวเองถูกปล่อยออกไปจากห้องเลย
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณพยัคฆ์” ป้าแม่บ้านได้ยยินเสียงตะโกนของกวินตราจึงขึ้นมาดูด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไม่มีอะไรครับป้า ผมแค่จะดัดนิสัยคนบางคน”
“อ้อป้าครับ เดี๋ยวเอาข้าวกลางวันไปให้ผมที่ห้องทำงานด้วยนะครับ” พยัคฆ์พูดจบก็เดินออกไปทันที
“เฮ้อ อดทนหน่อยนะคะคุณกวินตรา” ป้าแม่บ้านพูดพึมพำอยู่ด้านประตูก่อนจะเดินออกไปเตรียมอาการกลางวันให้พยัคฆ์
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ป้าเอาอาหารกลางวันมาให้ค่ะคุณพยัคฆ์”
“เชิญครับป้า”
เมื่อได้ยินว่าคนด้านในอนุญาตแล้ว ป้าแม่บ้านก็เดินเขาไปวางอาหารกลางวัน แต่พอวางอาหารแล้วป้าแม่บ้านก็มีท่าทีอ้ำอึ้งเหมือนต้องการมราจะพูดอะไรสักอย่างจนพยัคฆ์สังเกตเห็น
“ป้ามีอะไรหรือเปล่าครับ” พยัคฆ์เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ...คือว่า” ป้าแม่บ้านเอาแต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดออกไป
“ป้ามีอะไรก็พูดมาเถอะครับ”
“ให้ป้าเอาข้าวกลางวันไปให้ เอ่อ...”
“กวินตราน่ะเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ”
“ผมลืมบอกป้าไปผมฝากดูแลเรื่องอาหารให้เธอด้วยนะครับ”
“ถึงผมจะไม่ชอบเธอ...แต่ผมก็ไม่อยากให้ใครมาตายในบ้านของผม” พยัคฆ์พูดจบก็ก้มหน้าทำงานที่อยู่ตรงหน้าต่อด้วยความเย็นชา
“ได้ค่ะ คุณพยัคฆ์” ป้าแม่บ้านตอบกลับพยัคฆ์แล้วก็เดินออกจากห้องไป
เมื่อออกมาจากห้องทำงานของพยัคฆ์แล้วก็เดินลงไปเตรียมอาหารกลางวันให้กวินตราทันที เพราะป้าแม่บ้านเองก็รู้สึกเป็นห่วงกวินตราอยู่ไม่น้อย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณมีอะไร!!!” ด้วยความที่กวินตราคิดว่าคนที่มาเคาะประตูคือพยัคฆ์เลยตะโกนออกไปด้วยน้ำเสียงที่พอใจอย่างยิ่ง
“ป้าเอาอาหารกลางวันมาให้ค่ะ”
“ป้าเป็นใครคะ” กวินตรารีบถามด้วยความสงสัย
“ป้าเป็นคนดูแลความเรียบร้อยบ้านหลังนี้รวมถึงเรื่องอาหารด้วยค่ะ”เมื่อป้าแม่บ้านตอบกวินตราไปแล้วก็ถือถาดเข้าไว้ก่อนจะเอากุญแจไขและเอาอาหารเช้าไปให้กวินตราได้ทาน
“เรียกง่าย ๆ ว่าแม่บ้านนั่นแหละค่ะ”
“อ๋อ แล้วป้าเอาอะไรมาให้หนูกินเหรอคะ”
“ป้าทำข้าวผัดมาให้ค่ะ ป้ามารู้ว่าจะทำอะไรมาให้ดีพอกินได้ไหมคะ”
“กินได้ค่ะป้า ของโปรดหนูเลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า จริงเหรอคะ”
“จริงสิคะ” ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนคนสนิทกันมานานมาก
หลายวันผ่านไป
ตลอดระยะเวลาที่กวินตราถูกขังอยู่ในห้องก็มีป้าแม่บ้านที่คอยมาคุยมาอยู่เป็นเพื่อนบางเวลาเพื่อไม่ให้กวินตรานั้นเหงา
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นทางพ่อของกวินตราก็ร้อนใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าไม่สามารถติดต่อลูกสาวของตัวเองไม่ได้หลายวันแล้ว แม้กระทั่งเพื่อนของกวินตราที่ไปเที่ยวด้วยกันก็ติดต่อกวินตราไม่ได้เลย และไม่ว่าพ่อของกวินตราจะส่งคนตามหาขนาดไหนก็ไม่มีใครเจอเบาะแสแม้แต่นิดเดียว
“เจอเบาะแสของลูกฉันไหม” พ่อของกวินตราเอ่ยถามคนที่เขาได้จ้างตามหาลูกสาวของตัวเอง
“ไม่เจอเลยครับ”
“ออกไปได้” ทันทีที่พ่อของกวินตราบอกให้ออกไปคนที่ถูกจ้างก็เดินออกไปทันที
“ลูกสาวพ่อหนูหายไปไหนกันนะ” พ่อของกวินตรานั่งมองรูปของลูกสาวตัวเองพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าหมองแต่ในขณะที่พ่อของกวินตรากำลังร้อนใจเรื่องลูกของตัวเองอยู่นั้นก็มีบุคคลปริศนาได้ส่งข้อความเข้ามา
ข้อความจาก xxx
ลูกสาวหายไปหลายวันติดต่อไม่ได้ป่านนี้หนีไปมีผัวไปแล้ว
ซึ่งพ่อของกวินตราเห็นก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าคงเป็นพวกที่ชอบส่งข้อความก่อกวนคนอื่น