บทที่ 5
"ตรวจสอบหรอ ตรวจสอบบ้าอะไรวะ เรื่องมันผ่านมาตั้งสิบกว่าปีแล้ว คิดจะมาตรวจสอบเรื่องของผมตอนนี้มันไม่สายเกินไปหรือไง"
"กะ ก็สายค่ะ แต่ฉันอยากให้คุณฟังเหตุผลของแม่บ้าง อย่างน้อยท่านก็ตายไปแล้ว ฉันอยากให้ท่านสบายใจ"
"งั้นผมจะบอกให้นะ ว่าแม่คุณไม่มีทางสบายใจได้หรอก" คนตัวโตบอกเสียงเย็น แล้วยกมือขึ้นมาบีบแก้มเธอแรงๆ ด้วยสายตาคาดโทษ
"โอ๊ย! ฉันเจ็บนะ"
"เห็นไหมล่ะ ถ้าคุณเจ็บแม่คุณไม่มีทางสบายใจหรอก"
"ทำไมคุณถึงไม่คิดจะฟังเหตุผลของคนอื่นบ้างเลย" ประดับดาวที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีชนิดยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเอ่ยถามเขาทั้งน้ำตา และพยายามสะบัดหน้าออกจากอุ้งมือหนาที่เขาเพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่ปรานี
"เหตุผลงี่เง่านั่นคงไม่จำเป็นแล้วมั้ง เพราะไม่ว่าพวกคุณจะมีเหตุผลสวยหรูสักแค่ไหน มันก็ชดใช้กับสิ่งที่ผมต้องเจอไม่ได้อยู่ดี"
หญิงสาวนิ่งฟัง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างหมดหนทางจะโต้แย้ง "ฉันขอโทษ"
"ขอโทษแล้วมันหายไหม"
"แล้วคุณต้องการอะไรล่ะคะ ฉันถามไปตั้งหลายครั้งแล้ว คุณก็ไม่ยอมบอกสักที" คนตัวเล็กถามด้วยอารมณ์คุกรุ่น ทว่าท่าทางของเธอเหมือนลูกแมวที่กำลังโกรธมากกว่าจะดูน่ากลัว
"ผมบอกไปหลายครั้งแล้วนะ" ธาวินบอก แล้วคลี่ยิ้มร้ายที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย
"อะไรล่ะคะ"
"ก็ความทรมานของแม่คุณไง" เขาตอบ
"แต่แม่ฉันตายไปแล้ว ท่านไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วค่ะ"
"หรอ แล้วคุณคิดว่าตอนนี้แม่คุณจะอยู่บนสวรรค์หรือในนรกล่ะ"
"สวรรค์สิคะ" เธอตอบอย่างไม่ลังเล
"หึ ถ้าอย่างนั้นเวลาที่แม่คุณมองลงมาคงปวดใจน่าดู เพราะถ้ามองจากข้างบนลงมาต้องเห็นชัดกว่าข้างล่างแน่ๆ"
"หมายความว่าไง"
หญิงสาวถามด้วยความงุนงง ก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเธอถูกเขาเหวี่ยงลงมาบนโซฟาที่อยู่ด้านหลัง
ตุ๊บ!
"โอ๊ย!" คนตัวเล็กร้องขึ้น แล้วพยายามขยับหนีคนที่กำลังจะตามลงมาทาบทับ "อย่าคิดจะทำอะไรบ้าๆ นะคุณ"
ธาวินฉีกยิ้มกว้างและยกมือหยาบกร้านขึ้นมาวางบนเรียวขาทั้งสองข้างของเธอ ก่อนจะออกแรงดึงให้ร่างบอบบางนอนราบไปกับโซฟาสีแดงสดเพื่อข่มขวัญ
"ฉันขอร้อง อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ" ประดับดาวประนมมือขึ้นไหว้ขอร้องเขาทั้งน้ำตา ทว่าคนตรงหน้ากลับส่ายหน้าและปัดมือของเธอทิ้งไป
"อยากร้องก็ร้องไปสิ ไม่ต้องขอ"
"อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ"
ขณะที่เธอพยายามอ้อนวอนให้เขาหยุด คนตัวโตกลับใช้เข็มขัดหนังเส้นใหญ่มัดข้อเท้าเล็กเอาไว้ แล้วถอดเนกไทออกมามัดข้อมือเล็กอีกครั้งแทนเชือกที่เธอแก้ออกไป
"คุณจะทำอะไรน่ะ !?"
"ก็เห็นอยู่แล้วจะถามทำไม" เขาบอกอย่างหัวเสีย เพราะเธอดิ้นรนขัดขืนไม่เลิก
"ปล่อยนะ ฉันไม่ใช่นักโทษนะคุณ"
"ไม่ใช่ก็ต้องใช่แล้วล่ะ แผนการแก้แค้นของผมเริ่มต้นขึ้นแล้วคนสวย"
ประดับดาวอ้าปากพะงาบๆ เพราะท่าทางและแววตาเอาเรื่องของเขาทำให้เธอไม่กล้าต่อกรด้วย
"ฉันขอร้องล่ะ อย่ามัดฉันไว้แบบนีี้เลยนะคะ"
"ทำไมล่ะ กลัวแล้วหรอ" ร่างสูงถามกลั้วหัวเราะ
"ค่ะ ฉันกลัว"
"ยอมรับง่ายจังนะ คิดว่าผมจะใจดีแล้วปล่อยคุณไปล่ะสิ"
"เอ่อ..." หญิงสาวอึกอักเพราะลึกๆ แล้วเธอก็หวังให้เป็นแบบนั้นอยู่เหมือนกัน
"แต่เสียใจด้วยนะ ผมไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ก็บอกแล้วไงว่าจะแก้แค้น แล้วแผนของผมก็เริ่มแล้วด้วย" คนใจร้ายบอกหน้าตาย แล้วผละออกไปเมื่อเขาจัดการมัดมือมัดเท้าของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"แต่ฉันต้องกลับบ้าน"
"ถ้าผมไม่อนุญาตให้คุณกลับ คุณก็ไม่มีทางออกไปจากที่นี่ได้หรอก คุณประดับดาว" ธาวินบอก แล้วเดินไปอยู่ที่หน้าประตูห้อง "ผมยังไม่ได้บอกชื่อผมใช่ไหม"
"ไม่ต้องบอกก็ได้ค่ะ ฉันไม่อยากรู้" คนตัวเล็กตอกกลับ แล้วสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น
"ว้า...า อย่างน้อยคุณก็ควรจะรู้ไว้นะ เพราะว่าเวลาครางจะได้เรียกชื่อผมถูก"
"เอ๊ะ! แล้วทำไมฉันต้องครางด้วย"
"โตแล้วนะ คิดเองสิ" ชายหนุ่มบอกกลั้วหัวเราะ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับที่ลูกบิดประตูเพื่อเตรียมจะเปิดออกไป
"ฉันไม่คิดอะไรทั้งนั้น"
"ไม่คิดก็ไม่ต้องคิด เย็นนี้ก็อดข้าวไปนะ จะซ้อมตายก็ได้ไม่ว่า"
"ไอ้คนเลว!" ประดับดาวตะโกนใส่เขาอย่าเหลืออด
"ผมชื่อธา ถ้าคราวหน้ายังเรียกไม่ถูกอีกจะปล้ำ"
คำขู่ของเขาทำเอาร่างบางแข็งค้าง แล้วรีบหุบริมฝีปากของตัวเองที่ตั้งท่าจะด่าอีกฝ่ายลงทันควัน
ให้ตาย! เธอต้องติดแหงกอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหนกัน