บท
ตั้งค่า

3

3

ญารินดาสูงกว่ากันตาเพียงเล็กน้อย ญารินดาหน้าเรียวเล็ก โตขึ้นคงสวยเหมือนมารดา ส่วนกันตาหน้ากลมรูปหัวใจน่ารัก กริชไทหวีผมหน้าม้าให้น้องๆ อีกรอบ ก่อนจะกวักมือเรียกให้น้องเข้ามาหา

“เวลาเล่นซนเงินจะได้ไม่หล่น พอแกะยางเอาเงินมาซื้อขนม ต้องมัดไว้เหมือนเดิมนะ จำเอาไว้” กริชไทสอดเงินเหรียญในกระเป๋ากระโปรงของน้องทั้งสองก่อนถลกกระโปรงขึ้นใช้ยางมัดเหรียญเอาไว้จากด้านใน

“หญ้าหวานจะดูน้องเองค่ะ” ญารินดารับคำอย่างแข็งขันปล่อยให้กริชไทมัดเหรียญให้จนเสร็จ

ความจริงแล้ว ญารินดาและกันตาโตพอที่จะเก็บเงินได้แล้ว แต่ด้วยความเป็นพี่ที่ห่วง กลัวน้องจะอดเพราะทำเงินหายเลยใช้วิธีนี้ตั้งแต่เด็ก และน้องทั้งสองก็ไม่เคยปริปากบ่น

“เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ไปกันได้แล้ว” กริชไทจูงมือน้องน้อยทั้งสองขนาบข้างซ้ายขวา เขาตัวสูงกว่าน้องมากเพราะเป็นวัยรุ่นแล้ว ส่วนน้องๆ นั้นผอมเก้งก้างตามวัย

“วันนี้พี่กระทิงต้องมาดูหญ้าหวานกับกันตารำนะคะ” ก่อนลงจากรถญารินดาก็หอมแก้มเด็กหนุ่มด้วยความเคยชิน ออดอ้อนให้เขามาดูเธอกับกันตารำ

“อือ...” กริชไทรับคำเออออ ลูบแก้มตัวเองไปมา เพราะวัยของเขามีความสนใจต่อเพศตรงข้ามบ้างแล้ว การโดนน้องๆ หอมแก้มจึงเกิดความรู้สึกแปลกๆ ตามวัย เขายังไม่มีแฟน ไม่ใช่เพราะไม่สนใจสาวที่ไหน มีเพื่อนๆ วัยเดียวกันในโรงเรียนน่ารักหลายคน แต่เพราะเด็กสาวคนไหนที่เข้าใกล้เขาเกินกว่าเหตุมักถูกน้องๆ ทั้งสองสกัดจนร่วง เผ่นแทบไม่ทัน

พอขับรถไปได้สักระยะหนึ่ง ลุงเพิ่มก็ต้องเบรกรถกะทันหันเมื่อได้ยินเสียงนายน้อยของเขาสั่งมาจากด้านหลังเบาะรถ

“ลุงเพิ่มหยุดก่อนครับ” กริชไทสั่งแล้วไม่รอช้า แทบกระโจนลงจากรถลงไปช่วยเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังโดนรังแกอยู่ข้างทาง

“แกทำอะไรไอ้สืบ รังแกเด็กหรือไง” กริชไทตรงเข้าไปประคองร่างของม่านฟ้าเอาไว้

ม่านฟ้าเป็นเด็กยากจนที่บ้านอยู่ห่างจากโรงเรียน ต้องเดินไปโรงเรียนทุกวัน

“แกแส่อะไรด้วยวะไอ้กระทิง”

“ก็ไม่ได้อยากยุ่ง ถ้าแกจะไม่รังแกเด็ก”

“เฮ้ย! ไอ้นี่อยากเป็นพระเอกว่ะพวกเรา จัดการมันเลย” สืบสายไม่สน ใครขวางเป็นแหลก

“นายน้อยครับ”

“ผมไม่เป็นไรครับลุง แน่จริงแกอย่าหมาหมู่สิวะ ตัวต่อตัว เพราะถ้าแกหมาหมู่ ก็อย่าหาว่าฉันเอาผู้ใหญ่มารังแกเด็ก”

กริชไทหมายถึงลุงเพิ่มที่ยังไม่แก่และยังแข็งแรง สืบสายเมื่อโดนท้าก็ต้องตัวต่อตัว กลายเป็นชกต่อยกันอีกรอบ เป็นเหตุให้ต้องเชิญผู้ปกครอง

หลังจากนั้นมา ม่านฟ้าก็ซาบซึ้งในบุญคุณของกริชไทเสมอ มีอะไรที่จะช่วยเขาได้ เธอจะทำทันทีโดยไม่เกี่ยงงอน กริชไทเองเป็นคนมีน้ำใจ จึงมีเพื่อนฝูงมากมาย เขารู้จักแบ่งปันและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จึงเป็นที่รักของทุกคน

แม้ใบหน้าจะฟกช้ำดำเขียวขนาดนี้ กริชไทก็ไม่ลืมมาดูน้องน้อยทั้งสองรำไทย เขาทำหน้าที่เป็นตากล้องถ่ายรูปน้องๆ ทุกช็อต จนได้ภาพสวยทุกภาพ

“พี่กระทิงรอหญ้าหวานด้วย อย่าเดินหนีหญ้าหวานสิคะ” เด็กหญิงญารินดาร้องเรียกเด็กหนุ่ม เท้าน้อยๆ คอยตามติดอยู่ไม่ห่าง

“ไปเล่นกับกันตาโน่น พี่จะไปเตะบอลกับเพื่อนๆ”

“ไม่เอา หญ้าหวานจะเล่นกับพี่กระทิง” เด็กหญิงตัวน้อยทำท่าเบะปากเหมือนจะร้องไห้

กริชไทถึงกับยีหัวไปมากับเจ้าจอมยุ่ง เดี๋ยวคงร้องไห้ไปฟ้องพ่อว่าเขารังแกเอาอีก

“เล่นอะไร” ถามอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเล่นกับน้องๆ แต่เพราะเด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายเล่นไม่เหมือนกัน กิจกรรมของเด็กผู้หญิงน่าเบื่อหน่าย วันๆ ไม่เห็นจะทำอะไร นอกจากเล่นขายของ แต่งตัวตุ๊กตา แล้วก็กิจกรรมร้องเพลงประกอบจังหวะ

“วันนี้หญ้าหวานกับน้องกันตาจะทำขนมครกขาย พี่กระทิงมาอุดหนุนหน่อยนะคะ นะๆๆๆ หญ้าหวานเตรียมเงินเอาไว้ให้แล้ว เยอะแยะเลย” ญารินดาออดอ้อนตาใส

กริชไทถอนใจพรืดอีกรอบก่อนจะเดินตามน้องน้อยไปที่ร้านขายขนมครก ไม่เคยใจแข็งกับลูกอ้อนยัยตัวแสบได้เลยสักครั้ง

“เย้... พี่กระทิงมาแล้ว” น้องสาวตัวน้อยตบมือเปาะแปะรอท่าอยู่ก่อนแล้ว

กริชไทกวาดสายตามองขนมครกที่น้องๆ เขาทำขายกันแล้วอดนึกขำไม่ได้ พนากำลังขะมักเขม้นกับการแคะขนมครกอย่างแข็งขัน บางทีเขาก็นึกสงสารพนาอยู่เหมือนกัน เด็กชายตัวน้อยอายุเท่าๆ กับกันตาน้องสาวของเขา ทั้งสองเรียกว่าสนิทกับมาก เป็นเพื่อนเล่นกันแต่เด็ก ฐานะทางบ้านของพนาลำบากพ่อแม่เป็นแค่คนงานในไร่ ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลยสักอย่างแค่กระท่อมเก่าๆ หลังเดียว บิดามารดาของเขาสงสารจึงช่วยเหลือเรื่องเล่าเรียนอยู่หลายครั้ง พนาหัวดีเป็นเด็กใฝ่เรียน นั่นยิ่งทำให้บิดามารดาของเขาสนับสนุนเต็มที่ หลวงตาที่วัดก็ให้ทุนการศึกษาอยู่ทุกปี

กันตาน้องของเขาเห็นพนาเป็นเพื่อนและทาส เขาคิดว่าใช้คำนี้น่าจะถูกเพราะไม่ว่ากันตาจะใช้ให้พนาทำอะไร เด็กชายตัวน้อยก็ไม่เคยขัดเพราะระลึกถึงบุญคุณที่บิดามารดาของเขาคอยช่วยเหลือครอบครัว เรียกว่าพนาเป็นลูกไล่น้องสาวของเขา จัดการคนที่มารังแกกันตา แล้วก็คอยทำการบ้านให้น้องสาวเขาหลายครั้ง แต่เขาไม่เคยเห็นความไม่พอใจของพนาเลยสักครั้ง อาจเพราะยังเด็ก ถ้าโตขึ้นเขายังนึกไม่ออกว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

“เร็วๆ สิไม้ ลูกค้ารายใหญ่มาแล้วไม่เห็นเหรอ” เสียงของกันตาแว๊ดๆ ใส่ทาสผู้ซื่อสัตย์

กริชไทเห็นเข้าก็ถึงกับส่ายหัว ปากเล็กๆ จิ้มลิ้มกำลังสั่งไม่หยุด มือเล็กๆ เท้าสะเอวเหมือนคุณนายขี้โมโหไม่พอใจที่ทาสรับใช้ทำงานไม่ถูกใจ

พนาไม่ปริปากบ่นสักคำ เร่งแคะขนมครกอย่างเร่งด่วน จริงๆ แล้วขนมครกของพวกน้องๆ นั้นไม่ใช่ขนมที่กินได้ เขาเห็นพนาเอาน้ำในถังมาเทบนพื้นดินให้เปียกชุ่มสักพักก็เอาช้อนมาขุดเป็นรูเหมือนหลุมขนมครก แล้วดินรูปร่างเหมือนขนมครกที่ถูกขุดก็กลายเป็นขนมครกๆ แฉะๆ นำมาขาย

“นี่เงินจ้ะพี่กระทิง หญ้าหวานเตรียมมาไม่อั้นเลยนะจ๊ะ” ญารินดาเข้าคล้องแขนเด็กชาย สมมุติเอาว่าเป็นสามีภรรยาที่รักกำลังเดินมาจ่ายตลาด

“เอาขนมครกจ้า เหมาหมดเลยนะจ๊ะแม่ค้า พี่กระทิงว่าดีไหมจ๊ะ” ยัยตัวดีที่คล้องแขนเงยหน้าจิ้มลิ้มขึ้นมาถาม

กริชไทพยักหน้าส่งๆ อยากให้การเล่นขายของจบเร็วๆ เขานัดเพื่อนเตะบอลเอาไว้

“เร็วๆ สิไม้ ลูกค้ารออยู่นะ” กันตารีบสั่ง

พนาเอาช้อนตักก้อนขนมครกสีขุ่นๆ เพราะเป็นขนมครกดินขึ้นมาใส่ใบตองที่ทำกระทงเอาไว้

“มีหัวหอมขายด้วยจ๊ะ เอาไหมจ๊ะ” หัวหอมของกันตาคือต้นผักตบชวาที่นำมาตัดรากและตัดใบออกเหลือแต่ลำต้นพองๆ สมมุติให้เป็นหัวหอม

แล้วเมียสมมุติของเขาก็ซื้ออีกไม่อั้นเพราะเงินที่ทำจากใบไม้เป็นปึกถูกดึงออกมาอย่างไม่เสียดาย

“เฮ้ย! ดูสิวะได้กระทิงเล่นขายของเหมือนตุ๊ดเลยว่ะ”

เสียงยียวนของสืบสายดังขึ้นเลยวงแตกกระจาย เกิดการตะลุมบอนกันอีกจนใบหน้าฟกช้ำกลับไป

สามครอบครัวยิ่งบาดหมางมากขึ้นไปอีก เพราะพ่อแม่โกรธตามลูกๆ ไปด้วย เลยกลายเป็นว่าลูกทะเลาะกัน พ่อแม่ก็ทะเลาะตามกันไปด้วย ยิ่งบิดามารดาของสืบสายยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ยอมให้ใครแตะต้องลูกชายเลยแม้แต่ปลายก้อย

ญารินดาแอบมองแขกของบิดามารดาด้วยความสงสัยก่อนที่เธอจะถูกเรียกไปพบ

หลังจากเล่นซนกับกันตาจนสกปรกเลอะเทอะไปหมด แต่ผู้สูงวัยซึ่งเป็นแขกของบิดามารดากลับไม่รังเกียจ กอดเธอเสียแน่น มารดาเองแสดงสีหน้าเป็นกังวลจนเธอสังเกตได้

“ให้หญ้าหวานไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะคุณหญิง ดิฉันเกรงว่าลูกจะทำให้ท่านเลอะน่ะค่ะ”

ญาดาพูดอย่างนอบน้อมและกริ่งเกรง

“แค่กอดหลาน หล่อนจะขัดขวางหรือไง เอาลูกชายฉันมาแล้ว ยังขัดขวางไม่ให้ฉันเจอกับหลานอีก” เสียงสะบัดค้อน

จนญาดาหน้าเสีย

“ดาเค้าไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะครับคุณแม่” รัชวิทย์รีบแก้แทนภรรยา บีบมืออีกฝ่ายเอาไว้เพื่อให้กำลังใจ

“ย่ะ! ออกรับแทนกันจริง ฉันมาวันนี้เพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” คุณหญิงรัชนีพูดตรงประเด็น ปล่อยให้หลานสาวคนเดียวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่

“คุณแม่ต้องการให้ผมรับใช้อะไรเหรอครับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel