ตอนที่ 7 คุณไม่เคยมีแฟนเลยเหรอ
หมอกู้ที่รอหน้าห้องเมื่อเห็นเธอก็เอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงอย่างไม่รู้ตัว
" บอกแล้วว่าให้เรียกผม เกิดหกล้มขึ้นมาจะทำไง "
เขาตำหนิเธอด้วยสีหน้านิ่งๆแล้วอุ้มเธอขึ้นมาเดินกลับไปวางเธอนอนลงบนเตียงดังเดิม
เพลงพิณรู้สึกว่ายิ่งอยู่ใกล้หมอกู้ ความกล้าจีบผู้ชายของเธอก็ลดน้อยลงทุกที
หมอกูเลื่อนโต๊ะทานข้าวมาตรงหน้าเธอแล้วเอ่ยถามอย่างใส่ใจว่า
" จะทานข้าวเองได้มั้ย หรือจะให้ป้อน "
เพลงพิณที่เริ่มรู้สึกเขินอายเป็น ก็เอ่ยตอบเขาไปว่า
" ทานเองค่ะ คุณทานข้าวเช้าของตัวเองเถอะ
ยังต้องไปทำงานอีกไม่ใช่เหรอ "
หมอกู้ยิ้มอ่อนแล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยนด้วยสีหน้าที่ดูเศร้าหมอง
" อือ งั้นเราทานข้าวพร้อมกันเลยนะ นานแล้วที่ผมไม่ได้ทานข้าวกับใครแบบนี้ "
เพลงพิณกำลังจะตักข้าวต้มเข้าปากเห็นสีหน้าเศร้าๆของเขา
เธอก็หยุดชะงักแล้วจ้องหน้าหมอกู้ด้วยความลังเลใจ
เธอกำลังลังเลว่าจะถามหรือไม่ควรถามเรื่องส่วนตัวเขา
หมอกู้ที่ก้มหน้าทานข้าวตรงหน้าเธอจึงเอ่ยขึ้นโดยไม่รอให้เธอถาม
" ผมเคยมีแฟนน่ะ แต่เลิกกันแล้ว เธออยากเป็นดารา อยากเป็นนางแบบ
แต่ผมช่วยผลักดันเธอไม่ได้ พอเธอเจอคนที่ซัพพอร์ตเธอได้
เธอก็เลือกผู้ชายคนนั้นอย่างไม่ลังเล จนทุกวันนี้ผมรู้สึกว่า
ผู้หญิงคบคนที่เงินและอำนาจ ยากที่จะเจอผู้หญิงที่รักกันด้วยใจ "
เพลงพิณรู้สึกเห็นใจและสงสารเขา เธอที่ไม่มีประสบการณ์เรื่องความรักก็ไม่รู้จะปลอบยังไงดีจึงได้แต่ยิ้มแหยออกมาอย่างลำบากใจแล้วเอ่ย
" จะว่าไปความรักมันก็ไม่ได้สวยงามเสมอไปน้อ นับว่าเป็นความโชคดีของฉันที่ไม่เคยมีแฟน "
เมื่อหมอกู้ได้ยินเธอเอ่ยแบบนี้ก็อึ้งไป แล้วเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยถามเธอด้วยความสงสัย
" คุณไม่เคยมีแฟนเลยเหรอ "
เพลงพิณยิ้มอย่างเขินๆแล้วเอ่ยตอบเขาไปว่า
" ใช่ค่ะ มันแปลกเหรอ? "
หมอกู้ยิ้มออกมาแล้วเอ่ยตอบเธอว่า
" อือ มันแปลก คุณอายุเท่าไหร่นะ 22 ย่างเข้า 23 ใช่มั้ย "
" ใช่ แปลกตรงไหนกัน ไม่มีแฟน ดีออก ไม่ทุกข์ ไม่เศร้า ไม่เสียใจ ชีวิตอิสระ มันดีจะตาย "
เพลงพิณเอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิใจอย่างไม่สนใจอะไร
หมอกู้รู้สึกว่าเรื่องราวของเพลงพิณน่าสนใจ ตั้งแต่เกิดมา
เขายังไม่เคยเจอคนที่ไม่เคยมีแฟนในช่วงอายุ16-23 ปีมาก่อน
" แล้วทำไมคุณถึงไม่มีแฟนล่ะ คุณก็น่ารักดีนี่ "
เพลงพิณแอบเขินเมื่อคนที่เธอชอบชมออกมาตรงๆแบบนี้ แล้วเธอก็เอ่ยตอบเขาไปว่า
" ฉันไม่รู้จะมีแฟนไปทำไม ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครถูกใจหรือผ่านมาตรฐานสายตาฉันเลยสักคน "
หมอกู้ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มออกมาเบาๆแล้วเอ่ย
" ผมเข้าใจแล้วที่คุณโสดเพราะมาตรฐานคุณสูง ไม่ถูกใจคุณก็จะไม่เลือกเลย ผมชื่นชมคุณนะ "
" ขอบคุณค่ะ "
ทั้งสองยิ้มให้กัน แล้วหมอกู้ก็เอ่ยว่า
" ทานข้าวเถอะ เดี๋ยวถ้ามันเย็นแล้วจะไม่อร่อย "
" ค่ะ "
หมอกู้ก้มหน้าทานข้าวอย่างเงียบๆ แอบรู้สึกดีใจที่ตัวเองถูกใจเพลงพิณ
ส่วนเพลงพิณก็เอาแต่แอบจ้องหน้าหมอกู้อย่างเงียบๆได้แต่เอ่ยในใจว่า
[ ผู้ชายที่มาตรฐานของฉันคือคุณค่ะ ]
หมอกู้รู้สึกได้ถึงสายตาของเพลงพิณที่จ้องเขาอยู่ เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอแล้วเอ่ยถามขึ้น
" หน้าผมมีอะไรน่ามองเหรอ "
" อ้อ ปละ เปล่าค่ะ "
เพลงพิณรีบหลบตาก้มหน้าทานข้าวกลบเกลื่อนความเขินอายอย่างไว
ทางด้านคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลหวัง นายหญิงหวัง นั่งจิบชากลางสวนอย่าสงบ
แล้วมีลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาหาแกแล้วเอ่ยรายงานว่า
" นายหญิง พนักงานโรงแรมรายงานมาว่า คุณหนูเพลงพิณไม่ได้กลับเข้ามาพักในโรงแรมหลายวันแล้วครับ "
นายหญิงหวังวางถ้วยชาลงแล้วหันไปมองลูกน้องคนสนิทพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
" หนูเพลงพิณจะไม่กลับมาพักที่โรงแรมได้ยังไง เธอเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกนะ แล้วเธอก็ไม่มีที่พักที่อื่น
คุณไปสืบดูหรือยังว่าได้ถูกคนของเซียงหยางจับตัวไปแล้วหรือเปล่า "
" ไม่ใช่ครับนายหญิง คุณชายยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณหนูเพลงพิณพักอยู่ชั้นเดียวกับเขา
อีกอย่างทางคนของคุณชายก็ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดๆเลยครับ "
นายหญิงหวังนั่งครุ่นคิดสักพักแล้วเอ่ย
" ส่งคนออกไปตามหาหนูเพลงพิณอย่างเงียบๆ อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด "
" รับทราบครับ "
" อ้อ แล้วแม่ดารานั่นยังไปหาเซียวหยางอยู่มั้ย "
" ครับ เมื่อวานสายทางโรงแรมแจ้งมาว่า เธอไปค้างคืนที่นั่นครับ "
นายหญิงหวังยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเยือกเย็นเหมือนจะคิดอะไรได้ จากนั้นก็เอ่ยว่า
" ก็ดี ในเมื่อหล่อนอยากจะเป็นภรรยาเซียวหยางจนตัวสั่น
งั้นก็ช่วยให้หล่อนสมหวังสักครั้งก็แล้วกัน งานแต่งเซียวหยางเดือนหน้า
หากยังไม่พบตัวหนูเพลงพิณ ก็ให้เป็นงานแต่งของหล่อนกับเซียวหยางเลย
แต่เรื่องนี้ให้คนนักข่าวรู้ไม่ได้เด็ดขาด ว่าเซียวหยางแต่งงานกับหล่อน
จัดงานแต่งขึ้นอย่างลับๆ หลังจากพบตัวหนูเพลงพิณแล้ว
ก็เฉดหัวหล่อนทิ้งซะ ที่สำคัญอย่าให้หล่อนท้องกับเซียวหยางเด็ดขาด "
" รับทราบครับ เอ่อ นายหญิง แล้วจะให้แจ้งคุณชายทราบก่อนมั้ยครับเรื่องแต่งงานกับคุณยี่หราน "
" ฉันจะโทรบอกเซียวหยางเอง คุณไปทำหน้าที่ของคุณเถอะ "
" ครับ "
ชายร่างสูงค้อมตัวอย่างนอบน้อมก่อนหมุนตัวเดินออกไป
นายหญิงหวังในวัย 60 ปี ยกชาขึ้นมาจิบเบาๆ
แม้แกจะมีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าแต่แววตายังคงทรงพลังอำนาจ
ดูลุ่มลึกน่าเกรงขาม ทอดมองออกไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายพร้อมกับพึมพำในใจว่า
[ เป็นผู้หญิงดีๆไม่ชอบ ดันอยากจะเป็นของเล่นให้เซียวหยาง
หึ คิดจะท้าทายฉันงั้นเหรอ เดี๋ยวก็รู้ ฉันจะทำให้ผู้หญิงร้ายยางอายที่เอาตัวเข้าแลกแบบเธอ
ล้มเหลวในเส้นทางที่เดินอย่างน่าสมเพช ผู้คนรุมประนาม รังเกียจ
คิดจะใช้เซียวหยางเป็นเครื่องมือยกระดับฐานะทางสังคมของตัวเองงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ ]
นายหญิงหวังมีแผนร้ายในใจ โดยไม่มีใครรู้ และไม่มีใครเคยเดาความคิดแกออกเลย
แกเป็นผู้บริหาร หวังซื่อกรุ๊ป มาตลอดหลายปี
หลังจากที่สามีกับลูกชายเสียชีวิต แกยืนหยัดอย่างเด็ดเดี่ยวท่ามกลางเสียงวิพากวิจารณ์ของเหล่าผู้ถือหุ้น
แกพยายามบริหารบริษัทต่อจากสามี จนเป็นที่ยอมรับนับถือและเชื่อมั่นในตัวแก
แกลุกขึ้นมาเป็นเสาหลักให้กับตระกูลเป็นเสาหลักให้ลูกสะใภ้
เพื่อที่จะให้เธอทำหน้าที่แม่อย่างไร้ความกังวลใดๆ เลี้ยงลูกให้เป็นผู้นำที่ดีในอนาคต