บทที่ 5 เธอนี่ทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายจริงๆ
มุกดามองดูประตูที่ถูกเปิดออก เธอขยับไปด้านหลังอย่างระมัดระวัง สายตาเย็นชามองไปยังคนที่ออกมาจากด้านในคนนั้น
คนคนนั้นสูงมาก คงจะประมาณหนึ่งร้อยเก้าสิบเมตรสินะ เขาสวมชุดสูทตัดเย็บด้วยมือสีน้ำเงินเข้ม ดูดีกว่านายแบบต่างชาติเสียอีก
เพียงแต่ร่างของเขาแผ่กลิ่นอายบางอย่างที่ทำให้คนรู้สึกไม่อยากจะเข้าใกล้สักเท่าไหร่
ชลธีลงจากรถ แต่กลับไม่เหลือบมองมุกดาแม้แต่นิดเดียว เขาเพียงแค่หันไปมองดูท้ายรถและมองรถของเขาอย่างเรียบเฉยสักพัก
ที่ท้ายรถถูกก้อนหินปาเป็นรอยยุบเล็ก ๆ หนึ่งรอย แต่ไม่ถือว่าร้ายแรงอะไรมาก
เมื่อตรวจสอบรถดูแล้วชลธีก็หันกลับมาพูดกับมุกดา
“วันนี้ตอนเช้าจะให้เงินเธอ เธอก็ไม่เอา ก็เพราะรอหาข้ออ้างเพื่อมาตามรังควานฉันสินะ? เธอนี่ทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายจริงๆ” ชลธีดูถูกเหยียดหยามมุกดาเป็นอย่างมาก
มุกดารู้สึกอัดอั้นตันใจมาตลอดทั้งวันแล้ว ตอนนี้จึงระเบิดมันออกมาทั้งหมด เธอซวยมากพออยู่แล้วเข้าใจไหม แล้วยังมาถูกคนกล่าวหาว่าทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอีก
“ฉันทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย? ฉันจะไปรู้ว่าคุณจะไปทางนี้ได้อย่างไร? แล้วอีกอย่าง ฉันรู้จักคุณเหรอ? คุณนี่มันสุด ๆ ไปเลย ฉันจะตามรังควานคุณไปทำไมกัน? เจอเรื่องเหลือเชื่อจริง ๆ เลย!” มุกดาแผดเสียงคำราม ไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองเลยสักนิด พอเธอพูดจบแล้ว ก็วิ่งหนีไปด้วยความโกรธ
วันนี้เป็นปีที่ทำอะไรก็ไม่ราบรื่นเลยจริงๆ นี่เธอไปทำผิดต่ออะไรเข้าหรือเปล่า ทำไมเจอเรื่องอะไรก็ไม่ได้ดังใจไปเสียหมด
มุกดาด่าชลธีเข้าไปปาวๆ จนคนขับรถรู้สึกกังวลแทนเธอ ช่างไม่กลัวตายเสียจริงๆ ยังมีคนที่ไม่เกรงกลัวคุณชายใหญ่ของตระกูลสุวรรณเลิศด้วยเหรอ? แต่ผู้หญิงคนนี้ดันวิ่งเข้าใส่คมมีดเสียได้ ถึงแม้คนขับรถจะพยายามส่งสายตาให้กับเธอแต่เธอก็ไม่มองเลยสักนิด
สีหน้าของชลธีมืดครึ้มขึ้นเรื่อย ๆ เขาโตมาขนาดนี้แล้วยังไม่เคยถูกใครด่ามากก่อนเลยจริงๆ
แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าคนที่ด่านี้น่าสนใจมากจริง ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีปัญหาในใจใช่หรือเปล่า
จู่ ๆ ชลธีก็นึกถึงท่าทางนั้นของมุกดาเมื่อคืน มันเร่าร้อนมาก ทำไมเขาถึงยังมีความรู้สึกคิดถึงอยู่ด้วยล่ะ?
“ท่านประธาน นี่...” คนขับรถเห็นสีหน้าของชลธีดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เขาเลยรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก เลยคิดจะพูดแทนมุกดาสักสองประโยค
“ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ” คนก็ไปแล้ว เขายังจะคิดเล็กคิดน้อยไปอีกทำไม
เพียงแต่พอขึ้นรถแล้ว ชลธีก็โทรศัพท์หาทศพรเพื่อนของตน แล้วให้เขาสืบดูว่าผู้หญิงที่อยู่ในห้องนั้นเมื่อคืนเป็นใคร
มุกดาด่าชลธีเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็พุ่งออกมาด้วยความโกรธ สุดท้ายแล้วเธอก็เดินไปที่โรงพยาบาลซึ่งพ่อของเธออาศัยอยู่โดยไม่รู้ตัว
ไหน ๆ ก็มาแล้ว ไปเยี่ยมคุณพ่อสักหน่อยดีกว่า อย่างไรเสียวันนี้เธอก็ไม่มีที่ให้อยู่ชั่วคราว อย่างนั้นก็ไปนอนที่ม้านั่งของโรงพยาบาลสักคืนก็แล้วกัน
มีหน้าต่างขวางกั้นอยู่ มุกดามองดูบิดาของตนเองที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่
อาการป่วยของคุณพ่อ จำเป็นต้องใช้ยาอย่างดีจำนวนมากในการรักษา แต่ตอนนี้ตระกูลแก้วสุทธิไม่มีเงิน คุณพ่อเลยทำได้แค่เพียงรักษาชีวิตอยู่ที่นี่
พอเห็นคุณพ่อแล้ว มุกดาก็เดินออกมาที่ม้านั่งด้านนอก โชคดีที่ตอนนี้เป็นฤดูร้อน จึงไม่ได้หนาวสักเท่าไหร่ เธอนอนเอนกายอยู่บนม้านั่ง ไม่นานมุกดาก็ผล็อยหลับไป
มุกดาถูกเสียงดังเอะอะโวยวายปลุกให้ตื่นขึ้นมา
เธอเพิ่งจะลืมตา ผู้คนที่อยู่ตรงหน้าต่างก็เร่งรีบกัน มีหมออยู่มากมาย ต่างก็กำลังวิ่งกันด้วยความเร่งรีบ
มุกดาไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอเห็นแล้วเหมือนกันว่าฟ้ายังไม่ทันจะสว่างเลยด้วยซ้ำ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับโรงพยาบาลแห่งนี้เหรอ?
เพียงแต่เรื่องแบบนี้ในโรงพยาบาลนั้นถือว่าปกติมาก มุกดาพลิกตัวขึ้นมาแล้วขยี้ตา
พอเธอเงยหน้าขึ้น ก็หยุดชะงักนิ่งอึ้งไปแล้ว