บทที่ 4 ทุบรถยนต์ Maybach
เมื่อได้ทะเลาะกับคนในครอบครัวมาจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ ชลธีกลับมาในคืนนั้นทันที การที่ถูกคนในบ้านบังคับให้แต่งงาน ความจริงเขาย่อมทนไม่ได้อยู่แล้ว ตนเองก็ไม่ได้อายุมากสักเท่าไหร่ แต่ทำไมในสายตาของพวกเขาถึงดูเป็นปัญหาใหญ่ได้ล่ะ?
ชลธีลูบหว่างคิ้วของตัวเอง ในห้วงสมองยังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับคำพูดของคุณปู่
“ชลธี ฉันจะบอกแกให้นะ แกไม่ต้องไปคิดถึงผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว ฉันให้เวลาแกหนึ่งเดือนในการหาลูกสะใภ้มาให้ฉัน ไม่อย่างนั้นละก็ หึ! ฉันจะตายให้แกดู!”
คุณปู่นี่ก็เหลือเกินจริง ๆ ผู้หญิงคนนั้นสามารถหาได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ! หนึ่งเดือน ตลกจริง ๆ เขาคิดว่าแค่ไปลากมาจากบนถนนสักคนก็ได้แล้ว? นั่นมันต้องเป็นความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองไม่ใช่เหรอ?
เพียงแต่ครั้งนี้ชลธีเองก็หวาดกลัวอยู่เล็กน้อย คุณปู่เป็นคนหัวแข็งคนหนึ่ง เขาอาจจะทำขึ้นมาจริง ๆ ก็ได้ คนอายุมากขนาดนี้แล้ว อย่างไรก็ต้องระวังเอาไว้ก่อน
“ท่านประธาน คุณดูสิ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ทำไมถึงใจกล้านัก ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ยังออกมาเดินเอ้อระเหยลอยชายอยู่ข้างถนนเสียได้” คนขับรถมองดูมุกดาที่กำลังตะโกนเรียกอยู่ข้างถนน
ชลธีไม่รู้สึกสนใจผู้หญิงที่ดึกดื่นป่านนี้มัวแต่มาเดินเล่นอยู่ข้างนอกไม่ยอมกลับบ้าน
เขาจึงไม่ได้มองเลยแม้แต่นิดเดียว จากนั้นรถก็ขับผ่านหน้ามุกดาไป
เดิมทีคนทั้งสองก็ควรที่จะคลาดกันอย่างนี้และไม่ได้มีการปฏิสัมพันธ์ใดต่อกันอีก เพียงแต่ สวรรค์นั้นได้เล่นตลกครั้งใหญ่กับพวกเขาเข้าแล้ว
ตรงหน้าที่มุกดานั่งอยู่นั้นมีน้ำขังอยู่พอดี และในตอนที่รถยนต์ Maybach สีดำขับผ่านนั้น ได้ทำให้น้ำขังสกปรกกระเด็นใส่มุกดาไปทั่วใบหน้าและลำตัว
มุกดากำลังนั่งกลุ้มใจอยู่ตรงนั้น เพียงแค่คืนเดียวเธอก็กลายเป็นผู้หญิงที่ถูกหย่าร้างไปเสียแล้ว แล้วตอนนี้ก็ยังไม่มีบ้านให้กลับอีกด้วย
เดิมทีหนึ่งวันนี้มันก็ซวยมากพออยู่แล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะผ่านมาถึงตอนดึกนี้ได้ แล้วรถน่าตายคันนั้นยังมาทำน้ำกระเด็นใส่ทั่วร่างของตนเองอีก
“หน็อย นางขับรถประสาอะไรห๊ะ? เฮ้ย เฮ้ย!” ทว่าประสิทธิภาพในการเก็บเสียงของรถยนต์ Maybach คันนั้นดีเกินไปแล้ว คนที่อยู่ข้างในรถจึงไม่ได้ยินเลยสักนิด
มุกดาโกรธจนหยิบก้อนหินบนพื้นขึ้นมาอย่างลวก ๆ เดิมทีคิดอยากจะระบายอารมณ์เฉย ๆ ไม่ได้คิดจะทุบใส่รถจริง ๆ
แต่ทว่าก้อนหินที่ขว้างออกไปตามอำเภอใจนั้น เจ้าก้อนหินที่เป็นกลางได้ทุบเข้าที่ท้ายรถยนต์ Maybachเข้าให้แล้ว
“ตึ้ง” เสียงหนึ่งดังก้องกังวาน ฉับพลันนั้นรถยนต์ Maybachหยุดลงทันที
คนขับรถรีบลงมาตรวจสอบดูว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น คนที่นั่งอยู่ในรถนั้นคือนายท่านที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเฉิง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นละก็ อย่างนั้นเขาก็คงได้แต่แบกรับผลที่ตามมาแล้ว
พอมุกดาได้ยินเสียงที่กระแทกเข้าตัวรถนั้นแล้ว ก็อึ้งไป
ในอดีตคนอื่นยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอก็ไม่เคยจะเล็งก้อนหินถูกเลยสักครั้ง แต่พอมาวันนี้ ทำไมวันนี้มันถึงได้ซวยขนาดนี้นะ
แต่ว่าทำไมรถคันนั้นถึงดูคุ้นตาจัง
ในขณะที่รอให้มุกดามีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา คนขับรถก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว
ตอนนี้มุกดาก็เพิ่งจะนึกได้ว่าต้องวิ่ง เพราะเธอชดใช้ค่าเสียหายให้รถคันนั้นไม่ไหว
มุกดาเพิ่งจะก้าวเท้าออกมาแค่หนึ่งก้าว ก็ถูกคนขับรถจับไว้เสียก่อน
“ทำไมถึงเป็นคุณอีกแล้ว?” คนขับรถมองมุกดา นี่ไม่ใช่ผู้หญิงบ้าที่หาเรื่องท่านประธานไปเมื่อตอนเช้านี้หรอกเหรอ?
“อะไร? นายพูดอะไร? ฉันไม่ได้ยิน?” ตอนนี้มุกดาเริ่มแสร้งทำเป็นโง่งม ช่วยไม่ได้สินะ ภาพลักษณ์คุณหนูแห่งตระกูลแก้วสุทธิของเธอ คงจะต้องถูกทำลายลงในวันนี้อย่างสิ้นเชิงแล้วสินะ
“ผู้หญิงอย่างคุณนี่ หน้าตาก็ออกจะสะสวย แต่ทำไมชอบตั้งตัวเป็นศัตรูกับพวกเราอยู่เรื่อยเลย?” คนขับรถหมดคำพูดกับมุกดาแล้ว
มุกดาเองก็ยิ่งหมดคำพูดเข้าไปใหญ่ ถ้าเธอรู้ว่าการขว้างของเธอจะแม่นยำถึงขนาดนี้ ตีให้ตายเธอก็ไม่กล้าทำหรอก
“คุณดูสิ รถคันนี้ถูกคุณทุบจนเป็นรอยยุบแล้ว ค่าซ่อมแซมนี้ตั้งกี่หลายล้านกัน!” คนขับรถลากมุกดาไปจนถึงตรงที่ที่รถโดนกระแทก แล้วชี้ให้เธอดู
มุกดาก้มหัวลงต่ำ แต่จู่ๆ เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตนเองนั้นถูกกระทำก่อน ฉับพลันนั้นก็เริ่มมีน้ำโห
“ถ้าอย่างนั้นที่พวกคุณทำน้ำกระเด็นใส่หน้าและลำตัวของฉันก่อนล่ะ ข้าถึงได้ทุบไง ไม่ใช่สิ ฉันก็แค่ขว้างออกไปตามใจชอบ แล้วฉันจะไปรู้ได้อย่างไรว่ามันแม่นขนาดนั้น!”
ในเวลานี้เอง ประตูรถก็ได้ถูกเปิดออก รองเท้าหนังมันวาวคู่หนึ่งก้าวลงมา