ตอนที่2 กอดเอวดี ๆ นะ
เมื่อแหงนหน้าขึ้นมอง ก็เห็นเป็นนักศึกษาที่ขโมยทั้งต้นไม้และจูบ เธอไม่ได้สนใจยังคงก้มหน้าหาไรเดอร์ในแกร็บต่อไม่อยากเสียเวลาตอบคำถามใด ๆ
“น้ำมันหมดเหรอ” เสียงดับเครื่องมอเตอร์ไซค์ของเจ้าของเสียงแล้วเดินดูมอเตอร์ไซค์เธอรอบ ๆ
“อะ”
“…”!
ยังคงเงียบไร้เสียงตอบใด ๆ
“พอแล้วไม่ต้องเรียกแกร็บหรอก เดี๋ยวผมไปซื้อให้” พะพิมผละสายตาออกจากโทรศัพท์
“จริงเหรอ”
“ใช่ ทำไมเรื่องแค่นี้เอง แต่พี่มีขวดน้ำเปล่าไหม” นธีเปิดเบาะตัวเองมองหาขวดน้ำ
“ไม่มีเอาไปทำไมเหรอ” พะพิมแสดงสีหน้างง ๆ
“ก็เอาไปใส่น้ำมัน ถ้าหากเอาขวดของปั้มมาก็ต้องเอาไปส่งต้องมีประกันขวดอีก” ครั้งนี้เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงธรรมชาติดูจริงใจอยากจะช่วยไม่ได้กวนเหมือนครั้งก่อน
“ไม่มีก็ไม่เป็นไร นั้นพี่ขึ้นมาเลย”
“ทะ ทำไมฉันจะต้องไปด้วย…เหรอ”
“อ้าวถ้าหากพี่ไม่ไปแล้วผมจะเอามาอย่างไรละครับ”
“เหรอ”
“ใช่ รีบ ๆ ขึ้นมาผมมีเรียนนะไม่มีเวลามานั่งคุยกับพี่ทั้งวันนะ” ท่าทางของเขารีบร้อน
“อืม โอเค ได้ ๆ” พะพิมนั่งซ้อนท้ายนธีไปที่ปั้มอย่างไม่ทันคิด พอไปถึงนธีเดินไปหาขวดน้ำในถังขยะหน้า 7-11 ได้ขวดน้ำขนาด 1.5ลิตร 2 ขวดเมื่อพนักงานเติมน้ำมันใส่ขวดเสร็จหลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว พะพิมเพิ่งสังเกตว่า นธีนำน้ำมันทั้ง 2 ขวดนั้นใส่ไว้ใต้เบาะโดยเธอไม่ต้องช่วยเขาถือ พะพิมรู้สึกเสียเหลี่ยมให้แก่นธีแล้ว 1 ดอก ระหว่างทางกลับนธีขับรถไปอีกทาง
“นายจะไปไหน” เพราะทางที่มอเตอร์ไซค์เธอจอดอยู่ต้องเลี้ยวซ้าย แต่นธีกลับเลี้ยวขวาซึ่งเป็นคณะวิศวะของมหาลัยเชียงใหม่
“ผมต้องไปเอาของก่อน”
“แล้วนานไหมอ่ะ” พะพิมก้มมองเสื้อผ้าของตัวเองที่ใส่มาวันนี้เป็นกางเกงขาสั้นออกกำลังกายกับเสื้อกล้ามครึ่งตัวซึ่งไม่ค่อยเหมาะเท่าไร
“ก็ไม่นานพี่ลงไปนั่งบนโต๊ะก่อน” นธีชี้ไปยังโต๊ะไม้ด้านหน้าของตึกคณะ ที่มีนักศึกษานั่งกันเป็นกลุ่ม ๆ เขาเปิดเบาะมอเตอร์ไซค์แล้วหยิบเสื้อคลุมตัวใหญ่ออก
“ใส่เสื้อตัวนี้คลุมแล้วไปนั่งรอผมที่นั้น ผมไปเอารายงานแป๊บหนึ่งตรงนี้มันร้อน”
“อืม”
ระหว่างรอก็เป็นช่วงเลิกคาบเรียนพอดี นักศึกษาต่างทยอยกันย้ายอาคารเรียน พะพิมได้แต่นั่งก้มหน้าจ้องไปที่โทรศัพท์ของตัวเอง เธอรู้สึกว่าตัวเองแก่เกินไปจะมาอยู่ในสถานศึกษาแถมยังแต่งตัวโป๊อีกต่างหาก
“สวัสดีครับ พี่มารอใคร” เสียงน้องนักศึกษาหนุ่มก้าวขามานั่งที่โต๊ะไม้เดียวกันกับเธอ
“พะ พี่เหรอ” เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง เมื่อมองดูรอบ ๆ ก็ไม่มีใคร
“ก็ใช่นะซิครับ ผมเคยเห็นพี่น่ะ พี่อยู่ตึกเดียวกับผม” พะพิมแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ
“ผมหมายถึงคอนโดอ่ะ”
“อ๋อ ค่ะ คือพี่เพิ่งย้ายเข้ามาอ่ะ”
“ครับผมรู้”
“ได้ยินพี่บ่นให้บ่อย ๆ”
“น้องพูดเรื่องอะไร” พะพิมเมื่อได้ฟังชายหนุ่มปริศนาพูดก็ยิ่งไม่เข้าใจ
“คือผมอยู่ห้องติดกับพี่ แล้วตอนแรกผมคิดว่า ห้องนั้นยังไม่มีใคร ผมเลยสูบบุหรี่แล้วเผอิญได้ยินพี่บ่นเรื่องกลิ่นบุหรี่ พี่แพ้ควันบุหรี่ใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มยื่นหน้าชะเง้อรอคำตอบ แต่ท่าทางของเด็กคนนี้โคตรน่ารักจนพะพิมต้องรีบเบื้อนหน้าหนีกลัวจะอดยิ้มไม่ได้เพราะความเขินอาย
“อืม ใช่ พี่แพ้ควันบุหรี่ขอโทษนะ บ่นแรงไปหรือเปล่า” ใบหน้าเธอเริ่มแดงระเรื่อ น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นอ่อนลง
“ไม่เลยครับ ผมเองต้องเป็นฝ่ายขอโทษพี่ แต่ต่อจากนี้ไปพี่ไม่ต้องกังวลแล้วนะครับ ผมไม่สูบบนห้องแล้ว”
“อ๋อ อืม ขอบคุณนะ”
“ไปกันยัง” เสียงร้องตะโกนมาแต่ไกล พะพิมรีบลุกขึ้นยืน
“ไปซิ” เธอตอบนธีก่อนจะหันมาลาน้องข้างห้อง
“คุยอะไรกันหน้านี่บานไปถึงนอกโลก” น้ำเสียงแฝงความเคร่งขรึม
“ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย”อยู่ ๆ นธีก็บิดรถด้วยความเร็ว พะพิมกอดเอวเขาไว้แน่น
“กลัวไหม”
“กลัวซิ ไอ้เด็กบ้าขี่ช้า ๆ ได้ไหม”
“นั้นบอกมาว่า คุยอะไรกัน”
“โอเค ๆ ฉันบอกนายก็ได้ นี่ช่วยขับช้า ๆ ได้ไหมฉันกลัว” พะพิมตะโกนเสียงแข่งกับเครื่องยนต์ มือเล็กกอดเอวเขาไว้แน่น หลับตาพริ้ม ไม่นานเสียงมอเตอร์ก็ลดความเร็วลง
“กลัวมากไหม”
“กลัวซิ” ไม่นานรถมอเตอร์ไซค์ของนธีก็จอดพะพิมรีบก้าวขาออกจากรถมอเตอร์ไซค์
“เอามานี่เดี๋ยวฉันเติมเอง”
“เดี๋ยวเติมให้ ไปหลบในร่มเถอะ”
“ไม่เป็นไร ฉันเติมเอง” พะพิมพยายามอดกลั้นข่มความโกรธเอาไว้เธอดึงขวดน้ำมันจากมือของนธี ทุกครั้งเมื่อเจอเขาต้องมีเรื่องถึงแม้เขาจะพยายามช่วยเธอในครั้งนี้ก็ตาม แต่อยู่ ๆ ก็มาพูดกระแทกใส่ แล้วยังจะขี่รถเร็วอีกต่างหาก
“นายไปเรียนเถอะ เดี๋ยวฉันทำเอง”
“เรียนเสร็จแล้วกำลังจะกลับห้อง” นธีดึงขวดน้ำมันไปเทใส่ถังน้ำมัน
“ฉันบอกว่าจะเติมเองไง” นธีชี้นิ้วให้พะพิมหยุดพูด หลังจากเติมน้ำมันเสร็จเขาก็ขี่รถจากไปโดยไม่พูดอะไร
“จะไปก็ไป ยังไม่ได้ขอบคุณเลยเป็นอะไรของเขา”