ตอนที่ [02] เกลียด
เช้าวันต่อมา
7 : 25 น.
"ป้าคะ พี่อลันออกไปไหนแต่เช้าเหรอคะ" ณดาเอ่ยถามหนึ่งในแม่บ้านที่กำลังจัดเตรียมอาหารเช้ากันอยู่ในครัวด้วยความสงสัย
เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับทั้งคืน อาจจะเพราะแปลกที่ แปลกทาง เช้านี้เลยทำให้เธอดูไม่ค่อยจะสดใสเท่าไหร่นัก ก่อนจะเข้ามาในครัวเธอแอบเห็นพี่ชายของตัวเองออกจากบ้านไปด้วยความเร่งรีบทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ จึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะรีบไปไหน
"คุณอลันออกไปทำงานค่ะ คุณหนูจะรับอาหารเช้าเลยไหมคะ ดิฉันจะได้ตั้งโต๊ะให้เลย"
"ไม่เป็นไรค่ะณดายังไม่หิว แล้ว…พี่อลันไม่ทานข้าวก่อนออกไปทำงานเหรอคะ?" เสียงใสเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มบาง ก่อนจะตั้งคำถามกลับอย่างสงสัยอีกครั้ง
"ไม่ค่ะ คุณอลันไม่ทานข้าวเช้าค่ะ" แม่บ้านเอ่ยตอบไขข้อสงสัยให้เธอทันที
พอได้คำตอบณดาก็ได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมเขาถึงไม่ทานข้าวเช้า แล้วแบบนี้จะมีแรงทำงานได้ยังไง ไม่ห่วงสุขภาพของตัวเองเลยจริง ๆ ณดาได้แต่บ่นในใจให้กับพี่ชายจอมเย็นชาของเธอ ที่ไม่ว่าจะไม่เจอกันนานแค่ไหนก็ยังเย็นชาไม่เปลี่ยน
ร่างบางเดินออกมาจากห้องครัว เดินสำรวจไปจนทั่วทั้งบ้านที่มันเปลี่ยนไปเยอะจนแทบไม่หลงเหลือเค้าโครงเดิมเลย ก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่ ที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของอลัน เพราะห้องนี้คือห้องนอนของเขา
"น้องขอเข้าไปดูห้องพี่อลันหน่อยนะคะ แล้วน้องจะรีบออกมา" ณดาเอ่ยพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะหันซ้ายหันขวาอีกทีเพื่อความแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้
ตั้งแต่จำความได้เธอก็ไม่เคยเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของพี่ชายเลยสักครั้ง เธอก็แค่อยากรู้ว่าข้างในจะเป็นยังไง จะเหมือนที่เธอคิดไว้หรือเปล่า เพราะสำหรับเธอแล้ว เธอแทบเข้าไม่ถึงตัวของอลันเลย แทบไม่รู้เลยว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ใบหน้าเย็นชานั้นยังไงบ้าง
แกร๊ก~
มือเล็กยื่นไปจับลูกบิดประตู ก่อนจะค่อย ๆ บิดข้อมือหมุนดูอย่างเบามือ เพราะกลัวว่าจะมีคนผ่านมาเห็นเข้า
"ไม่ได้ล็อกประตูด้วย" ณดาเอ่ยขึ้นกับตัวเองอีกครั้งด้วยความดีใจ ตอนแรกที่กะจะเข้าไปเธอก็ไม่ได้คิดว่าจะเข้าได้ เพราะอลันคงจะล็อกประตูห้อง แต่เปล่าเลยเขาไม่ได้ล็อกประตูไว้เลย
"ทำไมห้องพี่อลันถึงได้ดูอึดอัดแบบนี้นะ" พอเข้ามาในห้อง ร่างบางก็เดินสำรวจนู่นนี่นั่นไปจนทั่วห้อง พร้อมกับพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
ภายในห้องนอนหรูหรากว้างใหญ่ ถูกตกแต่งไว้อย่างเรียบง่าย แต่ก็ดูน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน ในห้องใช้โทนสีเทาเข้มและสีขาวสลับกันอย่างลงตัวดูเรียบหรูสวยงาม แต่สำหรับเธอ เธอมองว่ามันดูอึดอัดแปลก ๆ แม้ทุกอย่างจะดูเรียบง่ายสบายตา แต่มันก็ดูอึดอัดมากในเวลาเดียวกัน
"เอ๊ะ!? ทำไมในรูปนี้ถึงไม่มีเราอยู่ด้วยล่ะ" ร่างบางหยิบกรอบรูปบนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาดูด้วยความสงสัย เมื่อในรูปมีเพียงพ่อแม่และก็พี่ชายของเธอเท่านั้น แล้วทำไมถึงไม่มีเธอ?
"เธอกล้าดียังไงถึงได้เข้ามาในห้องฉันแบบนี้! ใครอนุญาตให้เธอเข้ามา!"
น้ำเสียงดุดันตะคอกดังลั่นห้องอย่างน่ากลัว ทำเอาณดาสะดุ้งตกใจไม่น้อย จนเผลอปล่อยของในมือล่วงหล่นลงพื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เฮือก!
เพล้ง!!
"O.O! อะ เอ่อ...น้อง น้องแค่..." พอหันกลับมาเจอสายตาดุดันที่ไม่แพ้น้ำเสียงของเขา มันยิ่งทำให้เธอกลัว กลัวว่าเขาอาจจะโกรธเธอมากแน่ ๆ ที่เธอแอบเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขาแบบนี้ แถมยังทำของของเขาพังอีกด้วย
"ฉันถามว่าใครอนุญาตให้เธอเข้ามา!!" อลันยังคงตะคอกกลับเสียงดังลั่น นี่ถ้าเขาไม่ลืมของแล้วกลับมาเอา เขาคงจะไม่ได้เห็นว่ามีคนแอบเข้าห้องเขาแบบนี้ แถมยังเป็นคนที่เขาเกลียดที่สุดอีกด้วย
"นะ..น้องขอโทษค่ะ น้องไม่ได้ตั้งใจ" เสียงหวานลนลานตอบออกไป พลางก้มหน้าหลบสายตาคมที่ดุดันจากเขา ตัวก็สั่นไปหมดด้วยความกลัว
"เธอทำอะไรกับของของฉัน!" สายตาคมจับจ้องไปที่กรอบรูปที่วางอยู่บนพื้น ที่มันแตกกระจายจนมองแทบไม่ออกว่ารูปนั้นคือรูปอะไร แต่เขาจำได้ขึ้นใจว่านั้นเป็นรูปครอบครัวของเขา ครอบครัวที่ไม่มีเธออยู่ในนั้นด้วย แล้วเธอกล้าดียังไงมาทำลายของของเขาแบบนี้
"น้องไม่ได้ตั้งใจนะคะ น้องตกใจน้องเลยทำมันหลุดมือ..."
"ออกไป" ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบ เขาก็ชี้นิ้วไล่ให้เธอออกไปจากห้องของเขาทันที ด้วยน้ำเสียงเหี้ยมโหด
"พี่อลันน้องขอโทษ" ด้วยความกลัวจนตัวสั่น ทำให้ณดาได้แต่ยืนอยู่กับที่พร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้า พลางคิดในใจว่าทำไมพี่ชายของเธอถึงได้น่ากลัวขนาดนี้กัน
"ฉันบอกให้ออกไปไงวะ! ออกไป!!" เสียงตะคอกดังลั่นจนลูกน้องของเขาที่อยู่ด้านนอกยังได้ยิน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัวของเขา
พรึบ!!
มือหนาผลักเธอออกไปสุดแรงอย่างไม่ใยดี ส่งผลให้ร่างบางเสียหลักล้มลงกับพื้นอย่างจัง
ปึก!
"อ่ะ โอ๊ยยย!" ณดาร้องออกมาด้วยความตกใจ และเจ็บแปล๊บบริเวณฝ่ามือที่ค้ำยันลงกับพื้น เพราะโดนเศษกระจกจากกรอบรูปที่แตกละเอียดเกลื่อนพื้นปักเข้าที่ฝ่ามือเล็กอย่างจัง เลือดสีแดงเข้มค่อย ๆ ไหลซึมออกมาช้า ๆ
อลันปลายตามองตามผลงานของตัวเองด้วยความสะใจ และไม่คิดแม้แต่จะช่วยเธอด้วยซ้ำ ยิ่งเห็นเธอเจ็บเขายิ่งรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก
"อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทน ออกไปเดี๋ยวนี้!" เขายังคงตะคอกใส่เธอเสียงดังไม่หยุด พลางหันหน้าหนีไปทางอื่น เพราะเขาไม่อยากจะเห็นน้ำตามารยาของเธอ เขาเกลียดเธอ! เกลียดทุกอย่างที่เป็นเธอ
ร่างบางของณดาพยุงตัวเองลุกขึ้นยืนทั้งน้ำตา ใช้มืออีกข้างกำรอบมือข้างที่เป็นแผลไว้แน่น ก่อนจะเดินออกมาจากห้องของเขาทั้งน้ำ เลือดจากบาดแผลยังคงไหลออกมาไม่หยุดจนหยดลงตามพื้นเป็นทางยาวตลอดทางที่เธอเดินออกมา ในบ้านหลังนี้เธอสามารถพึ่งพาใครได้บ้าง ทำไมทุกคนที่นี่ถึงได้ดูใจร้ายกับเธอไปหมดเลย เธอทำอะไรผิดงั้นเหรอทุกคนที่นี่ถึงไม่ชอบเธอ
"คุณหนู! เกิดอะไรขึ้นครับ" เดลและฟาโรห์ที่เห็นณดาเดินร้องไห้ลงมาชั้นล่างก็ถามขึ้นอย่างตกใจ เพราะมือของเธอมีเลือดไหลซึมไม่หยุด แถมมันยังหยดลงตามพื้นเป็นทางยาวตลอดทางที่เธอเดินลงมา
"อึก! ฮืออออ ณดาเจ็บ ณดาเจ็บ ฮือๆๆ" ถ้าตอนนี้เธออยู่ที่บ้าน ทุกคนที่บ้านจะต้องเป็นห่วงเธอมากแน่ และจะต้องรีบทำแผลให้เธอ รีบปลอบให้เธอหยุดร้องไห้ แต่ที่นี่...ที่นี่กลับไม่มีใครเป็นแบบนั้นสักคน
"ทำแผลก่อนนะครับ" ฟาโรห์พูดขึ้นมาเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะเรียกแม่บ้านมาช่วยทำแผลให้กับเธอด้วความรีบร้อน
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่กับการทำแผลให้ณดา ร่างสูงโปร่งของเจ้าของบ้านอย่างอลันก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าดุดันไม่สบอารมณ์นัก
"ขึ้นไปอยู่บนห้อง และห้ามออกไปไหนถ้าฉันไม่ได้สั่ง" พูดจบเขาก็พยักหน้าให้กับลูกน้องคนสนิท ก่อนจะเดินออกไปไม่สนใจเธออีก
"ณดาอยากกลับบ้าน" ณดาเงยหน้าขึ้นบอกกับเดล ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หลังจากที่อลันเดินออกไปจากบ้านแล้ว
"คงไม่ได้หรอกครับ เชิญคุณหนูที่ห้องเถอะครับ เดี๋ยวผมให้คนยกอาหารขึ้นไปให้" จะว่าสงสารสาวน้อยคนนี้ก็สงสาร แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของอลันสักคน ถึงจะเห็นใจแต่ก็คงช่วยอะไรเธอมากไปกว่านี้ไม่ได้จริง ๆ
ณดาได้แต่นั่งก้มหน้าอยู่ที่เดิม พร้อมกับกัดปากตัวเองแน่นพลางขบคิดในใจด้วยความรู้สึกหดหู่ เพราะคำสั่งของอลันมันไม่ต่างอะไรจากการกักขังเธอไว้เลยสักนิด เธอไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ตอนนี้พี่ชายที่เธอคิดว่าแสนดีมาตลอด กลับทำร้ายเธอแบบนี้ สั่งขังเธอแบบนี้ แล้วจะให้เธออยู่ไปให้เขาอึดอัดและอารมณ์เสียทำไมกัน เธอแค่คิดว่าเขาไม่ชอบเธอ แต่ไม่คิดว่าเขาจะไม่ชอบถึงขั้นเกลียดเธอแบบนี้
มาอยู่ยังไม่ทันจะครบ 24 ชั่วโมง เธอก็ต้องใช้ชีวิตอย่างนักโทษอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยม แล้วต่อไปเธอจะทำอะไรได้บ้าง แล้วเรื่องเรียนของเธอล่ะ เขาจะยังให้เธอได้เรียนอยู่หรือเปล่า ทำไมทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เธอจะปรึกษาใครได้ เวลาร้องไห้ก็ไม่มีใครคอยปลอบเหมือนตอนที่อยู่กับพ่อแม่ ความคิดต่าง ๆ นา ๆ หลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธอไม่หยุด ถ้ารู้ว่าการมาอยู่กับเขาจะเป็นแบบนี้ เธออยากจะย้อนเวลากลับไปปฏิเสธคำขอร้องของคนเป็นพ่อสักครั้ง เพราะตั้งแต่จำความได้ เธอก็ไม่เคยจะปฏิเสธอะไรเลยสักอย่าง เพราะคิดเสมอว่าสิ่งที่พ่อแม่หยิบยื่นให้คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว…