ตอนที่ 06 งานแต่งในวันเกิด
หลายเดือนผ่านไป
งานวันเกิดของน้ำตาลถูกจัดขึ้นพร้อมกับงานแต่ง ถึงแม้จะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไรแต่เธอก็ต้องยอมเพราะได้ให้สัญญาเอาไว้กับเขาไปแล้ว
"ไม่สบายเหรอ สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะ" เจ้าบ่าวที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวข้างๆ นั้นสีหน้าดูไม่ค่อยดีสักเท่าไร
"นิดหน่อยค่ะ ไม่เชิงไม่สบาย แต่นี่มันเป็นครั้งแรกของน้ำตาลนะคะ อีกอย่างแขกที่มางานก็ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลยด้วย"
"ก็ผู้ใหญ่ทางฝั่งของเธอไม่มีนี่ ส่วนใหญ่ก็เป็นแขกทางฝั่งของฉันทั้งนั้น"
"....." เธอทั้งเกร็งและกลัวเพราะผู้ใหญ่และคนที่มาร่วมงานแต่งในครั้งนี้ต่างก็เป็นคนที่หน้าตาไม่คุ้นเลยสักนิดดูเหมือนพวกที่มาจากต่างประเทศอีกทั้งยังมีบอดี้การ์ดรายรอบกันทุกคน บางคนมีรอยสักไปยันคอ ถึงจะใส่ชุดสูทมาเรียบร้อยกันแต่ก็ทุกครั้งที่ขยับตัวก็จะเผยให้เห็นรอยสักที่อยู่บนแขนยันหลังมือของคนคนนั้น
"คุณวินรู้จักคนเยอะแบบนี้ด้วยหรอคะ?"
"ก็ฉันเป็นนักธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ จะรู้จักคนมากมายจะสนิทกับคนหลายคนมันก็ไม่แปลกหรอกจริงไหม"
"ค่ะ"
"คนพวกนี้เขามีส่วนช่วยเหลือทำให้ฉันมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้ยังไงล่ะ"
"....." เธอหันมองเขาอย่างงงๆ เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด แสดงว่าเขาได้รับการช่วยเหลือสินะ
"ฉันเคยเล่าให้เธอฟังใช่ไหม ว่าฉันเป็นเด็กกำพร้าเพราะพ่อแม่ถูกโกงบริษัทจนต้องฆ่าตัวตาย แต่ฉันก็ยังได้คนใจดีรับอุปการะไปเลี้ยงจนฉันสามารถเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ คนพวกนี้ต่างก็เป็นคนในครอบครัวของฉันทั้งนั้นแหละ"
"อย่างกับพวกมาเฟียในนิยายแน่ะ" เธอยืนบ่นพึมพำ แต่หารู้ไม่ว่าเขากำลังแอบยิ้มอยู่ เพราะได้ยินในสิ่งที่เธอพูดและสิ่งที่เธอพูดนั้นมันก็คือความจริง เขาไม่ใช่แค่ผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ธรรมดา นี่ก็แค่ฉากบังหน้าก็เท่านั้น
"คุณภวินทร์ครับทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ"
"อืม เดี๋ยวฉันตามเข้าไป"
"ครับ"
"มีอะไรหรือเปล่าคะ?" น้ำตาลถาม เพราะเธอเองก็ยืนอยู่ใกล้ๆ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่ลูกน้องมาพูดกับเขา
"เข้าไปข้างในกันเถอะ ฉันให้คุณไปเชิญนายทะเบียนมาเรียบร้อยแล้ว"
"คะ?"
"จดทะเบียนสมรสกันไง เธอแต่งงานกับฉันแล้วก็ต้องจดทะเบียนสมรสกันและเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของฉัน"
"ค่ะ..."
น้ำตาลเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเจ้าบ่าวของเธอ ซึ่งก็มีคนมานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกแล้วจริงๆ
"ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้รอนาน"
"ไม่เป็นอะไรครับ"
"ไม่ทราบว่าผมต้องเซ็นอะไรบ้างครับ"
"เซ็นชื่อของคุณทั้งสองคนลงตรงนี้เลยครับ"
"แล้วเรื่องเปลี่ยนนามสกุลล่ะครับ ผมต้องการให้เจ้าสาวของผมเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของผมเอง"
"เซ็นเอกสารแล้วเดี๋ยวผมจะเอากลับไปจัดการให้ครับ อีกไม่นานเกินรอผมจะส่งใบเปลี่ยนนามสกุลของคุณผู้หญิงคนนี้กลับมาให้ครับ"
"ขอบคุณนะครับ"
"ยินดีครับผม"
งานแต่งงานในวันนี้ผ่านราบรื่นไปได้ด้วยดี พอเสร็จสิ้นพิธีงานในตอนกลางวัน ตกกลางคืนก็มีการกินเลี้ยงซึ่งเธอไม่ได้ลงไปร่วมด้วยเพราะส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และที่สำคัญพวกเขาก็น่ากลัวถึงแม้เธอจะมีภวินทร์ว่าที่สามีของเธอคอยปกป้องแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอหายกลัวได้เลย
เธอจึงต้องกลับมาอยู่ด้านบนห้องนอนพร้อมกับแม่บ้านที่เธอสนิทด้วยอีกสองคน ทั้งสองกำลังช่วยเธอถอดชุดเจ้าสาวเพราะมันทั้งหนาและใหญ่แบบที่ว่าเธอไม่สามารถถอดเองได้
"คุณน้ำตาลเวลาได้ใส่ชุดเจ้าสาวแล้ว สวยจังเลยนะคะ"
"ขอบคุณมากนะคะ นี่ก็เป็นครั้งแรกของน้ำตาลเหมือนกัน"
"งานแต่งของใครคนนั้นก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดาค่ะ"
"ไม่มีใครสงสัยเลยหรอคะที่จู่ๆ น้ำตาลก็มาอยู่ที่บ้านหลังนี้แล้วก็ได้แต่งงานกับเจ้านายของพวกพี่"
"ไม่มีใครกล้าสงสัยไม่มีใครกล้าถามเรื่องของเจ้านายหรอกค่ะ"
"ทำไมล่ะคะ?"
"คุณภวินทร์ถึงต่อหน้าจะดูใจดีแต่ก็ไม่ใช่คนใจดีอย่างที่คิดนะคะ เขาไม่ชอบให้ใครไปยุ่งเรื่องส่วนตัวสักเท่าไร เพราะเคยมีแม่บ้านคนนึงดันไปวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของคุณภวินทร์เข้า คุณภวินทร์ก็เลยโมโหมากๆ และไล่แม่บ้านคนนั้นออก แต่ก็ไม่มีใครรู้อีกเลยว่าแม่บ้านคนนั้นหายไปอยู่ที่ไหน"
"หายสาบสูญไปเลยหรอคะ?"
"อันที่จริงก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าแม่บ้านคนนั้นเขามาจากที่ไหน ลูกเต้าเหล่าใครก็เลยไม่มีใครรู้น่ะค่ะว่าย้ายไปอยู่ที่ไหนแล้ว"
"....." พอได้ยินอย่างนั้นแล้วเธอก็รู้สึกกลัวเขาขึ้นมานิดๆ ถึงแม้ต่อหน้าเธอเขาจะอ่อนโยนและพูดดีทุกครั้ง แต่มันก็น่ากลัวไม่ใช่เล่นเลย ในสายตาของเธอเขาเป็นคนที่เข้าถึงยาก แถมวันนี้คนที่มาร่วมงานด้วยก็ยังดูเหมือนไม่ใช่นักธุรกิจอีกต่างหากเหมือนพวกนักเลงมากกว่า
"คุณภวินทร์ดูใจดีกับคุณน้ำตาลมากเลยนะคะ"
"เขาคงจะเห็นใจน้ำตาลมั้งคะ เรามีอะไรคล้ายๆ กัน น้ำตาลถูกพ่อแม่ทิ้งปล่อยให้เอาตัวรอดคนเดียวถึงจะอายุขนาดนี้แล้วแต่ก็ไม่เคยไปเผชิญโลกภายนอกสักครั้ง ถ้าวันนั้นคุณวินไม่ไปเจอก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าน้ำตาลจะเป็นยังไงบ้าง"
"เหรอคะ อย่าคิดมากไปเลยค่ะ"
"ขอบคุณมากนะคะ ที่พวกพี่ยอมคุยกับน้ำตาล ตอนแรกน้ำตาลคิดว่าจะไม่มีใครคุยด้วยแล้วซะอีก"
"พวกเราจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรล่ะคะ"
"เพื่อนที่มหาลัยก็ไม่มีใครอยากจะยุ่งด้วยแล้วล่ะค่ะ พวกเขาไม่อยากคุยด้วยเพราะเห็นว่าน้ำตาลอยู่กับคุณวิน"
"เฮ้อ...อย่าไปสนใจคนพวกนั้นเลยค่ะ พวกเขาคงอิจฉาที่เห็นว่าคุณน้ำตาลได้ดี"
"ไม่ค่ะ เรื่องที่พ่อกับแม่ฟอกเงินและถูกตำรวจออกหมายจับข่าวมันกระจายแพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัยเลย พวกเขาคิดว่าน้ำตาลเข้าหาคุณวินก็เพราะต้องการเงินน่ะค่ะเพราะพ่อแม่ไม่มีเงินให้แล้ว"
"ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูคุณภวินทร์ล่ะก็ ไม่อยากจะนึกสภาพเลยนะคะ มหาวิทยาลัยที่คุณน้ำตาลเรียนอยู่คุณภวินทร์ก็เป็นคนบริจาคเงินสำหรับสร้างอาคารต่างๆ แล้วก็อีกหลายอย่างเลย"
"อย่าให้เขารู้เลยค่ะ"
"แต่เรื่องนี้ก็ปิดไม่ได้ง่ายๆ นะคะ"
"....."