บทที่3 เป็นเรื่องบังเอิญจริงหรือ
บทที่3 เป็นเรื่องบังเอิญจริงหรือ
นรมน!
ชื่อจีนของแคทเธอรีก็คือนรมนอย่างนั้นรึ
นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ของบุริศร์เกิดอาการสั่นไหว
“ไม่มีรูปของแคทเธอรีหรอ”
“ไม่มี บริษัทHJกรุปต้องการปกป้องความลับของแคทเธอรี ผมใช้ช่องทางต่างๆก็ไม่สามารถหารูปภาพของแคทเธอรีได้ ได้ยินว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยและงดงามมาก”
พฤกษ์รู้สึกว่ายากที่จินตนาการออก นักออกแบบรถยนต์ที่น่าจับตามองกลับกลายเป็นผู้หญิง! และยังเป็นผู้หญิงที่สวยมากอีกด้วย!
เรื่องนี้มันค่อนข้างไร้เหตุผล
มีผู้หญิงคนไหนกันที่หลงใหลในรถยนต์
พฤกษ์ถามบุริศร์อย่างสงสัยอย่างไม่ทันได้คิด เมื่อเห็นเขาจดจ้องไปที่ตัวหนังสือสามสี่ตัว นรมน อยู่เป็นเวลานาน นัยน์ตารวมกันอยู่ที่จุดเดียว ทำให้คนมองอารมณ์เขาไม่ออก แต่ว่านิ้วของเขาเคาะโต๊ะโดยไม่รู้ตัว ตึก ตึก อย่างเป็นจังหวะ ทันใดนั้นความฉุนเฉียวในห้องทำงานก็หยุดนิ่ง
“ประธานบุริศร์…”
“จัดการให้ด้วย ผมจะไปรับด้วยตัวเอง”
ในที่สุดบุริศร์ก็เปิดปาก แววตาฉายรัศมีที่แปลกประหลาด
นรมน!
ชื่อนี้ไม่เลว นี่เป็นเรื่องบังเอิญจริงหรือ
เมื่อห้าปีก่อนไม่มีใครพบศพของนรมน ตำรวจบอกว่าไฟแรงเกินไป บางทีทุกอย่างอาจจะถูกเผาไหม้ไปจนหมดสิ้น แต่บุริศร์กลับไม่เคยยอมเชื่อเลยว่านรมนตายแล้ว
วันนี้แคทเธอรีนก็ชื่อยังจะชื่อนรมนอีก!
เขาแทบจะทนไม่ไหวที่จะเห็นหน้าสถาปนิกคนนี้
พฤกษ์งงอยู่เล็กน้อย ความจริงแล้วห้าปีมานี้ คนที่บุริศร์ไปรับด้วยตัวเองนั้นมีน้อยมาก แต่เขาก็งงอยู่เพียงเสี้ยววินาที เขารีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว และรีบหันกลับไปจัดการเตรียมการ
เมื่อรถขับไปถึงสนามบิน เที่ยวบินของนรมนก็เพิ่งจะมาถึง
นรมนลากกระเป๋าออกมาจากที่ตรวจสอบสัมภาระ เธอมีผมยาวสีน้ำตาล รูปร่างสมส่วนดูงดงาม ใบหน้าช่างมีเสน่ห์ต่อผู้คนที่พบเห็น ดึงดูดสายตาของทุกคนในทันที เด็กผู้ชายตัวน้อยที่คอยติดตามอยู่ด้านข้างเธอสวมสูทลำลองสีขาว ผิวหนังบอบบางน่าทะนุถนอม ขนตายาวเป็นแพ ชวนให้คนเดินเข้าไปหยิกสักทีหนึ่ง เขาสวหมวก ปากมอมยิ้มอยู่อันหนึ่ง ตามติดอยู่ที่ข้างกายของนรมนอย่างเฉื่อยชา แต่ว่าตาหงส์ทั้งคู่นั้นทำให้คนก้าวขาไปข้างหน้าไม่ออก
“กานต์ ที่นี่เมืองชลธี ไม่ใช่อเมริกา อย่าแสดงท่าทางหยิ่งยโส ตามแม่มา”
นรมนไม่ค่อยชอบใจกับการแสดงออกของลูกชายเธอ แต่ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกปวดใจ
ขณะที่กานต์ขยับแขนขา เงาของบุริศร์ก็ปรากฏขึ้น บางครั้งเธอก็ไม่สามารถไม่ยอมรับได้ว่ายีนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เธอก็อยากให้ลูกชายหน้าตาเหมือนเธอมากกว่า
“มามี๊ ผมเป็นไงบ้างครับ”
กานต์ยักไหล่อย่างไร้เดียงสา ใบหน้าเต็มไปด้วยความซุกซน
นรมนยิ้มและส่ายหัว เธอยื่นมือออกมาจิ้มหน้าผากเขาและเอ่ย “อย่าเอาหน้าเจ้าเล่ห์อย่างนั้นไปจีบสาวล่ะ หนูเป็นลูกชายของแม่ หนูจะเป็นอย่างไรแม่ไม่รู้ แม่เตือนหนูไว้ก่อน กลับเมืองชลธีครั้งนี้ หนูจะต้องเชื่อฟังแม่ จะซุกซนไม่ได้เข้าใจรึเปล่า”
“วางใจเถอะน่า แม่กลับมาทำงาน ผมกลับมาดูทีที่แม่เติบโตมา ผมไม่ทำอะไรหรอก มามี๊ ผมเป็นลูกแม่น่า! แม่ระวังผมอย่างกับผมเป็นศัตรู”
กานต์ทำปากจู๋อย่างไม่พอใจ
นรมนลูบหัวเขาอย่างเอ็นดู “หนูเป็นแผนอันแยบยล แม่เลยต้องเตือนเอาไว้หน่อย ไปกันเถอะ เราออกจากสนามบินก่อน อีกสักครู่แม่จะโทรหาป้าคมทิพย์ของหนู ไปอยู่บ้านน้าสักสองสามวัน”
“ครับ”
กานต์ยิ้มเหมือนเทวดา เขาจูงมือนรมนเดินออกไปด้านนอก
ทันใดนั้น กานต์ก็พบเงาร่างที่คุ้นตา
คนคนนั้นมีความคล้ายคลึงเขาอยู่เจ็ดหรือแปดส่วน แม้ลมหายใจที่อยู่ห่างไกลออกไปแต่ว่าเขาก็สัมผัสได้
คนคนนี้น่าจะเป็นบุริศร์ใช่ไหม
ที่คนกล่าวขานถึงรึ
กานต์เหลือบมองนรมน เขาเห็นนรมนกำลังค้นหาเบอร์โทรศัพท์ ทันใดนั้นเขาก็จับท้อง
“โอ๊ย มามี๊ ผมปวดท้อง ผมต้องไปห้องน้ำ!”
นรมนได้ยินตะโกนจึงเงยหน้าขึ้นมอง กานต์จับท้องหน้าดำหน้าแดง น่องนั้นไม่สามารถหยุดได้ เป็นความรู้สึกที่หยุดไว้ไม่ได้
“มามี๊ไปด้วย”
พูดแล้ว นรมนก็ต้องการที่จะอุ้มกานต์ แต่กานต์กลับรีบวิ่งตรงไป
“ไม่ต้องแล้วมามี๊ ผมกลั้นไม่ไหวแล้ว แม่รออยู่ข้างนอกแล้วกัน เดี๋ยวผมกลับมา”
กานต์วิ่งออกไปด้วยความเร็วร้อยเมตร
นรมนเห็นเขาอย่างนั้น ก็ส่ายศีรษะอย่างหัวเสีย เธอจึงเริ่มโทรศัพท์
“ทิพย์ นี่มนเอง ฉันกลับมาแล้ว”
คมทิพย์เป็นเพื่อนสาวสมัยก่อนของเธอ พวกเธอไม่ได้ติดต่อกันเลยในระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา ตอนนี้คมทิพย์เป็นครูโรงเรียนอนุบาล เมื่อได้ยินข่าวคราวการกลับมาของนรมนเธอรู้สึกดีใจยิ่งนัก
“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันจะลาพักร้อนไปรับเธอเอง เธอยังอยู่ที่สนามบินรึเปล่า”
คมทิพย์มีความสุขเหลือเกิน
“ไม่ต้องมารับฉันหรอก ฉันพากานต์กลับมาด้วย เดี๋ยวนั่งแท็กซี่ไปบ้านเธอเอง”
นรมนเดินไปด้วยพูดไปด้วย เธอไม่เห็นว่าด้านหน้าจะมีคน เธอจึงชนฝ่านตรงข้ามเข้าอย่างไม่ตั้งใจ
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่เห็น”
นรมนเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและกล่าวขอโทษ แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นเธอก็ต้องตกตะลึง
คือเขา!
บุริศร์!
เจอที่ไหนไม่เจอ!