บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ปัจจุบัน 1.1

ในเวลาเดียวกัน ณ บริษัทอัลฟาเวิร์ค จำกัด (มหาชน) กรุงฉัตรและภาคินัยก้าวเดินไปยังห้องรองประธานบริษัท ในมือของกรุงฉัตรถือกล่องไม้ขนาดกะทัดรัดสีน้ำตาลเข้ม แกะสลักด้วยลวดลายวิจิตร คนที่ถือรู้สึกถึงความหนักอึ้งของกล่องไม้ที่ตนเองถืออยู่ ทั้งที่กล่องใบนี้มีน้ำหนักไม่ถึงครึ่งกิโลกรัมด้วยซ้ำ แต่สำหรับกรุงฉัตรเวลานี้มันหนักราวสิบกิโลกรัม อีกทั้งเขายังรู้สึกหวาดกลัวสิ่งของที่อยู่ในกล่องอีกด้วย

“ไอ้กรุง นายเป็นอะไร ทำไมถึงได้เหงื่อแตกขนาดนี้”

ภาคินัยเอ่ยถามเพื่อน เมื่อเห็นเม็ดเหงื่อซึมตามไรผม และเริ่มหยดไหลไปตามสันแก้ม บางส่วนผุดขึ้นบริเวณหน้าผาก คนที่ถูกทักใช้มือปาดเหงื่อบนหน้าผากออก ก่อนจะหันมาตอบคำถามเพื่อน

“ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเหงื่อมันถึงออก ทั้งที่ฉันไม่รู้สึกร้อนเลย แต่รู้สึกอึดอัดมากกว่า”

กรุงฉัตรยังนึกแปลกใจไม่ต่างกับผู้ถาม ตรงจุดที่เขาเดินอยู่นี้ไม่ได้ร้อนอบอ้าวแต่อย่างใด ตรงกันข้ามยังมีความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอย่างดีเยี่ยม

“อึดอัด” ภาคินัยพูดเชิงถาม “อึดอัดเรื่องไรวะ” ก่อนจะยิงคำถามที่ตนเองสงสัย

“ไม่รู้สิ บอกไม่ถูก บอกได้แค่ว่ามันอึดอัดยังไงก็ไม่รู้” กรุงฉัตรหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เช่นกัน เพราะมันมาจากความรู้สึกที่อยู่ในใจ ก่อเกิดขึ้นมาในฉับพลัน

“หรือว่านายกังวลเรื่องของในกล่องนี้” ภาคินัยเดาสุ่ม

“คงงั้นมั้ง” กรุงฉัตรตอบออกไปส่งๆ

“นายไม่ต้องกังวลหรอก เมฆชอบของพวกนี้จะตายไป ฉันว่านะเมฆเห็นของในกล่องนี้แล้วต้องชอบแน่ๆ”

ภาคินัยพูดเหมือนใจคิด เขารู้นิสัยพชรดนัยดีว่าพิสมัยเรื่องของล้ำค่าในอดีต ของเก่า ของโบราณมากแค่ไหน ไม่เช่นนั้นคงไม่สร้างบ้านไว้เก็บของสะสมไว้ต่างหาก แยกจากที่อยู่อาศัยอย่างเป็นสัดเป็นส่วน

“นายคิดอย่างนั้นจริงๆ เหรออาร์ต นายคิดว่าเมฆจะชอบของในกล่องนี้จริงๆ เหรอ” กรุงฉัตรหันมาถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

“แน่สิ” ภาคินัยตอบกลับสั้นๆ “อีกอย่างนะของในกล่องนี้ก็สวยจะตายไป ทั้งสวยทั้งเป็นของเก่าด้วยมีเหรอที่เมฆจะไม่สน แต่ถ้าเมฆไม่สน นายก็เอาเองสิ นายก็สะสมของเก่าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”

“ไม่เอาหรอก นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสะสมเครื่องประดับของเก่า ของโบราณ ฉันกลัวอาถรรพ์”

กรุงฉัตรส่ายหัวดิกปฏิเสธทันควัน ถึงของในกล่องนี้จะสวยจะล้ำค่ามากเพียงใด แต่เขาก็ไม่ปรารถนาจะครอบครองมัน แค่เขามีไว้กับตัวเพียงแค่สามวัน เขายังรู้สึกแปลกๆ รู้สึกหวาดกลัวกับของที่อยู่ในกล่องไม้...ราวกับว่ามันมีชีวิต

ภาคินัยตบบ่ากรุงฉัตรเบาๆ “นายไม่ต้องห่วงหรอก ฉันเชื่อว่าเมฆต้องรับซื้อของในกล่องนี้แน่นอน”

“ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น” กรุงฉัตรพูดปลอบใจตัวเอง การสนทนาของทั้งคู่สิ้นสุดลงโดยปริยายเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของพชรดนัย ทั้งสองพูดทักทายกมลเนตรเลขาหน้าห้องสองสามประโยค ก่อนที่จะเดินไปเคาะประตูห้องแล้วเปิดมัน

เจ้าของห้องเงยหน้ามองบุคคลที่เดินเข้ามาในห้องทำงาน ก่อนจะหลุบตาต่ำมองกล่องไม้ในมือกรุงฉัตร กล่องไม้นี้เหมือนมีแรงดึงดูดใจเขาเป็นอย่างมาก เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด พชรดนัยมองกล่องไม้นิ่งงัน

“เมฆ...เมฆ” ภาคินัยเรียกเจ้าของห้องที่นั่งมองกล่องไม้ตาไม่กระพริบ “เมฆ...เมฆ” ก่อนจะเพิ่มเสียงให้ดังมากขึ้นหวังจะเรียกสติของพชรดนัยให้กลับคืนมา

“เรียกซะดังเชียว อยู่ใกล้แค่นี้เรียกเบาๆ ก็ได้” คนที่ได้สติพูดขึ้นเป็นประโยคแรก

“ฉันเรียกนายเบาๆ นายได้ยินที่ไหน ตาเอาแต่มองกล่องไม้อยู่ได้ ไม่เคยเห็นหรือไง” ภาคินัยพูดอีกครั้งก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับกรุงฉัตร

“ที่นายสองคนบอกว่ามีเรื่องให้ฉันช่วย เรื่องอะไรล่ะ”

พชรดนัยเปลี่ยนเรื่องสนทนา เอ่ยถามเรื่องที่กรุงฉัตรโทรศัพท์มาหาเขาเมื่อสามวันก่อน บอกว่ามีเรื่องจะให้ช่วย ทว่าวันนั้นเขาอยู่ต่างประเทศ จึงตอบกลับไปว่าให้เขาเดินทางกลับเมืองไทยก่อน แล้วจะช่วยในเรื่องที่จะร้องขอ กรุงฉัตรได้ยินดังนั้นจึงวางกล่องไม้ลงบนกลางโต๊ะทำงาน

“นี่คือสิ่งที่ฉันจะให้นายช่วย”

และทันทีที่มือทั้งสองข้างของกรุงฉัตรผละห่างจากกล่องไม้ ความอึดอัดที่เขาประสบมาตลอดสามวัน พลันหายในพริบตา กรุงฉัตรรู้สึกโล่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ประหนึ่งหมดภาระอันแสนหนักอึ้ง

พชรดนัยมองกล่องไม้กล่องนั้นไม่วางตา เขามีความรู้สึกว่าเคยพบเห็นกล่องไม้นี้มาก่อน แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน มันคุ้นตาเขาเหลือเกินราวกับว่าครั้งหนึ่งของชิ้นนี้เขาเคยครอบครองมาก่อน มือใหญ่ของเจ้าของห้องค่อยๆ เอื้อมไปจับกล่องไม้แสนคุ้นตา

แปลบ...วินาทีแรกที่ปลายนิ้วของเขาสัมผัสกับกล่องไม้ เหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นเข้ามาในร่างกายของพชรดนัย จนเขาต้องชักมือกลับ แต่ราวกับมีพลังแม่เหล็กดึงมือเขาให้กลับไปจับกล่องไม้อีกครั้ง พชรดนัยดึงกล่องไม้เข้าหาตัวและเปิดฝากล่องออก ของสองสิ่งที่อยู่ในกล่องไม้ปรากฏต่อสายตาของเขา ทันทีที่เขาเห็นเครื่องประดับล้ำค่าในกล่องนั้น ดวงตาของเขามองเห็นภาพบางอย่างที่ทับซ้อนเครื่องประดับขึ้นมาเดี๋ยวนั้น

ภาพนั้นก็คือ ภาพของสตรีนางหนึ่งอยู่ในอ้อมกอดของชายคนหนึ่ง ก่อนที่ชายคนนั้นจะหยิบกล่องไม้ที่มีลวดลายเหมือนกับกล่องไม้ที่อยู่ในมือของตน แหวนและกำไลนพเก้าวางอยู่บนผ้าไหมเนื้อดี ชายคนนั้นหยิบกำไลมาสวมใส่ในข้อมือของสตรีในอ้อมกอด จากนั้นก็สวมแหวนก้มลงจูบกลางหลังฝ่ามือของสตรีนางนั้น แล้วทั้งคู่ก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน พร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel