ตอนที่ 2
.
..
...
....
“คือ...ท่านรักกันมาได้พักใหญ่แล้วครับ” น้ำเหนือก้มหน้าตอบเบาเสียง เขาเองก็ไม่ได้เห็นด้วยในการแต่งงานครั้งนี้ แต่ทว่าท่านทั้งสองรักกันจึงไม่มีสิทธิ์จะห้าม แถมยังรู้ดีแก่ใจว่าความรักครั้งนี้ มันเกิดขึ้นก่อนที่มารดาของภาคินจะเสียชีวิตด้วยซ้ำ
“พักใหญ่ของนายมันนานแค่ไหนแล้ว หรือจริง ๆ แล้วน้าจันทร์กับพ่อแอบเป็นชู้กันก่อนแม่พี่ตาย” ภาคินนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้า ก่อนจะจับแขนข้างหนึ่งบีบแรง ๆ คาดคั้นเอาความจริง
“...” น้ำเหนือเอาแต่เงียบ พูดอะไรไม่ออกเพราะมันคือเรื่องจริงอย่างที่อีกฝ่ายกล่าว
“เงียบอย่างนี้แสดงว่าจริง พี่ไม่นึกเลยว่าน้าจันทร์จะเป็นคนแบบนี้ อุตส่าห์รักไม่ต่างจากญาติผู้ใหญ่ แต่แท้ที่จริงแล้วก็สันดานเมียน้อยชัด ๆ แอบลักกินขโมยกินของคนอื่น” เขาออกแรงบีบที่ต้นแขนน้อย ๆ แรงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างลืมตัว จนตอนนี้น้ำเหนือทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดเต็มที
“ปล่อยนะพี่คิน ผมเจ็บ”
“แค่นี้มันยังไม่ได้เสี้ยวกับความเจ็บปวดที่เธอสองแม่ลูกมอบให้พี่ ทำไมไม่บอกพี่สักคำว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทั้ง ๆ ที่นายเองก็คุยกับพี่ตลอด หรือนายเห็นดีเห็นงามด้วย ใช่สินะ! ถ้าน้าจันทร์ได้เป็นแม่เลี้ยงของไร่นายเองก็จะได้มีหน้ามีตา ดีกว่าต้องมาเป็นแค่ลูกแม่บ้านใช่ไหม!”
“ฮึก...ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะครับ ท่านรักกันแล้วจะห้ามได้ยังไง ก็เหมือนที่เรารักกันยังไงล่ะ” น้ำเหนือเอ่ยด้วยน้ำเสียงเว้าวอน ดวงตาสวยมีหยาดน้ำเอ่อคลอ แค่เพียงกะพริบมันก็ไหลลงอาบสองแก้มทันที
“ใช่! เรารักกันพี่ถึงได้เสียใจมากยังไงล่ะ คนรักกันคุยกันทุกวัน แต่ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย ถึงตายพี่ก็ไม่มีวันอภัยให้เด็ดขาด พวกเธอสองแม่ลูกมันก็ไม่ต่างจากปลิงที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อพ่อของพี่หรอก” ภาคินตะโกนใส่หน้าด้วยความเคียดแค้น แม้ว่าเขาจะรักน้ำเหนือคนนี้มากแค่ไหน แต่ทว่าความเจ็บปวดที่ได้รับ มันกลบความรู้สึกพวกนั้นจนหมดสิ้นไปแล้ว
เพี๊ยะ!
“ที่ผ่านมาผมหลงคิดว่าพี่เป็นคนมีเหตุผลแต่ไม่ใช่เลย พี่มันงี่เง่าเอาแต่ใจ จิตใจคับแคบ รู้อย่างนี้ผมไม่เสียเวลามารักคนอย่างพี่หรอก ฮึก...”
“พี่ก็ไม่นึกว่านายจะเป็นคนเห็นแก่ได้ขนาดนี้เหมือนกัน ก่อนที่เราจะกลายเป็นพี่น้องกัน พี่ขอเปลี่ยนสถานะให้นายมาเป็นเมียก่อนก็แล้วกัน” พูดจบภาคินก็ลากตัวหนุ่มน้อยขึ้นไปบนเตียง
“พี่คินจะทำบ้าอะไร ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ” น้ำเหนือโวยวายเสียงดัง แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมลดดีกรีความดุดันลงเลยสักนิด เขาตรึงข้อมือทั้งสองข้างไว้บนเตียง ส่งสายตาคมจ้องมองดวงหน้าหวานอย่างโกรธแค้น
“ปล่อยให้โง่สิ ครั้งนี้ถือว่าเป็นค่าเลี้ยงดูที่พ่อกับแม่พี่ส่งเสียนายเรียนจนจบก็แล้วกัน” กล่าวจบก็โน้มใบหน้าลงไปซุกไซร้ที่ซอกคอขาวอย่างหื่นกระหาย กลิ่นกายยั่วเย้าปลุกอารมณ์ให้คุกรุ่นขึ้นเป็นเท่าตัวจนไม่อาจห้ามใจ
น้ำเหนือได้แต่ส่ายหน้าไปมา หยาดน้ำใสๆ ไหลลงจากหางตาเป็นสาย เขาไม่เคยนึกเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เขาและภาคินต้องกลายมาเป็นศัตรูกัน แม้ว่าจะเคยทำใจไว้บ้างแต่ทว่าพอถึงเวลากลับสร้างความเจ็บปวดให้เกินกว่าที่คิด
“ผมเกลียดพี่คิน เกลียดที่สุดในโลก ฮือ ๆ” น้ำเหนือตะโกนสุดเสียง แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับเงยหน้าขึ้นมาสบตามอง ใบหน้าหล่อแดงก่ำด้วยฤทธิ์ความกำหนัดที่แล่นพล่านในร่าง ยิ่งได้สูดกลิ่นกายหอมเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งทำให้ความต้องการท่วมท้นขึ้นเป็นเท่าตัว
“ได้! เกลียดนักใช่ไหมวันนี้พี่จะทำให้นายเกลียดยิ่งขึ้นไปอีก” ภาคินโน้มใบหน้าคมลงประกบจูบริมฝีปากบาง บดจูบอย่างหนักหน่วงราวกับอีกฝ่ายเป็นที่ระบายความโกรธแค้น มือหนาคลายข้อมือน้อย ๆ ให้เป็นอิสระ จากนั้นเลื้อยมาปลดเปลื้องอาภรณ์ เผยให้เห็นเรือนกายสวยล่อตาล่อใจ
น้ำเหนือยกมือขึ้นไปวางบนแผ่นหลังเขา ทั้งข่วนและหยิกเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บปวดและยอมปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ทว่าเรี่ยวแรงแค่นั้นกลับไม่เป็นผลให้เขาระคายเคืองแม้แต่น้อย
“เพิ่งรู้ว่านายชอบความรุนแรง จะเอาอย่างนั้นใช่ไหม” ใบหน้าหล่อผละออกมาเอ่ยด้วยรอยยิ้มมัจจุราช บ่งบอกว่าเขาไม่สะทกสะท้านกับความเจ็บปวดอันน้อยนิดนั่นเลย
“ฮือ ๆ ผมเกลียดพี่ได้ยินไหม เกลียดที่สุดในโลก” เขาทำได้เพียงร้องไห้ร้องห่ม ตะโกนด่าพร้อมทั้งน้ำตาอย่างหมดทางสู้
“ยิ่งนายเจ็บปวดพี่ยิ่งสะใจ ในเมื่อน้าจันทร์ทำอย่างนั้นกับแม่พี่ได้ พี่ก็จะเอาตัวนายมาเป็นที่ระบายความใคร่เหมือนกัน” พูดจบเขาก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ส่งปลายลิ้นตวัดเลียยอดปทุมถันสีชมพูระเรื่อ น้ำเหนือได้แต่กำมือแน่น ๆ ทุบบนแผ่นหลังระรัว แต่ทว่าความเสียวกลับแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ทำให้ความพยศเปลี่ยนเป็นความสมยอมอย่างช่วยไม่ได้ ความชำนาญของเขาทำให้หนุ่มน้อยอ่อนระทวยได้อย่างง่ายดาย
ผ้าพื้นเมืองล้านนาถูกปลดเปลื้องติดมือเขาออกไป ทำให้เรือนร่างขาวนวลเนียนโชว์หราอล่างฉ่าง
“อื้อ...อ่อย...”
น้ำเหนือพยายามประท้วงในลำคอ เขาแทบไม่ปล่อยให้มีโอกาสแม้แต่จะหายใจ ในช่วงเวลานั้นชายหนุ่มก็ปลดตะขอกางเกงยีนแบรนด์ดัง รูดซิปลง จากนั้นก็งัดเจ้าท่อนเอ็นตัวเขื่องออกมาชมโลกภายนอก รูดขึ้นลงสามสี่ครั้งเพื่ออุ่นเครื่อง ความต้องการอันหนักหน่วงทำให้ชายหนุ่ม ไม่คิดแม้แต่จะเปลื้องอาภรณ์ออกให้เสียเวลา