ตอนที่ 1
.
..
...
....
ลงจากรถที่เช่ามาจากสนามบินแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหุ่นกำยำสมส่วน ใบหน้าหล่อคมสัน ก็ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ทอดสายตามองไปยังบ้านไม้สองชั้นสไตล์รีสอร์ต ที่เจ้าตัวเคยอาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็กจนโต แต่ทว่าพอเรียนจบชั้นมอปลาย ภาคิน ก็ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศตามคำสั่งของบิดา
จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เข้าสู่ปีที่หกแล้ว เขาจบการศึกษาปริญญาตรีและโทด้านบริหาร จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของอังกฤษ จึงบินกลับมาอยู่ที่ไร่โอภาสแห่งนี้อย่างถาวร
ภาคินกลับก่อนกำหนดหนึ่งสัปดาห์ เพื่อจะมาเซอร์ไพรซ์บิดา และต้องการเจอหน้าหนุ่มน้อยที่เคยเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่วัยเยาว์นามว่า น้ำเหนือ เขาเป็นลูกชายแม่บ้านคนโปรดของมารดา ซึ่งภาคินเองก็ให้ความเคารพนับถือไม่ต่างจากญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง
น้ำเหนือเป็นหนุ่มน้อยที่เติบโตมาในไร่แห่งนี้พร้อมกับภาคิน เขาเป็นหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาออกไปทางหวานเล็กน้อย เก่งเรื่องงานบ้านงานเรือนยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก แถมยังมีอัธยาศัยดีเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย อุปนิสัยเหล่านี้ทำให้ภาคินหลงรักได้อย่างง่ายดาย และทั้งสองต่างก็มีใจให้กันตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น แต่ทว่าเรื่องนี้กลับเป็นความลับรู้กันเพียงแค่สองคนเท่านั้น
ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเดินมาเกือบจะถึงหน้าบ้าน ทว่ากลับต้องชะงักงันด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินเสียงสะล้อซอซึง บรรเลงดังแว่วมาราวกับกำลังมีงานรื่นเริง หลอดไฟนับร้อยถูกประดับตกแต่งบริเวณสวนรอบบ้าน นั่นยิ่งทำให้เจ้าตัวมั่นใจเข้าไปใหญ่
“มีงานอะไรกันนะ”
ผู้มาใหม่เอ่ยเบา ๆ ก่อนจะลากกระเป๋าเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม เพราะคิดถึงและโหยหาอุ่นไอรักจากบ้านหลังนี้มาตลอด ยิ่งเข้าไปใกล้ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ เพราะมีแขกเหรื่อมาร่วมงานหลายสิบชีวิต เขาจำได้ว่าส่วนมากคือเพื่อนสนิทของบิดา
“อ้าว! ภาคินไหนพ่อเราบอกว่าจะกลับอาทิตย์หน้า” กำลังจะเดินเข้าไปในงาน ก็มีหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง ในมือก็ถือแก้วไวน์สีเลือดนกไว้ดื่มด้วย
“สวัสดีครับคุณอา พอดีผมอยากกลับมาเซอร์ไพรซ์พ่อน่ะครับ” เจ้าตัวกล่าวพลางยกมือไหว้ชายสูงวัยกว่าอย่างมีสัมมาคารวะ
“อ้าว! พ่อเราไม่ได้บอกเหรอว่าจะแต่งงานวันนี้”
“ว่าไงนะครับ! พ่อจะแต่งงานงั้นเหรอ” ได้ยินอย่างนั้นชายหนุ่มก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เขาไม่นึกเลยว่าบิดาจะกล้าทำอย่างนี้ ทั้งที่มารดาเพิ่งจะเสียไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง แถมก่อนมารดาสิ้นลมหายใจ ผู้เป็นบิดายังสัญญาว่าจะไม่รักใครอีกตลอดชีวิต
“อ้าวนี่เราไม่รู้เรื่องหรอกเหรอ” เมื่อรู้อย่างนั้นอีกฝ่ายก็ทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
“ไม่ครับ พ่อไม่เคยบอกอะไรผมเลย แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครครับ” ความโกรธแค้นเริ่มปะทุขึ้นภายในอก เขาไม่เคยคิดว่าจะโกรธบิดาได้มากถึงเพียงนี้ และไม่มีวันอภัยให้อย่างแน่นอน
“เอ่อ...น้ำจันทร์น่ะ งั้นเดี๋ยวอาขอตัวก่อนนะ” กล่าวจบก็รีบเดินหนีโดยเร็ว ปล่อยให้ชายผู้มาใหม่ยืนถลึงตามองไปยังเวทีกำมือแน่นจนสั่น เมื่อเห็นว่าคู่บ่าวสาวกำลังเดินควงแขนขึ้นไปบนเวที สวมชุดพื้นเมืองบ่าวสาวชาวเหนือ สีหน้าของคนทั้งสองเต็มไปด้วยรอยยิ้ม บ่งบอกว่ากำลังมีความสุขมากแค่ไหน
ระหว่างนั้นภาคินก็บังเอิญเห็นหนุ่มน้อยที่เขาเฝ้ารอวันมาพบเจอ จึงรีบเดินเข้าไปรั้งแขนไว้ก่อนจะเดินไปยังหน้าเวทีเสียก่อน
เมื่อโดนรั้งแขนไว้น้ำเหนือก็สลัดออกโดยอัตโนมัติ หันขวับมาจ้องมองอย่างไม่พอใจ แต่ทว่าเมื่อรู้ว่าเป็นใครใบหน้าหวานก็มีรอยยิ้มขึ้นมาทันที
“พี่คิน!”
“มานี่เลย” เขาไม่มีอารมณ์ส่งยิ้มตอบ แม้ว่าอยากจะทำมันมากเหลือเกิน แต่ตอนนี้เรื่องที่บิดาแต่งงาน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขามันสำคัญกว่านั้น
“พี่คินจะพาผมไปไหน ปล่อยนะครับ” หนุ่มน้อยพยายามเอ่ยท้วง แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับยังคงกระชากแขนอย่างไร้ความปรานี ผิดแปลกกับภาคินที่เคยอ่อนโยนคนนั้น
“ตามมาเถอะน่า แล้วก็หุบปากด้วยไม่งั้นพี่จัดการนายแน่” เขาลากตัวน้ำเหนือเดินเข้าไปในบ้าน ขึ้นไปยังชั้นสองเข้าห้องนอนตัวเอง
ปัง!
“โอ๊ย! พี่คินทำบ้าอะไรเนี่ย” เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว ภาคินก็ผลักร่างบอบบางลงที่พื้นอย่างไม่ไยดี ทำให้ก้นงามงอนกระแทกพื้นจนรู้สึกเจ็บไม่น้อย
“อธิบายมาซิว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง! แม่นายกับพ่อพี่แต่งงานกันได้ยังไง!” อีกฝ่ายยืนกอดอกทำหน้ายักษ์ ตะโกนออกไปสุดเสียง จ้องมองดวงหน้าอีกฝ่ายอย่างเดือดดาล
ที่เขาต้องถามอย่างนี้ เพราะช่วงที่อยู่เมืองนอก ได้ติดต่อพูดคุยกับน้ำเหนือแทบจะทุกวัน แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเลย