บทที่ 5 คนในความลับ (2)
บทที่ 5
คนในความลับ (2)
“แล้วไหมบอกไปว่าไง ปฏิเสธหรือแก้ตัวอะไรไปหรือเปล่า” สีหน้าเคร่งขรึมของปริญปรากฏขึ้น มือที่จับลาดไหล่มนก็กดน้ำหนักจนเกือบเป็นแรงบีบ
“ไหมปฏิเสธไปแล้วค่ะ แล้วก็บอกไปด้วยว่าไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน พี่ปิ๋มกับพี่แพทเองก็ดูว่าจะเชื่ออยู่นะคะ ไม่ได้ถามอะไรต่อเลย”
“วางใจไม่ได้หรอก ไหมเองก็รู้ว่าสองคนนั้นหูตาไวขนาดไหน พี่กลัวว่าเขาจะรู้เรื่องของเรา”
ดวงตาหวานวูบไหวสั่นระริก เธอแน่นิ่งชาดิกจนพูดอะไรไม่ออก รู้อยู่แล้วว่าสถานะของเราควรเป็นความลับ ย้ำชัดตั้งมั่นอยู่ทุกวี่วันว่าเธอจะเก็บมันไว้ในส่วนลึกไม่มีทางเปิดเผย แต่พอได้ยินเขาพูดต่อหน้าไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่ครากลับไม่เคยชินชา หนำซ้ำมันยิ่งเจ็บปวดจนหัวใจแหลกสลาย
“อย่ากังวลเลยค่ะ ไหมดูออกว่าพี่ ๆ เขาคงไม่คิดอะไร ไหมก็บอกไปว่าน่าจะตาฝาดหรือไม่พี่ปริญก็ไปกับคนอื่นที่ไม่ใช่ไหม พอไหมบอกไปแบบนั้นพวกพี่ ๆ เขาก็เริ่มคล้อยตาม” ม่านไหมบอกตามจริง
เธอดูท่าทางของคนอื่นออก และมั่นใจว่าคำแก้ตัวของเธอมีน้ำหนักมากพอ
ใครจะเชื่อเล่าว่าเธอจะคบหากับหัวหน้าแผนกวิศวะซ่อมบำรุงอย่างปริญ เขาเพียบพร้อมและดีเลิศ ผู้หญิงมากมายต่างแวะเวียนมาขายขนมจีบให้ทั้งนั้น ส่งสายตาหมายปองอยู่ทุกวัน หากเขามาคบกับพนักงานบัญชีน้องเล็กอย่างเธอก็นับว่าอัศจรรย์มาก
“ไหมแน่ใจใช่ไหม” ใบหน้าหล่อเหลาคลายความกังวลลงไปได้บ้าง แต่ปริญก็ยังถามย้ำเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเรื่องของเขาและเธอจะไม่หลุดรั่วออกไปจริง ๆ
“ค่ะ ไหมแน่ใจ”
“อืม...ก็ดี พี่ยังอยากอยู่กับไหมเหมือนเดิม แต่ถ้าคนอื่นรู้เรื่องของเราก็คงต้องจบ”
“อึก...” ม่านไหมถึงกับสะอึก เธอหวาดกลัวทุกครั้งที่นึกถึงการสิ้นสุดความสัมพันธ์ลับ ๆ แบบนี้
เธอยอมเป็นคู่นอนไร้ตัวตนของปริญเพียงเพราะอยากใกล้ชิดเชยชม ไม่อยากคิดเลยว่าหากถึงวันนั้นจริง ๆ หัวใจของเธอจะแหลกสลายแตกพร่ามากแค่ไหน
“งั้นวันนี้ไหมขับรถไปเองนะ ขืนไปด้วยกันแล้วมีคนมาเห็นคงสงสัยกันหมดแน่”
เพราะแบบนี้ไงเล่าเธอถึงไม่อยากบอกเขา...
“ได้ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่ประดับ มันส่งผ่านให้เช่นทุกครั้งแม้ว่าในใจจะกำลังร้องไห้มากแค่ไหนก็ตาม
เธออุตส่าห์ได้เลื่อนขั้นขอติดรถไปทำงานร่วมกันกับเขาทุกเช้าได้เกือบเดือนแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าการถูกจับตามองเรื่องความสัมพันธ์จากคนในบริษัทนิดเดียวจะทำให้ความใฝ่ฝันของเธอสูญสลายชั่วพริบตา
หลังจากสถานะเปลี่ยนปริญก็ให้ม่านไหมย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่คอนโดฯ ของเขา อีกทั้งเธอเองก็ตัดสินใจซื้อรถยนต์มาใช้หนึ่งคันเนื่องจากปริญไม่อยากให้เธอขึ้นรถสาธารณะไปทำงานและรวมถึงเรื่องความสะดวกสบาย
แม้จะอาศัยอยู่ด้วยกันแต่การกระทำของคนสองคนแทบไม่ต่างจากคนแปลกหน้า สถานะลับ ๆ ไร้ตัวตนเกิดขึ้นล่วงเข้าสู่ปีที่สามแล้ว และแน่นอนว่าม่านไหมอยากให้มันดำเนินต่อไป รอคอยวันที่หัวใจของเธอจะแปรเปลี่ยนไปเอง...
“ไหม...ไหมจ๊ะ”
“...”
“ไหม! ไหมได้ยินพี่หรือเปล่า”
“ค่ะ...คะ!? พี่ยุ้ยว่าไงนะคะ” ม่านไหมสะดุ้งตัวโยนเมื่อได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากหัวหน้าแผนกที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าหวานเปลี่ยนกลับจากอาการเหม่อลอยเป็นจืดเจื่อนทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่าไหม พี่ยุ้ยเขาเรียกตั้งนาน คิดอะไรอยู่เหรอ” เป็นเสียงของแพทที่เอ่ยถามขึ้นพลางมองหน้ารุ่นน้องสาวด้วยความเป็นห่วง
ตั้งแต่มาทำงานแต่เช้าก็เห็นว่าหญิงสาวหมองเศร้าไม่สดใส ปกติจะเดินแจกยิ้มหวาน ๆ มาแต่ไกล พอได้รับกระแสความทุกข์ก็อดที่จะเป็นห่วงน้องเล็กของกลุ่มไม่ได้
“เอ่อ...ไหมคิดอะไรเพลิน ๆ น่ะค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เที่ยงแล้วจ้ะ ไปกินข้าวกัน”
หญิงสาวหันมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทันที ตอนนี้เที่ยงนิด ๆ แล้ว หากไปช้าก็ต้องเสียเวลาไปยืนต่อแถวซื้ออาหารในแคนทีนอีก
“ไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวข้าง ๆ บริษัทกันดีไหม พี่อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างอะ” ยุ้ยเสนอร้านใหม่เพราะเริ่มเบื่อเมนูอาหารซ้ำซากที่กินมาร่วมหลายปีตั้งแต่เข้าทำงาน
“ได้สิคะ ก็ว่าจะชวนเหมือนกัน นี่ก็ว่าจะแวะซื้อชาไข่มุกร้านข้างหน้าด้วย ร่างกายต้องการน้ำตาลด่วน ๆ!”
สี่สาวบัญชีเดินไปยังร้านจุดหมายทันทีเนื่องด้วยความหิวโหยและความอ่อนล้าจากการทำงานหนัก อาหารและเครื่องดื่มชื่นใจที่ตกลงท้องนับว่าเป็นเครื่องช่วยเยียวยาชิ้นดีสำหรับเหล่ามนุษย์เงินเดือน
แต่ละคนเลือกสั่งกันคนละชามพ่วงด้วยน้ำหวานคนละแก้วที่ตั้งวางบนโต๊ะ ระหว่างทานก็พูดคุยกันถึงเนื้อหางานที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันไปพลาง ๆ แต่ทว่าบทสนทนาเป็นต้องชะงักลงเมื่อร่างสูงใหญ่ของหัวหน้าแผนกไอทีมาหยุดยืนอยู่ที่หัวโต๊ะ และในมือก็ถือของกินมากมายที่ทุกสายตาจดจ้องต่างก็รับรู้ได้ทันทีว่าต่อจากนี้ใครจะได้เป็นเจ้าของมัน
“สวัสดีครับน้องไหม พี่ซื้อกล้วยทอดกับลูกชิ้นปิ้งมาให้ แล้วก็มีกาแฟด้วยนะครับกลัวว่าช่วงบ่ายน้องไหมจะง่วง” ตรีเทพหัวหน้าฝ่ายบัญชีวางของที่ถือในมือทั้งหมดลงบนโต๊ะตรงหน้าของม่านไหม พร้อมกันนั้นรอยยิ้มกว้างทรงเสน่ห์ก็ส่งผ่านมาให้เธอ เช่นเดียวกับดวงตาพราวระยับที่มีไว้มองหญิงสาวหน้าหวานแต่เพียงผู้เดียว
“โอ๊ย! นั่งกันอยู่ตั้งกี่คนคะพี่เต้ ซื้อมาให้น้องไหมคนเดียวเนี่ยนะ ใจร้ายอะ!” ปิ๋มขมวดคิ้วมองหน้าหากแต่มันไม่ได้จริงจังนัก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชายหนุ่มมีของกินมาซื้อใจน้องเล็กฝ่ายบัญชี
นับว่าเป็นเรื่องโชคดีซะอีกเพราะม่านไหมแทบไม่แตะ มีแต่จะแบ่งปันให้พี่ ๆ ไปกินด้วยกันเพราะเธอคนเดียวกับจัดการกับมันไม่ไหวแน่
“แหม่น้องปิ๋ม ขืนพี่ซื้อให้ทุกคนพี่ก็จนแย่เลยสิ แล้วอีกอย่าง...พี่ซื้อให้คนพิเศษเท่านั้นนี่นา”
